สรุปผลบอล




  สรุปผลบอล 

  ร็อบบี้ คีน ฟอร์มฮอต ลงสำรองซัดเบิ้ลช่วย ไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เฉือนชนะ ม่วงมหากาฬ ฟิออเรนติน่า ไปแบบหวุดหวิด 3-2 ส่วนทางด้าน เจ้าสัวน้อย ฟูแล่ม โซลตัน เกร่า ซัดแฮตทริกช่วยให้ทีมเปิดบ้านไล่ถลุง นกนางนวล เบรเมน เละ 5-1 และเป็นการต้อนรับ มาร์ค ฮิวจ์ส นายใหม่ที่มาคุมทีมเป็นนัดแรก ในฟุตบอลกระชับมิตรสโมสร เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา


ฟุตบอลกระชับมิตรสโมสร
วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม 2553
สเปอร์ส (อังกฤษ) 3 - 2 ฟิออเรนติน่า (อิตาลี)


สนาม : ไวท์ ฮาร์ท เลน


 


ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เปิดบ้านเจอกับทีมแกร่งอย่างฟิออเรนติน่าในเกมอุ่นเครื่อง โดยเจ้าถิ่นส่ง ปีเตอร์ เคร้าช์ จับคู่ล่าตาข่ายกับ โรมัน พาฟลิวเชนโก้ ส่วนทีมเยือนต้องขาด สเตฟาน โยเวติช ที่เจ็บยาวพัก 6 เดือน แต่ยังมี อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ นำทัพ
 

เกมผ่านมาเพียง 6 นาที ม่วงมหากาฬ ได้ประตูอย่างรวดเร็ว เมื่อ วิลสัน ปาลาซิออส ส่งคืนหลังให้ เอเรลโญ่ โกเมส เตะเปิดเกมขึ้นมาไม่ดี บอลมาเข้าทาง ปาป้า วายโก้ ที่โยนกลับไปเข้าศีรษะ จิลาร์ดิโน่โหม่งตุงตาข่ายขึ้นนำ 1-0
 

เจ้าบ้านตอบโต้ทันที อารอน เลนน่อน เลี้ยงผ่าน มานูเอล ปาสกวาล ทางขวา ก่อนเปิดแฉลบเฟลิเป้ บอลกำลังจะมุดเสียบมุม แต่ เซบาสเตียง เฟรย์ ปัดข้ามคานได้หวุดหวิด
 

ความพยายามของ ไก่เดือยทอง มาเป็นผลในนาทีที่ 26 จากจังหวะที่ โจวานี่ โดส ซานโต๊ส จ่ายให้พาฟลิวเชนโก้ชาร์จไม่เหลือ ตีเสมอเป็น 1-1
 

อย่างไรก็ตาม พลพรรค วิโอล่า พลิกขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 ในอีก 9 นาทีต่อมา คราวนี้ มาร์โก มาร์คิออนนี่ ชิพบอลให้ อเด็ม ลายิช หลุดเข้าไปวอลเลย์อย่างสวยงาม หมดสิทธิ์ที่โกเมสจะป้องกันเอาไว้ได้
 

จากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มกันได้ จบ 45 นาทีแรก ฟิออฯ บุกมานำไปก่อน 2-1
 

ครึ่งหลังทั้งสองทีมเปลี่ยนตัวผู้เล่นกันยกใหญ่ โดย แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ ส่ง ทอม ฮัดเดิลสตัน, นิโก้ ครานชาร์ และ ร็อบบี้ คีน ลงแทน เจอร์เมน จีนัส, เลนน่อน และ เคร้าช์ ส่วน ซินิซ่า มิไฮโลวิช ก็ส่ง ลอเรนโซ่ เด ซิลเวสตรี, ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ และ กาเอตาโน่ ดากอสติโน่ แทน จานลูก้า โคม็อตโต้, มาร์โก โดนาเดล และ คริสเตียโน่ ซาเน็ตติ
 

เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 56 สเปอร์สตามตีเสมอได้อีกครั้ง จากการประสานงานกันของสองตัวสำรอง เมื่อฮัดเดิลสตันจ่ายให้คีนซัดผ่านเฟรย์ไม่พลาด สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 2-2
 

เจ้าถิ่นเริ่มได้ใจรุกหนัก ฮัดเดิลสตันส่องฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ แต่หนนี้ เฟรย์ ไม่พลาด พุ่งเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม
 

นาทีที่ 67 คีนครอสจากริมเส้นฝั่งซ้ายให้พาฟลิวเชนโก้จิ้มมุมแคบเข้าไป กระนั้นผู้ตัดสินเป่าให้เป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน
 

ถัดมา ครานชาร์สบโอกาสส่องไกลระยะถนัด บอลพุ่งชนเสาอย่างจัง ชวดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย
 

ช่วงเวลาที่เหลือเจ้าบ้านยังโหมบุก และมาได้ประตูชัยก่อนจบเกม 2 นาที จากจังหวะที่ แจ็ค ลิเวอร์มอร์ ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง วางยาวให้คีนหลุดการประกบของแนวรับผู้มาเยือนเข้าไปซัลโวตุงตาข่าย จบเกมสเปอร์สพลิกกลับมาแซงชนะฟิออฯ สุดมันส์ 3-2



รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม


สเปอร์ส : เอเรลโญ่ โกเมส (คาร์โล คูดิชินี่ น.68); ยูเนส กาบุล, เล็ดลี่ย์ คิง (ไคล์ วอล์คเกอร์ น.68), เซบาสเตียง บาสซง, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ (ไคล์ นอห์ตัน น.78); อารอน เลนน่อน (นิโก้ ครานชาร์ น.46), วิลสัน ปาลาซิออส (แจ็ค ลิเวอร์มอร์ น.78), เจอร์เมน จีนัส (ทอม ฮัดเดิลสตัน น.46), โจวานนี่ โดส ซานโต๊ส; ปีเตอร์ เคร้าช์ (ร็อบบี้ คีน น.46), โรมัน พาฟลิวเชนโก้ (แดนนี่ โรส น.68)

