10 การย้ายสังกัดที่ไม่มีทางเป็นไปได้

เรื่องบางเรื่องบางครั้งก็ไม่มีทางเป็นไปได้ อย่างให้น้องแพนเค้ก มารักคนธรรมดาสามัญอย่างข้ากระผมก็ไม่มีทางเป็นไปได้ ฉะนั้น การอุปโลกน์เพื่อเอามันก็เป็นเรื่องที่จรรโลงหัวใจของเราได้ไปวันๆ ก็อย่างที่รู้กันอยู่ว่าในวงการลูกหนังย่อมมีทีมรักและทีมชัง รวมทั้งย่อมมีตำนานของแต่ละสโมสร ดังนั้น ไม่มีทางเลยที่พวกเขาเหล่านั้นจะย้ายไปทำมาหากินกับสโมสรคู่อริ

            ลองมาเพิ่งพินิจพิจารณากันดูว่ามีนักเตะหรือบุคคลไหนที่ไม่มีทางเป็นไปได้ว่าจะย้ายไปทำหน้าที่กับสโมสรโน่นสโมสรนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลส่วนตัวหรือเหตุผลอื่นใดก็ตาม



10) อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ ไป อินเตอร์ มิลาน



            เมื่อ 2 ปีก่อน มีรายงานว่า อินเตอร์ มิลาน สร้างเรื่องเหลือเชื่อเมื่อพวกเขาเซ็นสัญญากับ เดล ปิเอโร่ ไม่ต้องแปลกใจเลยว่ารายงานดังกล่าวโดนแฟนบอล เบียงโคเนรี่ระดมด่ายับเพราะไม่ทางเชื่อว่าสโมสรของพวกเขาจะยอมปล่อยตำนานซึ่งอยู่ค้าแข้งในถิ่น โอลิมปิก ตูริน เกือบ 2 ทศวรรษ ว่ากันตามความเป็นจริงแล้วเรื่องดังกล่าวไม่ได้หมายถึง เดล ปิเอโร่ ย้ายไปกระทุ้งประตูในถิ่นจูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า แต่เป็น จาโก้ เดล ปิเอโร่ ดาวเตะวัย 14 ปีซึ่งไม่ได้เป็นญาติโกโหติกาของ หัวหอกกัปตันทีม ม้าลายที่ย้ายไปเล่นกับ อินเตอร์ ต่างหาก โดยหนึ่งในแฟนบอล ยูเวนตุส เผยถึงความรู้สึกตอนแรกที่ได้อ่านข่าวดังกล่าวว่า ผมเกือบหัวใจวายเลย และนั่นก็เรื่องจริงที่น่าจะเกิดขึ้นกับแฟนบอล ยูเว่ อีกหลายๆ คน ที่ได้อ่านเรื่องของ เดล ปิเอโร่ ย้ายไปเล่นกับ งูใหญ่






9)  โจวานนี่ ตราปัตโตนี่ ไปคุมฝรั่งเศส


         
            ไม่ต้องสงสัยเลยว่าช่วงเวลาที่เลวร้ายในปี 2009 กับเหตุการณ์ หัตถ์พระห้อย ของ เธียร์รี่ อองรี กองหน้าจอมเก๋า ที่ใช้มือนรกเขี่ยบอลถวายพานให้ วิลเลี่ยม กัลลาส ยิงประตู ในรอบเพลย์ออฟ โซน ยุโรป ศึกเวิลด์ คัพ 2010 ซึ่งมีชื่อเสียงไม่ด้อยไปกว่า แฮนด์ ออฟ ก็อด ต้นฉบับจากปลายมือของ ดีเอโก้ มาราโดน่า เขี่ย อังกฤษ ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย บอลโลก 1986 โดยจังหวะดังกล่าวเปลี่ยนแปลงชีวิตของ ไอร์แลนด์ ซึ่งมี ตราปัตโตนี่ กุมบังเหียน จากที่จะเข้าไปตะลุยดินแดนซาฟารี กลับต้องนั่งดูเกมทางทีวีแทน 


