เห็นตลาดนักเตะหน้าร้อนหลายปีหลังแล้วน่าละเหี่ยใจ เพราะบรรดาแข้งนอกระดับเวิร์ล คลาส แทบไม่เหลือให้เห็นในกัลโช่อีกแล้ว โดยเฉพาะในปีนี้ ซึ่งแทบไม่มีสโมสรใหญ่คว้าดาวดังมาเสริมทัพเลย
ปัญหาสำคัญคือเรื่องของ "เงิน" นั่นเอง ไม่ว่า ยูเวนตุส มิลาน โรม่า หรือ ฟิออเรนติน่า มิได้มีเงินถุงเงินถึงอีกแล้ว ไม่ต้องไปพูดถึงสโมสรระดับรองลงไป ซึ่งยากต่อการหารเงินมาทุ่มคว้าดาวเตะระดับโลก
ปัจจุบันกลายเป็นว่า แข้งดีๆระเห็ดไปสเปนกันหมด แม้กระทั่งลีกเยอรมันในเวลานี้ก็มีแข้งทองเข้าไปสร้างสีสันกันเยอะ
การทำทีมในอิตาลีมีเจ้าของคนเดียว ทำให้ระดมเงินทุนได้น้อย ต่างไปจาก บาร์เซโลน่า แต่ในอีกด้านหนึ่งต้องมองที่เป้าหมายของเจ้าของทีมด้วย เพราะสโมสรอย่างมิลานมีเจ้าของคือ "ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่" ที่ร่ำรวยติดอันดับ 73 ของโลกด้วยทรัพย์สินในบัญชีถึง 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ (เกือบสามแสนล้านบาท) แต่กลับไม่คิดซื้อนักเตะใหม่ระดับเวิร์ลคลาสมาให้ มัสซิมิลิอาโน่ อัลเลกรี เทรนเนอร์ของตนใช้งานเลย
เหตุผลเพราะแบร์ลุสโคนี่เริ่มเบนเข็มกลับไปเน้นเรื่องธุรกิจของตนเป็นหลัก ตัวอย่างง่ายๆที่ท่านประธานพูดถึงคือ ค่าจ้างนักเตะรอสโซเรนี่ทั้งที มากกว่ารายได้และทรัพย์บางบริษัทของธุรกิจในเครือของเขาเสียอีก
ในแต่ละปี แบร์ลุสโคนี่ควักกระเป๋าไปเยอะ ซึ่งแม้มิลานไม่ได้ส่งผลกระทบจนขนหน้าแข้งร่วง แต่เมื่อคิดคำนวณถึงผลบวกลบกำไรขาดทุนแล้ว ไม่มีคำว่า "กำไร" ให้เห็นหรอกครับ ตัวเงินทรัพย์สินของรอสโซเนรี่ถือว่าติดระดับบนๆของโลกลูกหนัง แต่แท้จริงก็แบกรับหนี้สิ้นไปร่วม 50% แล้วเม็ดเงินส่วนใหญ่ไม่ว่าที้ได้จากสปอนเซอร์หรือแชมเปี้ยนส์ ลีก คงไม่พอต่อการทุ่มซื้อแข้งระดับห้าดาว ฉะนั้น กระเป๋าแบร์ลุสโคนี่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าไม่แบออก ก็ไม่มีผู้เล่นระดับเวิร์ล คลาสเข้ามา
นั่นจึงเป็นเหตุผลให้แฟนรอสโซเนรี่ประท้วงกันหนักมากตอนรวมพลเก็บตัว เพราะท่านพี่รวยมหาศาล แต่ไม่เจียดเงินซื้อแข้งดีๆให้เลย เช่นนี้แล้ว สาวกรอสโซเนรี่เลยตะโกน "ขายทีมให้คนที่เขาต้องการเสียดีกว่า!"