ฟิออเรนติน่า : เซบาสเตียง เฟรย์ (วลาด้า อัฟรามอฟ น.83); จานลูก้า โคม็อตโต้ (ลอเรนโซ่ เด ซิลเวสตรี น.46), เชซาเร่ นาตาลี (เปอร์ โครลดรุป น.57), เฟลิเป้, มานูเอล ปาสกวาล (นิโกล่า กูลัน น.57); มาร์โก โดนาเดล (ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ น.46), คริสเตียโน่ ซาเน็ตติ (กาเอตาโน่ ดากอสติโน่ น.46); ปาป้า วายโก้ (ดาเนียล อั๊กเย่ น.83), อเด็ม ลายิช (มาริโอ โบลัตติ น.72), มาร์โก มาร์คิออนนี่ (ฮาริส เซเฟโรวิช น.83); อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ (คูม่า บาบาการ์ น.57)



ฟูแล่ม (อังกฤษ) 5 - 1 เบรเมน (เยอรมนี)


สนาม : คราเวน ค็อทเทจ


 


นกนางนวล เบรเมน บุกมาเยือนฟูแล่ม รองแชมป์ยูโรปา ลีก ทีมล่าสุด เกมนี้ โธมัส ชาฟ อัดชุดใหญ่ เคลาดิโอ ปิซาร์โร่, ทอร์สเท่น ฟริงก์ส, แพร์ แมร์เตซัคเคอร์ นำทัพ ส่วน เมซุต โอซิล เป็นตัวสำรอง ฝั่งเจ้าสัวน้อยถือเป็นการคุมทีมนัดแรกของ มาร์ค ฮิวจ์ส ใช้ บ็อบบี้ ซาโมร่า ยืนหอกเป้า โดยมี คลินท์ เดมพ์ซี่ย์, เดเมี่ยน ดัฟฟ์ และ แดนนี่ เมอร์ฟี่ คอยช่วยเหลือ
 

เริ่มครึ่งแรก เบรเมนเดินเครื่องได้มากกว่า นาที 7 มีโอกาสเข้าทำครั้งแรก อารอน ฮันท์ รับบอลจากกลางสนาม เลี้ยงจี้เข้ายิงด้วยซ้ายติดเซฟ มาร์ค ชวาเซอร์ 
 

ถึงนาที 14 อาคันตุกะจากเยอรมนีขึ้นนำสำเร็จ เพทรี่ พาซาเน่น เปิดขนานเส้นให้ อารอน ฮันท์ กระชากเปิดเข้ากลาง ลูกเลยไปถึง เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ ชาร์จจ่อๆ ไม่มีพลาด 1-0
 

เกมของฟูแล่มยังไม่ดีขึ้น สิบนาทีต่อมาเกือบโดนเพิ่ม ฮูโก้ อัลเมด้า หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปแตะหนี มาร์ค ชวาเซอร์ แต่ยิงจังหวะสุดท้ายลูกชนเสาอย่างน่าเสียดาย
 

ผ่านครึ่งชั่วโมงแรกเจ้าถิ่นเริ่มดีขึ้น บ็อบบี้ ซาโมร่า ทำชิ่งเข้าเขตโทษ คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ พยายามเข้าชาร์จ แต่ ทิม วีเซ่ ยังเร็วพอออกมาบล็อกไว้ทัน
 

นาที 44 ทีมเยือนเกือบเฮเพิ่ม ฮูโก้ อัลเมด้า ไหลบอลเข้ากลาง ทอร์สเท่น ฟริงก์ส ตะบันเต็มข้อลูกแฉลบกองหลังเจ้าบ้านหลุดกรอบนิดเดียว จบครึ่งแรก เบรเมน นำ 1-0
 

เข้าสู่ครึ่งหลัง ฟูแล่ม เล่นดีขึ้นผิดหูผิดตา ถึงนาที 54 ตามตีเสมอสำเร็จ คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ จ่ายทะลุช่องให้ บ็อบบี้ ซาโมร่า หลุดเดี่ยว ยิงผ่านมือ ทิม วีเซ่ ซุกก้นตาข่าย 1-1
 

กำลังใจกลับไปอยู่ฝั่งเจ้าสัวน้อย นาที 66 พลิกแซงขึ้นนำ โซลตัน เกร่า ตัวสำรองได้บอลกลางสนามกระชากเข้ามายิงระยะ 26 หลา ลูกพุ่งเสยตาข่าย หมดปัญญาของ ทิม วีเซ่ 2-1
 

เบรเมนเหมือนเครื่องช็อตไปดื้อๆ นาที 73 โดยเพิ่มอีกดอก บ็อบบี้ ซาโมร่า กระชากขึ้นมาริมเส้น เปิดเข้ากลางให้ โซลตัน เกร่า คนเดิม โหม่งเบียดเสาเข้าไป 3-1
 

สามนาทีต่อมาสาวกเจ้าถิ่นได้เฮเพิ่มจากความผิดพลาดของ ทิม วีเซ่ ลูกเปิดยาวเข้าเขตโทษ วีเซ่เคลียร์บอลไม่พ้นอันตราย โซลตัน เกร่า เก็บตกยิงเข้าง่ายๆ 4-1 และเป็นแฮตทริกของดาวยิงฮังกาเรียน
 

นาที 87 ฟูแล่มปิดท้าย โซลตัน เกร่า ถวายพานให้ แอนดี้ จอห์นสัน หลุดขึ้นไปทางซ้ายกดเสียบเสาหมดจด จบเกม ฟูแล่ม ถล่ม เบรเมน 5-1



รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม


เบรเมน : ทิม วีเซ่ - เคลเมนส์ ฟริตซ์, เซบาสเตียน โพรเดิ้ล, แพร์ แมร์เตซัคเคอร์, เพทรี่ พาซาเน่น - ฟิลิปป์ บาร์กเฟรเด้, ทิม โบรอฟสกี้, ทอร์สเท่น ฟริงก์ส, อารอน ฮันท์ - ฮูโก้ อัลเมด้า, เคลาดิโอ ปิซาร์โร่

สำรอง : เซบาสเตียน มีลิตซ์, เซบาสเตียน เบอนิช, มาร์โค มาริน, เมซุต โอซิล, มาร์โก อาร์เนาโตวิช, มาร์คุส โรเซนเบิร์ก, เฟลิกซ์ โครส, ปีเตอร์ นีไมเยอร์, ดาเนียล เยนเซ่น, ซานโดร ว้ากเนอร์

ฟูแล่ม : มาร์ค ชวาเซอร์ - จอห์น แพนต์ซิล, เบรเด้ ฮันเกลันด์, อารอน ฮิวจ์ส, พอล คอนเชสกี้ - เดเมียน ดัฟฟ์, ดิ๊คสัน เอตูฮู, แดนนี่ เมอร์ฟี่, ไซม่อน เดวิส - คลินท์ เดมพ์ซี่ย์, บ็อบบี้ ซาโมร่า

สำรอง : เดวิด สต็อคเดล, สตีเฟ่น เคลลี่, คริส แบร์ด, โซลตาน เกร่า, บียอห์น เฮลเก้ รีเซ่, เอ็ดดี้ จอห์นสัน, เฟเดริค สตูร์, โจนาธาน กรีนนิ่ง, เดวิด เอล์ม


 


สรุปผลฟุตบอลกระชับมิตรสโมสร เมื่อวันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม 2553
- บีเลเฟลด์ แพ้ ดอร์ทมุนด์ 0-2
- โคโลญจน์ ชนะ ซามพ์โดเรีย 2-0
- ไฟร์บวร์ก เสมอ อิงโกลสตัดท์ 0-0
- ยูเนี่ยน เบอร์ลิน แพ้ กลัดบัค 1-4
- เบอร์มิงแฮม แพ้ มายอร์ก้า 0-1
- แบร์โรล ชนะ โบลตัน 2-1
- ฟูแล่ม ชนะ เบรเมน 5-1
- ฮาร์ทส์ เสมอ แบล็คเบิร์น 1-1
- วูล์ฟส์ ชนะ แอธ.บิลเบา 2-1
- เวสต์แฮม เสมอ ลา กอฯ 0-0
- สเปอร์ส ชนะ ฟิออฯ 3-2
- เวสต์บรอมฯ เสมอ โอซาซูน่า 1-1







เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ประเดิมแชมป์แรกของฤดูกาลนี้ไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่เอาชนะ ชาลเก้ 04 ไปแบบสบายๆ 2-0 ศึกฟุตบอลเยอรมนี ซูเปอร์ คัพ เมื่อคืนที่ผ่านมา


เยอรมนี ซูเปอร์ คัพ 2010
บาเยิร์น 2 - 0 ชาลเก้



สนาม : อิมพัลส์ อารีน่า, เอาก์สบวร์ก


 


ศึกซูเปอร์คัพของด๊อยท์ชลันด์ บาเยิร์น มิวนิค ดับเบิ้ลแชมป์ปีก่อนพบ ชาลเก้ รองแชมป์บุนเดสลีกา พี่เสือไม่มีอาร์เยน ร็อบเบน และ ดาเนียล ฟาน บุยเต็น ที่ยังบาดเจ็บ รวมถึง ฟร้องค์ ริเบรี่ ไม่ฟิตเต็มร้อย อย่างไรก็ตามกลุ่มแข้งเวิลด์ คัพ ทั้ง ฟิลิปป์ ลาห์ม, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, โธมัส มุลเลอร์ และ มิโร โคลเซ่ ลงครบหมด
 

ฝั่ง ชาลเก้ ที่เพิ่งชนะบาเยิร์น 3-1 ในศึกลีกา โททัล คัพ ยังเน้นชุดเดิม ราอูล กอนซาเลซ รับบทกองหน้าตัวเป้า ใช้ เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน กับ อิวาน ราคิติช เดินเครื่อง โดยมี คริสโตฟ เม็ตเซลเดอร์ คุมเกมรับ
 

เปิดฉากขึ้นมา ราชันสีน้ำเงินมีโอกาสก่อน อัตสึโตะ อูชิดะ กระขากถึงเส้นหลัง เปิดเข้ากลาง ราอูล กอนซาเลซ โหม่งจากระยะ 10 เมตร หลุดกริบหวุดหวิด
 

สองนาทีต่อมา บาเยิร์น เดินเกมรุกได้บ้าง โธมัส มุลเลอร์ เจ้าของดาวซัลโวและดาวรุ่งยอดเยี่ยมเวิลด์ คัพ 2010 กระชากหนี อัตสึโตะ อูชิดะ เข้าไปซัดระยะ 16 เมตร มานูเอล นอยเออร์ ปัดทิ้งได้
 

ผ่านยี่สิบนาทีแรกเกมสูสีมากขึ้น นาที 26 ดิเอโก้ คอนเตนโต้ เปิดจากกราบซ้ายให้ ฮามิต อัลตินท็อป วอลเล่ย์ด้วยขวาข้ามคานไป
 

