โชเซ่ มูรินโญ่ คว้าแชมป์แรกของตัวเองในการทำหน้าที่กุนซือ รีล มาดริด ได้สำเร็จหลังพาทีมเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค ในฟุตบอลแมตช์พิเศษฟร๊านซ์ เบ็คเค่นบาวร์ โทรฟี่ 4:2 ในการดวลจุดโษ |
 สนาม : อัลลีอันซ์ อารีน่า, มิวนิค, เยอรมัน ผู้ตัดสิน : โวล์ฟสกัง สตาร์ค ผู้ทำประตู : ฟุตบอลนัดพิเศษ ฟร๊านซ์ เบ็คเค่นบาวร์ โทรฟี่ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติของ ไกเซอร์ ฟร๊านซื เบ็คเคนบาวร์ ตำนานแข้งทีมชาติเยอรมันชุดแชมป์โลกปี 1990 ที่ก้าวลงจากตำแหน่ง ประธานบาเยิร์น มิวนิค เป็นการพบกันของ 2 ทีมยักษ์อย่าง บาเยิร์น มิวนิค ที่นำโดย ฟร้องค์ ริเบรี่ , มิโรสลาฟ โคลเซ่, โธมัส มุลเลอร์ และอีกหลายแข้งดัง เปิดบ้านรับการมาเยือนของ รีล มาดริด ที่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นตัวทีเด็ดประสานงานร่วมกับ กอนซาโล่ อิกวาอิน ในแดนหน้า นาที่ที่ 8 บาเยิร์น มิวนิคพลาดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย จังหวะที่ เซร์คิโอ รามอส สกัด ฟร้องค์ ริเบรี่ ล้มลง ผู้ตัดสินเป่าให้ บาเยิร์น ได้ลูกจุดโทษ โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ ยิงไปติด อีเกร์ กาซิยาส โธมัส มุลเลอร์ ซ้ำอีกครั้งก็ยังไม่ผ่าน! นาทีที่ 35 รีล มาดริด ได้โอกาสลุ้น! คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์ของทีมพาบอลขึ้นมาทางซ้ายของเขตโทษ ก่อนจะสับขาโยกหลอกกองหลัง บาเยิร์น ได้จังหวะซัดที่เสาแรก ฮันท์ ยอร์ก-บุทท์ เซฟไว้ได้ จบครึ่งแรกยังทำอะไรกันไม่ได้ ครึ่งหลัง นาทีที่ 62 อังเคล ดิ มาเรีย ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง รับบอลจากการผ่านเข้ามาของ โรนัลโด้ แต่ยิงไปติด โธมัส คราฟท์ ผูรักษาประตูสำรองของบาเยิร์น ที่ลงมาแทน ฮันท์ ยอร์ก-บุทท์ อีกครั้งที่ รีล มาดริด ได้ลุ้นประตู ในนาทีที่ 79เบนเซม่า ผ่านบอลจากซ้ายเข้ามาใน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เทคตัวขึ้นโขกบอลทำท่าจะมุดเสียบใต้คาน คราฟท์ ลอยตัวปัดออกหลังไปได้ เกมยังดำเนินต่อเนื่อง ทว่าไม่สามารถจบสกอร์กันได้ ผู้ตัดสินเป่าจบเกม 90 นาทีต้องดวลจุดโทษตัดสิน ซึ่งผลปรากฏว่า รีล มาดริด ยิงได้แม่นกว่าเป็นฝ่ายเอาชนะไป 4:2 โดย ฮามิต อัลตินท็อป และ เอ็ดสัน บราฟไฮด์ เป็นสองนักเตะ บาเยิร์น ที่ยิงพลาดส่วนนักเตะรีล มาดริด 4 คนยิงเข้าทั้งหมด คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ เป็นแชมป์แรกของ โชเซ่ มูรินโญ่ ในการเข้ามารับหน้าที่กุนซือทีม ราชันชุดขาว รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม บาเยิร์น มิวนิค: ระบบ 4-5-1 ผู้รักษาประตู : ฮันส์ ยอร์ก-บุทท์ (โธมัส คราฟท์ น.46) กองหลัง : นิโคลัส ยุลลิช, ดาเนียล ฟาน บุยเต็น, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, ดีเอโก้ คอนเตนโต้ (เอ็ดสัน บราฟไฮด์ น.46) กองกลาง : มาร์ค ฟาน บอมเมล (อันเดรียส์ อ็อตเติ้ล น.60), ดานิเยล ปรานยิช (มักซิลิเมี่ยน ฮาส น.74), โธมัส มุลเลอร์, โฮเซ่ โซซ่า (บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ น.60), ฟร้องค์ ริเบรี่ (ฮามิต อัลตินท็อป น.60) กองหน้า : มิโรสลาฟ โคลเซ่ รีล มาดริด: ระบบ 4-4-2 ผู้รักษาประตู : อีเกร์ กาซียาส กองหลัง : เซร์คิโอ รามอส (ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า น.59), ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ( เอสเตบัน กราเนโร่ น.90+), เอเซเกล การาย, มาร์เชโล่ วิเอยร่า (รอยสตัน เดรนเธ่ น.86) กองกลาง : เปโดร เลออน (อังเคล ดิ มาเรีย น.58), ชาบี อลอนโซ่, ซามี่ เคดิร่า, เซร์คิโอ กานาเลส (ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท น.58) กองหน้า : กอนซาโล่ อิกวาอิน (คาริม เบนเซม่า น.61), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ Bayern Munich 0-0 Real Madrid: Los Blancos Triumph On Penalties In Munich Jose Mourinho won the battle of wits against Louis van Gaal once again as his charges ran out winners in a hard-fought game in Munich tonight. The affair was decide in a penalty shoot-out as neither team managed to score over the ninety minutes.          |
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