                อย่างที่บอกเอาไว้ว่าจังหวะดังกล่าวนอกจากผู้ตัดสินตาถั่ว หรือกลัว มิเชล พลาตินี่ ประธานยูฟ่า ไล่ออกจากงานหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถึงได้มองไม่เห็นมือดำๆ ของ อองรี ที่ปาดบอลเหมือนปาดอุนจิที่ติดขอบก้นให้กับ กัลลาส ยิงประตู และด้วยเหตุนี้คงไม่มีทางที่ กุนซือขรัวเฒ่า ลืมได้ และทำใจรับงานกุมบังเหียนทัพ เลส เบลอส์ จากเหตุการณ์นั้นทำให้ทางสมาคมฟุตบอลไอร์แลนด์ (เอฟเอไอ) เดินเรื่องขอให้ ฟีฟ่า จัดแมตช์รีเพลย์ใหม่ แต่ เจ้ากรมลูกหนัง ไม่เออออห่อหมกด้วย ส่วน อดีตดาวเตะอาร์เซน่อล และบาร์เซโลน่า ก็โดนสาปแช่งมาตลอดนับตั้งแต่วันนั้น


                แต่ดูเหมือนผลกรรมที่ทำเอาไว้จะติดจรวดทันที เพราะ ฝรั่งเศส ทำเรื่องงามหน้าตกรอบแรก ศึกเวิลด์ คัพ 2010 พร้อมกับความชิบหอยของนักเตะกับ เรย์มงด์ โดเมเน็ค โค้ช จนสุดท้ายแพแตกกระซ่านกระเซ็นไปคนละทางสองทาง โดยชาวไอริชถึงขนาดเฮฮาปาร์ตี้ จนแทบจะออกมาฉลอง เนื่องจากได้เห็นพวกขี้โกงต้องแพ้ภัยตัวเอง





 

8. เปเล่ ไปเล่นกับ โบคา จูเนียร์ส


                แค่ชื่อกับเชื้อสายของ ไข่มุกดำ ก็ไม่ต้องหวังได้เข้าไปเหรียบเมกะลูกหนังในดินแดน ฟ้า-ขาว ซึ่งก็ไม่แตกต่างกับ ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ ที่ทั้งตัวและหัวใจคือ โรม่า, ฟร้านซ์ เบ็คเค่นเบาเออร์ คือ บาเยิร์น มิวนิค และ ดีเอโก้ มาราโดน่า เป็นทุกอย่างของ โบคา จูเนียร์ส ที่นี้ลองจินตนาการกว้างไกลว่าหาก เปเล่ เข้ามาทำหน้าที่โค้ช, ผู้บริหาร หรือที่แย่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือการเป็นนักเตะของยักษ์ใหญ่แห่งบูเอโนส ไอเรส มันจะเกิดอะไรขึ้น แน่นอนไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาด เพราะนอกจากชาติมหาอำนาจทั้งสองจะแย่งชิงความเป็นใหญ่ในวงการลูกหนังตลอดหลายๆ ปีที่ผ่านมาแล้ว เสือเตี้ย กับ เปเล่ ก็มักต่อปากต่อคำว่าใครกันแน่ที่เป็นนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกันต์นี้