ชาลเก้เริ่มขึ้นช่วงท้ายครึ่งแกแต่ยังหาโอกาสจบสกอร์ไม่ได้ จบครึ่งแรกทำอะไรกันไม่ได้เสมอ 0-0
 เข้าสู่ครึ่งหลัง บาเยิร์นบุกทันที นาที50 จากลูกเตะมุม บาวเตียน ชไวน์สไตเกอร์ เปิดเข้ากลาง มิโรสลาฟ โคลเซ่ โขกระยะห้าเมตร มานูเอล นอยเออร์ ซูเปอร์เซฟ
 

สองนาทีต่อมาพี่เสือเร่งเครื่องอีกครั้ง ชไวน์สไตเกอร์ แทงทะลุเข้ากลาง มิโร โคลเซ่ วิ่งแซง เฮอเวเดส เข้ายิงระยะ 16 เมตร ถากเสาออกหลังหวุดหวิด
 

ชาลเก้ได้ลุ้นเล็กๆในนาที 57 ฟรีคิกทางกราบขวา อิวาน ราคิติช โยนเข้ากลาง ดิเอโก้ คอนเตนโต้ สกัดผิดเหลี่ยมเกือบเข้าประตูตัวเอง
 

เกมเริ่มเปิดมากขึ้น นาที 69 ฟิลิปป์ ลาห์ม กระชากขึ้นมาด้านขวา เปิดเข้ากลาง มิโร โคลเซ่ ชาร์ตัดหน้า มานูเอล นอยเออร์ เฉียดเสานิดเดียว
 

ความพยายามของพี่เสือมาประสบผลนาที 75 มิโรสลาฟ โคลเซ่ เปิดให้ โธมัส มุลเลอร์ กระทุ้งด้วยขวามุดโคนเสาเข้าไป 1-0 ของบาเยิร์น
 

นาทีที่ 81 เสือใต้มาได้ประตูย้ำชัยชนะจากจังหวะที่ อิวิก้า โอลิช ไหลบอลเข้ามาให้ มิโรสลาฟ โคลเซ่ แปเข้าไปง่ายๆ จบ 90 นาที บาเยิร์น เชือด ชาลเก้ 2-0 คว้าแชมป์ เยอรมนี ซูเปอร์คัพ ไปครองได้สำเร็จ
 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

บาเยิร์น : โธมัส คราฟท์ - ฟิลิปป์ ลาห์ม, มาร์ติน เดมิเคลิส, โฮลเกอร์ บาดชตูเบอร์, ดิเอโก้ คอนเตนโต้ - บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์,ดานิเยล ปรานยิช - ฮามิต อัลตินท็อป,โธมัส มุลเลอร์, อิวิก้า โอลิช - มิโรสลาฟ โคลเซ่

สำรอง : ฮันส์-ยอร์ก บุทท์, อันเดรียส์ อ็อตเติ้ล, อนาโตลี ติโมชุค, โฮเซ่ เอร์เนสโต้ โซซ่า
 

ชาลเก้ : มานูเอล นอยเออร์ - อัตสึโตะ อูชิดะ,เบเนดิคท์ เฮอเวเดส, คริสโตฟ เม็ตเซลเดอร์, ลูคัส ชมิตซ์ - เพียร์ คลูเก้, โยเอล มาร์ทิป,อิวาน ราคิติช - เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน, ราอูล กอนซาเลซ, เอดู

สำรอง : คริสโตฟ โมริตซ์, เอริค เยนดริเซ็ค, อเล็กซานเดอร์ เบาม์โยฮันน์, เซร์คิโอ เอสคูเดโร่, เหา จุน หมิน






ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ทีมดังเมืองผู้ดี อุ่นเครื่องส่งท้ายก่อนเปิดฤดูกาล บุกไปเอาชนะ ลีเกีย วอร์ซอว์ สโมสรจาก โปแลนด์ สุดมันส์ 6-5 เมื่อคืนที่ผ่านมา


ฟุตบอลนัดกระชับมิตร
วันเสาร์ที่ 7 ส.ค.53
ลีเกีย วอร์ซอว์ (โปแลนด์) 5 - 6 อาร์เซน่อล (อังกฤษ)



สนาม : สตาดิโอน วอยสก้า โปลสคีโก้


 


อาร์แซน เวนเกอร์นายใหญ่อาร์เซน่อลนำทีมบุกไปบู๊กับลีเกียในเกมอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายก่อนเปิดซีซั่นฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฉลองสนามใหม่ของทีมลูกหนังโปแลนด์โดยใช้งานนายทวารลูคัส ฟาเบียนสกี้เฝ้าเสาฉะกับสโมสรเก่า
 

กระนั้น ทีมดังจากกรุงลอนดอนยังคงปล่อยให้สองสตาร์ทั้งเชส ฟาเบรกาส และโรบิน ฟานเพอร์ซี่ได้พักต่อ โดยทั้งคู่ไม่ได้ร่วมเดินทางมากับทีม
 

เริ่มเกมขึ้นมา เจ้าบ้านก็เปิดฉากบุกใส่อาคันตุกะ สร้างปัญหาให้แนวรับปืนโตต้องพะวักพะวงทันที
 

และผ่านไป 17 นาทีก็เป็นเรื่องเมื่ออเลฮานโดร คาบราลกองกลางสัญชาติฟ้าขาวของลีเกียพาบอลบุกขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษแล้วตัดสินใจซัลโวด้วยเท้าซ้ายจาก 25 หลาส่งบอลฝ่าแผงหลังกันเนอร์ส รวมถึงนายทวารฟาเบียนสกี้พุ่งเข้าประตูอย่างเด็ดขาด เป็นสกอร์นำ 1-0 ของเจ้าถิ่น
 

แม้เกมจะยังไม่ค่อยปะติดปะต่อ แต่นาทีที่ 22 อาร์เซน่อลเกือบทวงคืนได้จากความสามารถเฉพาะตัวของซามีร์ นาสรี่ที่ควบบอลทะลุเข้าเขตโทษด้านซ้ายไปจนสุดเส้นหลัง แต่ไม่มีเพื่อนร่วมทีมตามมาทัน สุดท้ายจึงต้องตัดสินใจซัดใส่มุมแคบ ทำให้นายทวารมาริยัน อันโตโลวิชที่ปิดเสาแรกอยู่เซฟได้
 