"ยูเวนตุส" เหมือนจะร่ำรวย แต่ปัจจุบันนั้น หุ้นส่วนใหญ่ก็ยังเป็นของตระกูล "อันเยลลี่" ซึ่งครอบครองทีมมาตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรใหม่ๆ ครอบครัวอันเยลลี่เป็นเจ้าของธุรถิจรถยนต์ "เฟียต" ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ประสบปัญหาการเงินขั้นร้ายแรง
"โรม่า" ของครอบครัวเซนซี่ต้องขายหุ้นเกือบครึ่งหนึ่งให้ธนาคารยูนิตเครดิต แล้วก็มีเจ้าชายอาหรับจากตะวันออกกลางทำท่าอยากซื้อทีมด้วย
"ฟิออเรนติน่า" ของสองพี่น้อง เดลล่า วัลเล่ นักธุรกิจรองเท้าชื่อดังเมืองมะกะโรนี "Todd's"
มีเพียง "อินเตอร์" ของ "มัสซิโม โมรัตติ" เท่านั้นซึ่งมีกำลังซื้อและกล้าทุ่มเงินคว้านักเตะดาวดัง และพร้อมจ่ายค่าเหนื่อยสูงตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ตระกูลของโมรัตติถือว่าเป็นเศรษฐีเหมือนกัน เป็นเจ้าของบริษัทน้ำมัน "Saras" และเป็นมีหุ้นในธุรกิจสำคัญมากมายเช่น ธนาคาร, ยางรถยนต์ Pirelli ชื่อดัง
กระนั้นก็ตาม การซื้อของโมรัตติ เองยังต้องระวังพอสมควร เพราะทุ่มเงินไปเยอะพอๆกับที่แบร์ลุสโคนี่ทุ่มกับมิลาน ฉะนั้นปีหลังๆ โมรัตติต้องคำนวณเงินที่ขายนักเตะเข้าออกมากๆ ไม่ซื้อพร่ำเพรื่อเหมือนสมัยก่อน เพราะเงินในทีมอินเตอร์ทั้งหมด มาจากกระเป๋าของมัสซิโม โมรัตติคนเดียวล้วนๆ
จนถึงขณะนี้ งูใหญ่ก็ยังมิได้คว้าผู้เล่นระดับดาวดังของโลกมาเพิ่ม จะมีก็ดาวรุ่งหรือนักเตะธรรมดาๆ เพราะยังต้องการเงินจากการขายนักเตะสำคัญอย่างมาริโอ บาโลเตลลี่และคนอื่นๆ
เมื่อเม็ดเงินไม่มา เป็นเรื่องธรรมดาละที่แข้งเวิร์ลคลาส ค่อยๆหนีหายไปจากกัลโช่ทุกที...
ปัญหาสำคัญคือเรื่องของ "เงิน" นั่นเอง ไม่ว่า ยูเวนตุส มิลาน โรม่า หรือ ฟิออเรนติน่า มิได้มีเงินถุงเงินถึงอีกแล้ว ไม่ต้องไปพูดถึงสโมสรระดับรองลงไป ซึ่งยากต่อการหารเงินมาทุ่มคว้าดาวเตะระดับโลก
ปัจจุบันกลายเป็นว่า แข้งดีๆระเห็ดไปสเปนกันหมด แม้กระทั่งลีกเยอรมันในเวลานี้ก็มีแข้งทองเข้าไปสร้างสีสันกันเยอะ
การทำทีมในอิตาลีมีเจ้าของคนเดียว ทำให้ระดมเงินทุนได้น้อย ต่างไปจาก บาร์เซโลน่า แต่ในอีกด้านหนึ่งต้องมองที่เป้าหมายของเจ้าของทีมด้วย เพราะสโมสรอย่างมิลานมีเจ้าของคือ "ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่" ที่ร่ำรวยติดอันดับ 73 ของโลกด้วยทรัพย์สินในบัญชีถึง 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ (เกือบสามแสนล้านบาท) แต่กลับไม่คิดซื้อนักเตะใหม่ระดับเวิร์ลคลาสมาให้ มัสซิมิลิอาโน่ อัลเลกรี เทรนเนอร์ของตนใช้งานเลย
