อิรักแม่นโทษเชือดโสมขาวชิงเอเชี่ยนคัพกับซาอุ

"สิงห์ทะเลทราย" ซาอุดีอาระเบีย
 
ได้ลุ้นแชมป์เอเชี่ยนคัพ สมัยที่ 4 หลังปราบ "ซามูไร" ญี่ปุ่น แชมป์เก่า 3-2 เข้าไปชิงชนะเลิศกับ อิรัก ที่บดกับ "โสมขาว" เกาหลีใต้ ถึง 120 นาทีก่อนวัดจุดโทษ ชนะ 4-3


ศึกเอเชี่ยนคัพ รอบรองชนะเลิศ

ที่สนามบูกิต จาลิล กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย อิรัก ลงสนามพบกับ "โสมขาว" เกาหลีใต้ โดยเกมนี้ อิรัก ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามกันครบ ขณะที่ เกาหลีใต้ เก็บ ลี ดอง กุ๊ก เป็นตัวสำรอง และให้ โช แจ จิน กับ ปาร์ค จู ยอง ลงมาเป็นกองหน้าคู่กัน ซึ่งเกมในช่วงแรกทั้งสองทีมต่างพยายามลุ้นด้วยการยิงไกลแต่ยังไม่เป็นผล


 ถึงนาทีที่ 16 โอกาสเป็นของอิรัก

เมื่อ ยูนิส มาห์มูด เก็บตกยิงบอลในเขตโทษแต่บอลไปเข้าข้างตาข่าย แต่จากนั้นเกมตกเป็นของเกาหลีใต้มากขึ้น เพียงแต่ยังยิงเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา จนถึงนาทีที่ 40 ยูนิส มาห์มูด ได้บอลหลุดไปยิงในเขตโทษอีกครั้ง บอลผ่านมือ ลี วุน แจ ไปแล้ว แต่บอลเฉียดเสาไกลออกไปอย่างน่าเสียดาย จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0


ครึ่งหลังกลับมาเล่นกันเพียงนาทีเดียว

อิรัก กลับมามีโอกาสอีกครั้งเมื่อ เมห์ดี้ คาริม ได้บอลทางซ้ายของเขตโทษและยิงไปที่เสาแรกแต่ ลี วุน แจ ขยับมาปิดมุมก่อนจะรับไว้ได้ จากนั้นเกาหลีใต้พยายามเดินหน้าเต็มที่แต่ก็เกือบเสียประตูจากเกมโต้กลับของอิรัก นาทีที่ 69 คาริม ได้โอกาสยิงจากทางขวาของเขตโทษบอลหลุดออกเสาไกลไปอีก


 ถัดจากนั้น 2 นาที เกาหลีใต้ได้โอกาสทองบ้าง

เมื่อกองหลัง อิรัก สกัดบอลไม่ดีลอยมาเข้าทางให้ ลี ชุน ซู ยิง แต่ก็ออกทางเสาแรก ทำให้สุดท้ายจบ 90 นาที ทั้งสองทีมยังไม่สามารถทำอะไรกันได้เสมอกัน 0-0 ทำให้ต้องต่อเวลาออกไปอีก 30 นาที

 ช่วงต่อเวลา

เกาหลีใต้ ใกล้เคียงกับการได้ประตูในนาทีที่ 94 เมื่อ ชอย ซุง กุ๊ก ยิงเต็มเท้าจากนอกเขตโทษทำให้ เอ็บบาส ซาบรี ต้องออกแรงปัดเอาไว้หวุดหวิด แต่ อิรัก ก็น่าจะได้ประตูในนาทีที่ 13 เมื่อ ลี วุน แจ ปัดบอลออกมาไม่ดี โมอัมเหม็ด ฮาวาร์ พลิกตัวยิงชนเสาไปถูกขากองหลังสกัดออกมาได้อย่างหวุดหวิด จบ 120 นาทียังเสมอกัน 0-0 และต้องตัดสินกันด้วยการยิงลูกโทษที่จุดโทษ และอิรักชนะไป 4-3


 เกมอีกคู่

ที่มีดิ่ง สเตเดี้ยม กรุงฮานอย เวียดนาม ญี่ปุ่น แชมป์เก่า พบกับ ซาอุดีอาระเบีย แชมป์ 3 สมัยโดยทั้งสองทีมจัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามมาด้วยกัน ซึ่งเกมในช่วงแรก ญี่ปุ่น เดินเกมรุกได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังทำประตูไม่ได้และต้องเสียประตูไปก่อนในนาทีที่ 35 จากลูกฟรีคิกทางซ้าย บอลไปตกที่หน้าประตู ยัสเซอร์ อัลคาตานี ตวัดยิงเป็น 1-0


 แต่อีกแค่ 2 นาทีต่อมา

ญี่ปุ่น ก็ตีเสมอได้จากลูกเตะมุมทางด้านซ้าย ยาสึฮิโตะ เอนโด เปิดไปหน้าประตูให้ ยูจิ นากาซาวา โฉบเข้าโหม่งเป็น 1-1 และสกอร์ยังไม่เปลี่ยนแปลงจนจบครึ่งแรก ก่อนที่ครึ่งหลังกลับมาเล่นกันไปได้ 2 นาที ซาอุดีอาระเบีย ได้ประตูกลับนำไปอีกครั้งจากการโหม่งของ มาเลค มาอัซ เป็น 2-1


 ญี่ปุ่น มาตามตีเสมอได้อีกครั้งเมื่อถึงนาทีที่ 53

จากลูกเตะมุมทางขวา และเป็น ยูกิ อาเบะ ที่ลอยตัววอลเลย์เข้าไปอย่างสวยงามเป็น 2-2 แต่ ซาอุดีอาระเบีย มานำไปอีกเป็น 3-2 จากจังหวะที่ มาเลค ลากหลอกกองหลังไปยิงผ่าน โยชิคัตสึ คาวางูจิ เข้าทางเสาแรกนาทีที่ 57 และเป็นประตูชัยให้ ซาอุดีอาระเบีย เข้าไปชิงชนะเลิศกับ อิรัก ที่สนามเสนายัน กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย วันที่ 29 กรกฎาคม ขณะที่ ญี่ปุ่น ไปชิงที่ 3 กับ เกาหลีใต้ ไปรอชิงที่ 3 ที่อินโดนีเซีย วันที่ 28 กรกฎาคม


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์