จากนั้นในนาทีที่ 28 ลีเกียก็เปลี่ยนผู้เล่นเป็นประเดิมโดยถอดอิวิก้า เวอร์โดลยัคกัปตันทีมออก ส่งมาเซียจ อิวานสกี้ลงไปแทนพร้อมได้สวมปลอกแขน
 

และแล้วนาทีที่ 33 เจ้าบ้านก็เพิ่มสกอร์ได้อีกจากลูกเตะมุมด้านซ้ายที่ฟาเบียนสกี้จอมเปิ่นเจ้าประจำออกไปตัดบอลพลาดสะดุดล้ม จึงทำให้บรูโน่ มาเซ็งก้าได้โอกาสล้มตัวกวาดบอลที่เสาไกล แล้วโลร็องต์ กอสเซียลนี่สกัดแย่แฉลบเข้าประตูตัวเองทำให้ลีเกียหนีเป็น 2-0
 

เท่านั้นไม่พอ บู๊กันต่ออีกสามนาที ปืนโตก็โดนทะลวงอีกเม็ดเมื่อเจ้าบ้านสาดบอลจากแถวสองเข้าเขตโทษแล้วคาบราลโขกตั้งให้อาร์เธอร์ เยเดอร์เซจซิควอลเลย์จากแปดหลาเสียเพดานอย่างเลือดเย็น จึงเป็นอันว่าทีมของโปแลนด์หนีห่าง 3-0
 

อย่างไรก็ดี ถึงนาทีที่ 38 ทีมเยือนก็ลดความขายหน้าลงได้เล็กน้อยจากจังหวะที่นาสรี่ตักบอลจากริมเขตโทษด้านซ้ายไปเสาไกลให้มารูยาน ชามักห์โถมโขกห้าหลาไม่พลาด ช่วยให้อาร์เซน่อลไล่มาห่างๆ 1 -3 ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดจบเกมในครึ่งแรก
 

ครึ่งหลัง ปืนใหญ่เปลี่ยนนายทวารโปแลนด์อีกรายวอจเซียส เซสนี่ลงไปแทนฟาเบียนสกี้ รวมถึงคาร์ลอส เวล่า , เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ และคีแรนส์ กิ๊บบ์สที่ได้เสียบแทนโทมัส โรซิชกี้ , ธีโอ วัลค็อตต์ และเอ็มมานูเอล ฟริมปง
 

และแค่นาทีแรก ทีมเยือนก็หวิดพังประตูได้จากการลุยขึ้นทางซ้ายของกาแอล กลิชี่ที่สบช่องตะบันจากริมเขตโทษ แต่ถูกอันโตโลวิชเซฟได้
 

จากนั้นนาทีที่ 50 ลีเกียเกือบเติมสกอร์ได้อีกจากการทำเกมขึ้นทางซ้ายแล้วจบที่มาเซ็งก้าได้ซัดจาก 15 หลา ทว่าเซสนี่ปัดป้องได้เฉียดฉิว
 

อย่างไรก็ดี นาทีที่ 53 แฟนเจ้าบ้านก็เริ่มหนาวเมื่ออาร์เซน่อลได้ลูกฟรีคิกทางกราบขวา เวล่าจึงตักโด่งไปเสาไกลโดยนายทวารอันโตโลวิชออกมาตัดพลาด ทำให้เอบูเอ้โถมโขกระยะสามหลาพาเดอะ กันเนอร์สตามมา 2-3
 

กระทั่งนาทีที่ 60 อาร์เซน่อลซึ่งเข้าฟอร์มแเล้วก็ตีเสมอจนได้เมื่อแจ็ค วิลเชียร์แทงบอลทะลุช่องให้เอบูเอ้หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษด้านขวาไปซัดผ่านนายทวารลีเกียที่เสาแรกเป็นลูกที่สองของตัวเองพร้อมขยับสกอร์มาเจ๊ากันที่ 3-3
 

จากนั้นอีกสองนาที สิ่งที่เหลือเชื่อก็บังเกิดเมื่อเวล่าตักบอลข้ามฟากจากกราบขวาให้กิ๊บบ์สหลุดเข้าเขตโทษไปเข่นจาก 15 หลาผ่านอันโตโลวิชพลิกสถานการณ์ให้ทีมปืนใหญ่แซงนำ 4-3 จนได้
 

ถึงตรงนี้ เจ้าบ้านต้องเปลี่ยนมาเซ็งก้าออกให้ทาเกซูเร่ ชินยาม่าลงไปแทน จวบจนนาทีที่ 68 คาบราลก็โดนถอดออกโดยมีปิโอเตอร์ กีซ่าได้ลงบู๊ 
 

ด้านอาร์เซน่อลส่งเจย์ เอ็มมานูเอล โธมัสกับเฮนรี่ ลันส์บิวรี่ลงไปแทนชามักห์กับวิลเชียร์ในนาทีที่ 70 แต่แล้วล่วงมาสามนาทีก็โดนทีเด็ดของลีเกียเล่นงานจากลูกโยนยาวที่แนวรับอาร์เซน่อลเคลียร์กันไม่ขาด ทำให้เยเดอร์เซจซิคกระดกบอลกลับหลังเข้าเขตโทษแล้วตามไปซัดตุงตาข่ายเป็นเม็ดที่สองของตัวเองเช่นกันเปลี่ยนสกอร์เป็น 4-4
 

ท้ายเกม ในนาทีที่ 78 ทีมเยือนมาได้ประตูแซงนำอีกครั้ง จากลูกที่โธมัสอาศัยความใหญ่วิ่งไปรับบอลในเขตโทษด้านซ้ายแล้วตะบันไม่เหลือ เดอะ กันเนอร์สจึงนำ 5-4
 