7. ดีเอโก้ มาราโดน่า ไปค้าแข้งกับ ริเวอร์เพลท




                 เรื่องการย้ายทีมในครั้งนี้บอกเลยว่าเป็นศูนย์เปอร์เซ็นต์ เหมือนกับการเห็น มาราโดน่า เล่นให้ ซานโตส หรือโยกไปกุมบังเหียนทีมชาติบราซิล รวมทั้ง อังกฤษ ด้วย ก็อย่างที่รู้กันเต็มอกว่า เสือเตี้ย มีหัวใจดวงเดียวให้กับ โบคา จูเนียร์สซึ่งเป็นคู่อริร่วมชาติกับ ริเวอร์เพลท เท่านั้น และเขาก็ยังคงรักมั่นอยู่กับ โบคา มาตลอดจนทุกวันนี้ ดังนั้นเรื่องดังกล่าวแทบจะปิดประตูไปได้เลย เนื่องจาก พี่เตี้ย ไม่เคยคิดที่จะทรยศทีมรัก และการได้ก้าวขึ้นมาเป็นประธานสหพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ ยังง่ายกว่าด้วยซ้ำ





6. ไรอัน กิ๊กส์ ไป ลิเวอร์พูล



                 ปีกพ่อมด ก็เหมือนกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อาจารย์สุดที่รัก ที่ไม่มีทางเก็บข้าวของออกจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อไปทำมาหารับประทานในถิ่นแอนฟิลด์ แน่นอน ด้วยเหตุความเป็นคู่อริตลอดกาลของทั้งสองสโมสร อีกทั้งการอยู่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็ประสบความสำเร็จเป็นกอบเป็นกำอยู่แล้ว และจะหาเหาใส่หัวโยกไปกระชากลากเลื้อยให้ หงส์แดง ทำมะเขือเผาทำไม ปรัชญาการค้าแข้งของ กิ๊กซี่ ต่างจาก ไมเคิ่ล โอเว่น หัวหอกกระดูกเปราะที่ทรยศอดีตอู่ข้าวอู่น้ำไปล่าตาข่ายกับ ปีศาจแดง เอาเป็นว่าไม่ใช่ กิ๊กส์ ที่ไม่อยากย้ายไปเล่นกับ ลิเวอร์พูล แต่ยอดทีมแห่งลุ่มแม่น้ำเมอร์ซี่ย์ ก็ไม่สนอยากได้ตัวเหมือนกัน








5.  ไบรอน โมเรโน่ ไปบริหารสหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี




                  ไบรอน โมเรโน่ อดีตผู้ตัดสินชาวเอกวาดอร์ ชื่อนี้คนอิตาลีไม่เคยลืมเพราะเป็นกรรมการสุดแสบที่ทำให้ทัพ อัซซูรี่ ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกเวิลด์ คัพ 2002 หากจำกันได้เขาคนนี้สร้างรอยแค้นให้กับดินแดนรองเท้าบู้ท เมื่อปฏิเสธลูกยิงโกลเด้นโกล ของ ดาเมียโน่ ตอมมาซี่ เป็นประตู แถมยังเพิ่มความแค้นเป็นคำรบสองด้วยการเดินหน้าระรื่นควักใบเหลืองที่ 2 ไล่ ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ ออก ด้วยข้อหรอุปโลกน์เอาเองว่า เจ้าชายหมาป่า พุ่งล้มหวังเอาจุดโทษ และมองจากภาพรีเพลย์เห็นได้ชัดเจนว่า ต๊อตติ โดนเตะล้มจริงๆ ไม่ได้อิงนิยาย แถมยังเศร้าสะท้านทรวงเมื่อโดน อาห์น จุง ฮวาน หัวหอก โสมขาว ซัดประตูทองช่วงต่อเวลาพิเศษอีกต่างหาก หลังจบเกมทาง อิตาลี เผยว่าจริงๆ แล้วมีการฮั้วกันที่ต้องการเขี่ย อิตาลี ตกรอบ