เหตุผลเพราะแบร์ลุสโคนี่เริ่มเบนเข็มกลับไปเน้นเรื่องธุรกิจของตนเป็นหลัก ตัวอย่างง่ายๆที่ท่านประธานพูดถึงคือ ค่าจ้างนักเตะรอสโซเรนี่ทั้งที มากกว่ารายได้และทรัพย์บางบริษัทของธุรกิจในเครือของเขาเสียอีก
ในแต่ละปี แบร์ลุสโคนี่ควักกระเป๋าไปเยอะ ซึ่งแม้มิลานไม่ได้ส่งผลกระทบจนขนหน้าแข้งร่วง แต่เมื่อคิดคำนวณถึงผลบวกลบกำไรขาดทุนแล้ว ไม่มีคำว่า "กำไร" ให้เห็นหรอกครับ ตัวเงินทรัพย์สินของรอสโซเนรี่ถือว่าติดระดับบนๆของโลกลูกหนัง แต่แท้จริงก็แบกรับหนี้สิ้นไปร่วม 50% แล้วเม็ดเงินส่วนใหญ่ไม่ว่าที้ได้จากสปอนเซอร์หรือแชมเปี้ยนส์ ลีก คงไม่พอต่อการทุ่มซื้อแข้งระดับห้าดาว ฉะนั้น กระเป๋าแบร์ลุสโคนี่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าไม่แบออก ก็ไม่มีผู้เล่นระดับเวิร์ล คลาสเข้ามา
นั่นจึงเป็นเหตุผลให้แฟนรอสโซเนรี่ประท้วงกันหนักมากตอนรวมพลเก็บตัว เพราะท่านพี่รวยมหาศาล แต่ไม่เจียดเงินซื้อแข้งดีๆให้เลย เช่นนี้แล้ว สาวกรอสโซเนรี่เลยตะโกน "ขายทีมให้คนที่เขาต้องการเสียดีกว่า!"
"ยูเวนตุส" เหมือนจะร่ำรวย แต่ปัจจุบันนั้น หุ้นส่วนใหญ่ก็ยังเป็นของตระกูล "อันเยลลี่" ซึ่งครอบครองทีมมาตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรใหม่ๆ ครอบครัวอันเยลลี่เป็นเจ้าของธุรถิจรถยนต์ "เฟียต" ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ประสบปัญหาการเงินขั้นร้ายแรง
"โรม่า" ของครอบครัวเซนซี่ต้องขายหุ้นเกือบครึ่งหนึ่งให้ธนาคารยูนิตเครดิต แล้วก็มีเจ้าชายอาหรับจากตะวันออกกลางทำท่าอยากซื้อทีมด้วย
"ฟิออเรนติน่า" ของสองพี่น้อง เดลล่า วัลเล่ นักธุรกิจรองเท้าชื่อดังเมืองมะกะโรนี "Todd's"
มีเพียง "อินเตอร์" ของ "มัสซิโม โมรัตติ" เท่านั้นซึ่งมีกำลังซื้อและกล้าทุ่มเงินคว้านักเตะดาวดัง และพร้อมจ่ายค่าเหนื่อยสูงตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ตระกูลของโมรัตติถือว่าเป็นเศรษฐีเหมือนกัน เป็นเจ้าของบริษัทน้ำมัน "Saras" และเป็นมีหุ้นในธุรกิจสำคัญมากมายเช่น ธนาคาร, ยางรถยนต์ Pirelli ชื่อดัง
กระนั้นก็ตาม การซื้อของโมรัตติ เองยังต้องระวังพอสมควร เพราะทุ่มเงินไปเยอะพอๆกับที่แบร์ลุสโคนี่ทุ่มกับมิลาน ฉะนั้นปีหลังๆ โมรัตติต้องคำนวณเงินที่ขายนักเตะเข้าออกมากๆ ไม่ซื้อพร่ำเพรื่อเหมือนสมัยก่อน เพราะเงินในทีมอินเตอร์ทั้งหมด มาจากกระเป๋าของมัสซิโม โมรัตติคนเดียวล้วนๆ
จนถึงขณะนี้ งูใหญ่ก็ยังมิได้คว้าผู้เล่นระดับดาวดังของโลกมาเพิ่ม จะมีก็ดาวรุ่งหรือนักเตะธรรมดาๆ เพราะยังต้องการเงินจากการขายนักเตะสำคัญอย่างมาริโอ บาโลเตลลี่และคนอื่นๆ
เมื่อเม็ดเงินไม่มา เป็นเรื่องธรรมดาละที่แข้งเวิร์ลคลาส ค่อยๆหนีหายไปจากกัลโช่ทุกที...
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