และแล้วนาทีที่ 80 ผู้มาเยือนก็มาได้ลูกแฮนด์บอลหน้าเขตโทษ นาสรี่จึงกดฟรีคิกจาก 25 หลาเป็นประตูที่ทำให้ทีมจากเมืองผู้ดีนำ 6-4
 

นาทีสุดท้าย เจ้าถิ่นมาได้ประตูไล่มาอีกเป็น 5-6 มาเซียจ อิวานสกี้ จบเกม อาร์เซน่อล เฉือนเอาชนะ ลีเกีย วอร์ซอว์ สุดมันส์ 6-5
 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ลีเกีย วอร์ซอว์ : มาริยาน อันโตโลวิช, มาร์ซิน โคโมรอฟสกี้, ยาคุบ วาเวอร์ซิเนียค, เซอร์ด้า คเนเซวิช, อาร์เทอร์ เยเดอร์เซจซิค, อาเรียล โบริเซียค, อิวิก้า เวอร์โดลยัค, มาเซียจ ริบัส, อเลฮานโดร กาบราล, มานู, บรูโน่ เมเซนก้า

สำรอง : คอสเตียนติน มัคนอฟสกี้, มิโรสลาฟ ราโดวิช, เซบาสเตียน ซาลาชอฟสกี้, ทาเคซูเร่ ชินยาม่า, ปิโอเตอร์ กิซ่า, มาเซียจ อิวานสกี้, ปันเซ่ คุมเบฟ, มิชาล คูชาร์ซิค, มาเซียจ กอร์สกี้
 

อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้, บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ คอสเซียลนี่, โธมัส แฟร์มาเล่น, กาแอล กลิชี่, เอ็มมานูเอล ฟริมปอง, โทมัส โรซิชกี้, ซามีร์ นาสรี่, แจ็ค วิลเชียร์, ธีโอ วัลค็อตต์, มารูยาน ชามัค

สำรอง : วอจเซียช เซสนี่, คีแรน กิ๊บบ์ส, ฮาวาร์ด นอร์ดทเวต, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, เฮนรี่ ลันส์บิวรี่, คาร์ลอส เวล่า, เจย์ เอ็มมานูเอล-โธมัส







โอลิมปิก มาร์กเซย แชมป์เก่า ลีก เอิง เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทำเอาแฟนๆช็อกไปตามกัน เมื่อพ่ายให้กับ ก็อง น้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาคารัง 1-2 ขณะที่ โอลิมปิก ลียง ก็ทำได้แค่เสมอกับ โมนาโก ในถิ่นตัวเอง 0-0 ฟุตบอลลีก เอิง ฝรั่งเศส เมื่อคืนที่ผ่านมา


ฟุตบอล ลีก เอิง ฝรั่งเศส
วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม 2553
โอลิมปิก มาร์กเซย 1 - 2 ก็อง



สนาม : สต๊าด เวโลโดรม


 


เกมเปิดซีซั่นที่ สต๊าด เวโลโดรม ของ แชมป์เก่า และ ดับเบิ้ลแชมป์ เมื่อซีซั่นก่อน โอแอ็ม รับมือ ก็อง แชมป์ ลีก เดอซ์ ซีซั่นที่แล้ว เกมนี้เจ้าถิ่นขาด บรันเดา ที่แบนเลยใช้ อังเดร อายิว ลงมาเล่นร่วมกับ  มาติเยอ วัลบูเอน่า และมามาดู เนียง กัปตันทีม
 

เริ่มเกมมาลูกทีมของ ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เดินหน้าเข้าใส่ทันที และมีโอกาสก่อนในนาทีที่ 15 เมื่อ ลูโช่ กอนซาเลซ ทำชิ่งกับ มามาดู เนียง ก่อนหลุดเข้าเขตโทษแล้วยิงผ่าน อเลซิส เธโบซ์ มือกาวทีมเยือนแล้ว แต่เช็ดคานออกนิดเดียว
 

อย่างไรก็ตาม 10 นาทีถัดมา ก็อง ตอบโต้บ้างเมื่อ ยุสเซฟ เอล-อราบี ลากลุยเข้าเขตโทษก่อนตัดสินใจจ่ายออกซ้ายให้ โยฮัน โมลโล่ เพื่อนร่วมทีมยิงผ่าน สตีฟ ม็องด็องด้า มือกาว โอแอ็ม ไปแล้ว แต่ทว่ากระเด้งชนเสาแรกอย่างน่าเสียดาย
 

หลังจากนั้นเกมเป็น มาร์กเซย ที่ครองบอลมากกว่าชัดเจน แต่ทว่า ก็อง เล่นเกมรับดีเหลือเกิน แถมโต้กลับสวยๆ ได้หลายครั้ง
 

ท้ายครึ่งแรก ก็อง ที่ได้ส่องเป็นว่าเล่นเริ่มจากนาที 39 จากลูกเตะมุม ม็องด็องด้า ออกมารับหลุดบอลเข้าทาง ก็องเดีย ตราโอเร่ แตะต่อให้ แบ็งฌาแม็ง นิเว่ต์ ยิงจ่อๆ ไม่มีประตูติด สเตฟาน เอ็มเบีย ที่ยืนคุมเส้น
 

และจากลูกเตะมุมของ โมลโล่ พุ่งเข้าหน้าประตู นิเว่ต์ เข้าไม่ถึงบอล แต่ลูกหลุดจาก ม็องด็องด้า เลยมาถึง เอล-อราบี พุ่งโขกคนเดียวโล่งๆ 4-5 หลาข้ามคานเหลือเชื่อ
 