                    ความเลวร้ายของ โมเรโน่ ที่สร้างเอาไว้เป็นรอยราคีคาวในศึกเวิลด์ คัพ ฉบับกิมจิ จิ้มปลาดิบ แม้จะไม่ได้รับการลงทัณฑ์ แต่คนเราสันดานมันขี้โกงจะให้เลิกก็ไม่ได้ หลังอุตริคิดหอกหักอะไรไม่ทราบทดเวลาบาดเจ็บนานโคตรถึง 13 นาที ในเกมระหว่าง เดปอร์ติว่า ยูนิเวอร์ซิตาเรีย เดอ กีโต้ พบ บาร์เซโลน่า สปอร์ติ้ง คลับ ในเกมลีกบ้านเกิด โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ เดปอร์ติว่า ยิง 2 ประตุในช่วงเวลาดังกล่าวพลิกกลับมาชนะ 3-2 และผลการกระทำที่ชั่วร้ายทำให้เขาโดนแบนไป 20 แมตช์ แต่ขอบอกว่าเฮียไม่มีเข็ด เพราะหลังจากหมดโทษแบน โมเรโน่ ก็เจอแบนอีกครั้งหลังทะลึ่งไล่นักเตะออก 3 คน ในเกมเดียว




 

4. ชาบี เอร์นานเดซ กับ การ์เลส ปูโยล ย้ายไปเล่น เรอัล มาดริด


                     สองหนุ่มชาวกาตารุนย่า มีความภาคภูมิใจในมาตุภูมิของตัวเอง และไม่เคยรู้สึกมีชีวิตชีวาแบบเกินหน้าเกินตาเมื่อช่วยให้ บาร์เซโลน่า ทุบ เรอัล มาดริด ในศึกเอล กลาซิโก้ จะว่าไปแล้วการปะทะแข้งของทั้งสองทีมไม่ต่างอะไรกับสงครามกลางเมืองสเปน ฉะนั้นหากหนึ่งในส ตาร์ของชาวกาตารุนย่า ไม่ว่าจะเป็น ชาบี, การ์เลส ปูโยล หรือ โจเซป กวาร์ดิโอล่า (กุนซือบาร์ซ่า) ทิ้งถิ่นคัมป์ นู เพื่อไปเล่นให้ ราชันชุดขาว มันคงไม่ต่างอะไรกับคนทรยศเลยทีเดียว และไม่มีทางที่จะได้อยู่เป็นสุขแน่นอน



3. มัสซิโม่ โมรัตติ บริหาร ยูเวนตุส



                    จากคดีอื้อฉาวการล้มบอลที่โดนเปิดโปรงเมื่อปี 2006 เป็นเรื่องที่สะเทือนวงการลูกหนังเมืองมะกะโรนีอย่างแท้จริง และเป็นการเปิดเผยความจริงที่น่าจะมีมานานแล้วแต่ยังไม่สามารถจับได้ จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นส่งผลให้ ยูเวนตุส โดนลงโทษปรับตกชั้นไปอยู่ในเซเรีย บี แถมยังถูกริบแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา 2 สมัย พร้อมมอบให้ งูใหญ่ ได้เชยชมหน้าตาเฉย มองจากเหตุผลต่างๆ ทำให้แฟนบอล ยูเว่ เชื่อว่าเรื่องทั้งหมดเป็นแผนบัญชาการของ มัสซิโม่ โมรัตติ ซึ่งมีสายสัมพันธ์ลึกซึ้งกับทราเช็ตติ ปราเวร่า ประธานบริษัท เทเลคอม อิตาเลีย กับ กุยโด้ รอสซี่ คณะกรรมการสหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี (เอฟไอจีซี) ซึ่งรู้กันเป็นอย่างดีว่าทั้ง 2 คนเป็นผู้ถือหุ้นสำคัญของ อินเตอร์ โดยทั้งหมดจัดการเรื่องหลักฐานต่างๆ และโยนอุนจิใส่ ยูเว่ เต็มๆ ฉะนั้น ถ้า โมรัตติ ดันทะลึ่งลงจากตำแหน่งประธานสโมสร งูใหญ่ และเข้ารับหน้าที่บริหารงานกับ ยูเวนตุส เชื่อขนมกินได้เลยว่าคงจะเกิดสงครามกลางเมืองตูรินชัวร์ !