ก่อนครึ่งแรก 3 นาที เอล-อราบี มีโอกาสจะๆ อีกครั้งเมื่อเจ้าตัวรับบอลจากการเปิดเข้ามาของ ปาโบล บาร์โซล่า ทางด้านกราบขวาก่อนพลิกเข้าซ้ายแล้วยิงเต็มเท้าโค้งไปที่เสาสองเช็ดเสาออกข้างนิดเดียว จบ 45 นาทีแรกเสมอกัน 0-0 โดย ก็อง เล่นกับ แชมป์เก่า ได้ประทับใจสุดๆ
 

มาถึงครึ่งหลัง นาที 49 เกรกอรี่ ตัฟโฟโร่ แบ็กซ้ายก็องเสียบเข้าที่ข้อเท้าของ มาติเยอ วัลบูเอน่า ทำให้โอแอ็มได้ฟรีคิกบริเวณเกือบสุดริมเส้นฝั่งขวา ลูโช่ กอนซาเลซ รับหน้าที่สังหารฟรีคิกไปติด อเลซิส เธโบซ์ นายทวารก็องเซฟไว้ได้
 

และแล้วนาที 52 ก็องเป็นฝ่ายได้ประตูนำ 1-0 นิโกล่าส์ เซิบ มิดฟิลด์กัปตันทีมก็องแผลงฤทธิ์ยิงเต็มเท้าระยะไกลมากกว่า 20 หลา บอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม
 

ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เทรนเนอร์มาร์กเซยแก้เกมทันที เปลี่ยนผู้เล่นสำรอง 2 คนรวดในนาที 56 มามาดู ซามัสซ่า และฮาเต็ม เบน อาร์กฟา เล่นแทน มาติเยอ วัลบูเอน่า กับ อังเดร อายิว เปเล่ ตามลำดับ
 

นาที 57 ก็องน่าได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะที่ โยฮัน โมลโล่ โดน เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า แบ็กขวามาร์กเซยเสียบสกัดล้มลงในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยให้เกมดำเนินต่อไป
 

จากนั้นเจ้าถิ่นบุกหนัก นาที 72 ลูโช่ กอนซาเลซ เปิดลูกเตะมุมเข้ามาหน้าประตูก็ติดกองหลังก็องสกัดเอาไว้ได้
 

อย่างไรก็ตาม มาร์กเซยตามตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จ ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา มิดฟิลด์ตัวสำรองเปิดบอลจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายให้ มามาดู ซามัสซ่า หัวหอกตัวสำรองที่ฉวยโอกาสทองที่ เฌเรมี่ ซอร์กบง เซนเตอร์ฮาล์ฟก็องมัวแต่เอาตัวบังบอล โดย ซามัสซ่า แย่งไปได้ ก่อนยิงตุงตาข่าย นาที 76 แต่เมื่อดูจากภาพช้า เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นจังหวะล้ำหน้า แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร โดยให้เจ้าถิ่นได้ประตูนี้
 

นาทีที่ 86 ทีมเยือนช็อกเจ้าถิ่นด้วยการขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 จากลูกโหม่งของ ยุสเซฟ เอล-อราบี
 

ช่วงเวลาที่เหลือ มาร์กเซย บุกหนักหวังทวงประตูคืนแต่ทำไม่ได้ จบเกม โอลิมปิก มาร์กเซย แชมป์เก่า พ่าย ก็อง น้องใหม่ คารัง 1-2
 

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

โอลิมปิก มาร์กเซย (4-3-3) : สตีฟ ม็องด็องด้า - เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, เลย์ติ เอ็นดิอาย, สเตฟาน เอ็มเบีย, ไต ตาอิโว่ - ลูโช่ กอนซาเลซ, เอดูอาร์ ซิสเซ่, ชาร์ลส์ กาบอเร่ - มาติเยอ วัลบูเอน่า, อังเดร อายิว, มามาดู เนียง (กัปตันทีม)

สำรอง : เอแล็งตง อันเดราเด้, วิตอริโน่ ฮิลตัน, ฟาบริซ อาเบรียล, เบอนัวต์ เชย์รู, ชอร์กด็อง อายิว, ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา, มามาดู ซามาสซ่า
 

ก็อง (4-5-1) : อเลซิส เธโบซ์ - ปาโบล บาร์โซล่า, เฌเรมี่ ซอร์กบง, โธมัส เออร์โตซ์, เกรกอรี่ ตัฟโฟโร่ - นิโกล่าส์ เซิบ (กัปตันทีม), ดาเมียง มาร์ก, แบ็งฌาแม็ง นิเว่ต์, ยุสเซฟ เอล-อราบี, โยฮัน โมลโล่ - ก็องเดีย ตราโอเร่ 

สำรอง : ดาเมียง แปร์กกิส, นิโกล่าส์ เมอเล่ต์, อเลซ็องดร์ เรโน, ซ็องบู ยาตาบาเร่, ลิวิโอ นาบาบ
 

ผู้ตัดสิน : อเลซ็องดร์ กาสโตร


 


โอลิมปิก ลียง 0 - 0 โมนาโก



สนาม : สต๊าด เดอ แชร์กล็องด์


 


โอลิมปิก ลียง อดีตแชมป์ลีก เอิง 7 ปีซ้อน และเป็นรองแชมป์ลีก เอิง เมื่อฤดูกาลที่แล้วออกสตาร์ตนัดแรกด้วยการเปิดสต๊าด เดอ แชร์กล็องด์ ปะทะอาแอส โมนาโก ทีมอันดับ 8 ซึ่งถือเป็นบิ๊กแมตช์ที่ได้รับความสนใจจากแฟนบอลจำนวนมาก แต่โมนาโกไม่ชนะที่บ้านลียงในลีก เอิง นับตั้งแต่ฤดูกาล 2002-2003
 