2. เวย์น บริดจ์ กลับถิ่นเก่า เชลซี



                     บริดจ์ เคยมีความสุขกับการเล่นให้ เชลซี ตลอด 6 ปีในช่วงระหว่างปี 2003-2009 แต่ขอบอกได้เลยว่าไม่มีทางที่ บริดจ์ จะกลับไปยังถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกครั้งแน่นอน ไม่ใช่เพราะเรื่องฝีเท้าไม่ถึง แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือหากต้องย้ายไปอยู่ชายคาเดียวกับ จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีม สิงโตน้ำเงินคราม มีหวังได้ระงับอารมณ์ไม่อยู่ฆ่าคนแน่นอน เพราะแม้ครั้งหนึ่ง เจที คือเพื่อนรัก แต่ก็กลายเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดเมื่อแอบตีท้ายครัวโขยก วาเนสซ่า แปร์รงแซล เมียไม่ได้แต่งของเขามันอุราตลอดช่วงที่สวมเสื้อ สิงห์บลูส์ ที่สำคัญไปกว่านั้นเจ้าตัวยังระริกระรี้ตี้ซี้เป็นเพื่อนรักกับ แบ็กซ้าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนิดที่ไม่สนว่ามีอะไรเกิดขึ้นบนเตียงเพื่อนเลย ด้วยเหตุนี้ บริดจ์ ก็เลยขออำลาการเล่นทีมชาติอังกฤษ เพราะรับไม่ได้กับไอ้คนสันดานชั่วลักขโมยเขากินแบบ เทอร์รี่ และจากการโบกมือลาทัพ สิงโตคำราม นั่นก็หมายถึงฟางเส้นสุดท้ายที่พวกเขาได้เป็นเพื่อนร่วมทีมกัน






1. ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ ไป ลาซิโอ



                      บุคคลท่านนี้คือสัญลักษณ์ของ โรม่า บางทีในวงการลูกหนังคงไม่มีนักเตะคนไหนที่จะมีความสำคัญกับสโมสรมากกว่าที่ ต๊อตติ ได้แสดงให้เห็นกับทัพ หมาป่าเหลือง-แดง อีกแล้ว ทั้งนี้ มีนักวิจารณ์เกมฟุตบอลเคยกล่าวเอาไว้ครั้งหนึ่งโดยอ้างอิงถึงสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งในอังกฤษ ว่า โรม่า ก็เหมือนกับช่อง 5 หากไม่มี ต๊อตติ ก็ไม่มีช่องนั้นอีกต่อไป โดย ต๊อตติ เกิดและถูกเลี้ยงดูขึ้นมาในเมืองหลวงอิตาลี และเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ โรม่า นับตั้งแต่ที่ลืมตาดูโลกทันที (เว่อร์หรือเปล่าเนี้ยะ) ต๊อตติ เป็นดาวซัลโวสูงสุด และเป็นผู้เล่นแห่งประวัติศาสตร์ของ จัลโล่รอสซี่ เขามีปัญหาทะเลาะกับพวก อินทรีฟ้า-ขาว  ลาซิโอ คู่อริร่วมเมืองมาตลอด และเหตุการณ์ที่เด่นชัดจนแฟนบอลยังจำได้ทุกวันนี้ก็คือการแสดงพฤติกรรมชูนิ้วโป้งลงดินเพื่อเป็นการเยอะเย้ยสาวก เบียงโคเชเลสเต้ที่กำลังกังวลจนเยี่ยวเหนียวเนื่องจากทีมรักอาจจะตกชั้นเมื่อซีซั่นที่แล้ว ด้วยเหตุผลแค่นี้ก็ลองมโนภาพ ต๊อตติ สวมเสื้อ ลาซิโอ ดูซิว่ามันเป็นไปได้หรือเปล่า ?




 เรื่องโดย ทอมเม้ง ขอขอบคุณ คุณ ทอมเม้ง  สำหรับข้อมูลและwww.siamsport.co.th/


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์