โคล้ด ปูแอล เทรนเนอร์ลียงไม่มี ลิซานโดร โลเปซ ดาวยิงอาร์เจนตินา บาดเจ็บเอ็นร้อยหวาย ขณะที่ อองโตนี่ เรเวยแยร์ แบ็กขวาติดโทษแบน 1 นัด อย่างไรก็ตาม ตัวหลักอย่าง เฌเรมี่ ตูลาล็อง มิดฟิลด์ตัวรับทีมชาติฝรั่งเศส, อาลี ซิสโซโก้ แบ็กซ้าย, อูโก้ โยริส นายทวารมือ 1 เลส์ เบลอส์ ลงตัวจริงทั้งหมด เช่นเดียวกับ จิมมี่ บริย็องด์ กองหน้าคนใหม่เจ้าของค่าตัว 6 ล้านยูโร หรือ 258 ล้านบาท ลงตัวจริงเคียงข้าง บาเฟติมบี้ โกมิส ส่วน กีย์ ลากมบ์ เทรนเนอร์หนวดงามวัย 55 ปี ของโมนาโกขาด อเลฆานโดร อลอนโซ่ มิดฟิลด์อาร์เจนตินา ติดโทษแบน 1 นัด, ลัคมัน ฮารูน่า มิดฟิลด์ตัวรุกทีมชาติไนจีเรีย เจ็บกล้ามเนื้อ, ดีเอโก้ เปเรซ กองกลางทีมชาติอุรุกวัยไม่ฟิต แต่กองหน้ามี พาร์ค ชู-ย็อง ดาวยิงทีมชาติเกาหลีใต้นำทัพ
 

เกมครึ่งแรก ในช่วง 15 นาทีแรก การแข่งขันเป็นไปอย่างสูสี นาที 18 โมนาโกได้บอลจากลูกเปิดทางริมเส้นฝั่งซ้าย พาร์ค ชู-ย็อง ขึ้นโหม่งติด อูโก้ โยริส นายทวารลียงปัดบอลออกเส้นหลังไปได้
 

นาที 22 โอกาสเป็นของโมนาโก จากจังหวะที่ ดาเนี่ยล นิคูเล ทำชิ่งให้พาร์คยิงไปติดโยริสเซฟได้เยี่ยม และสามนาทีต่อมา เกมเป็นของลียง เมื่อ บาเฟติมบี้ โกมิส ผ่านบอลมาเข้าทาง โฮโนราโต้ เอแดร์สัน มิดฟิลด์บราซิลยิงหน้าประตูติด เซดริก มงกงกู ของโมนาโกสกัดบอลพ้นอันตรายออกไปได้
 

แต่แล้วนาที 34 โมนาโกเปลี่ยนเอาอาเดรียโน่แบ็กขวาออกจากสนาม เนื่องจากบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา โดยส่ง อิกอร์ โลโล่ ลงเล่นแทน โดยสามนาทีถัดมา แฟร์นานเดส มิเชล บาสโต๊ส ปีกบราซิลซัดฟรีคิกจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งขวา ข้ามคานไม่กี่หลา
 

ท้ายเกมครึ่งแรก นาที 42 ลียงชวดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย เฌเรมี่ ตูลาล็อง ผ่านบอลให้ บาเฟติมบี้ โกมิส วอลเลย์หน้าประตูติด สเตฟาน รุฟฟิเย่ร์ ปัดออกไปได้เยี่ยม จบครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0
 

ในครึ่งหลัง ลียงมีลุ้นนาที 58 โฮโนราโต้ เอแดร์สัน ซัดฟรีคิกข้ามคานไม่กี่หลา และนาที 63 เจ้าถิ่นได้ลูกฟรีคิกอีกครั้ง แต่หนนี้ มิเชล บาสโต๊ส รับหน้าที่สังหารฟรีคิกระยะมากกว่า 30 หลาข้ามคาน
 

เจ้าถิ่นยังเป็นฝ่ายบุกมากกว่า แต่กองหลังโมนาโกเล่นได้อย่างเหนียวแน่น ทำให้ขุนพลโอแอลเจาะไม่เข้า นาที 68 มิราเลม ปานิช มิดฟิลด์ดาวรุ่งทีมชาติบอสเนียจ่ายบอลให้ อาลี ซิสโซโก้ ซัลโวหน้าประตูติด สเตฟาน รุฟฟิเย่ร์
 

นาที 70 โมนาโกน่าได้ประตูเมื่อ ฌิมี่ ตราโอเร่ กองหลังตัวสำรองโยนบอลให้ ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมอย็อง โขกจ่อๆ ระยะเผาขนติด โยริส ปัดออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ
 

นาที 78 พาร์ค ได้บอลหลุดเข้าไปซัดหน้าประตู ไม่เข้ากรอบ จบเกม โอลิมปิก ลียง เสมอ โมนาโก 0-0
 

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

โอลิมปิก ลียง : อูโก้ โยริส - ลามีน กัสซาม่า, คริส (กัปตันทีม), เฌเรมี่ ตูลาล็อง, อาลี ซิสโซโก้ - โฮโนราโต้ เอแดร์สัน, มักซิม โกนาลงส์, มิราเลม ปานิช, แฟร์นานเดส มิเชล บาสโต๊ส - จิมมี่ บริย็องด์, บาเฟติมบี้ โกมิส

สำรอง : เรมี่ แวร์กกู้ทร์ (ผู้รักษาประตู), อาร์รี่ โนวิลโล่, เดยัน ลอฟเรน, คิม คัลล์สตรอม, ฌอง มากูน, เกลม็องต์ เกรอนิเย่ร์, เฌเรมี่ ปิเอ้ด์
 

โมนาโก : สเตฟาน รุฟฟิเย่ร์ (กัปตันทีม) - อาเดรียโน่, เพ็ตเตอร์ ฮันส์สัน, โธมัส ม

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์