คลินส์มันน์ ทำสิ่งที่ฮิตเลอร์ทำไม่สำเร็จ “เขาชนะอังกฤษ”

คลินส์มันน์ ทำสิ่งที่ฮิตเลอร์ทำไม่สำเร็จ “เขาชนะอังกฤษ”

บทความจากอัลบั้มภาพ สตาร์ ซอคเกอร์ 94-95 (สถิติและความสำเร็จนับถึงเมื่อ ปี 94)



เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์เคยเป็นนักเตะที่แฟนบอลอังกฤษหมั่นไส้และเกลียดชังมากที่สุด แต่หลังจากเขาเข้ามาสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเพื่อนที่ไวท์ฮาร์ทเลน
ไม่นาน ฉลามขาวจากเยอรมันพลิกสถานการณ์ให้ตัวเองกลายเป็นขวัญใจแฟนบอลไปได้อย่างง่ายดาย เหตุที่แฟนบอลอังกฤษเคยเกลียดเจอร์เก้น
คลิ้นส์มันน์ตกรอบในศึกฟุตบอลโลกปี 1990 ที่อิตาลี แต่พอคลิ้นซี่ย้ายมาอยู่กับไก่เดือยทอง เขาก็กลายเป็นอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยเหลือทีมที่น่าสงสาร
อย่างสเปอร์และกลายเป็นนักเตะที่สำคัญของทีมที่จะช่วยให้ทีมยืนหยัดในพรีเมียร์ชิปได้ต่อไป

ก่อนจะย้ายมาสเปอร์คลินส์มันน์เคยค้าแข้งอยู่กับสตุ๊ตการ์ท อินเตอร์ มิลาน และโมนาโก เขาเริ่มฉายแววนักเตะระดับโลกตั้งแต่อายุ 9 ขวบ
เมื่อยิงได้ 16 ประตูในนัดเดียว ไม่น่าแปลกใจที่ภายหลังเด็กคนนั้นจะได้ตำแหน่งนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปี เมื่อปี 1988 (!!!) และได้แชมป์ยูฟ่าคัพกับ
อินเตอร์ มิลานในปี 1991 คลินซี่รับใช้ชาติมา 56 นัด ตั้งแต่ปี 1987 และยิงประตูในทีมชาติได้ 25 ประตู รวมถึงเป็นหนึ่งในอินทรีเหล็กชุดแชมป์โลก
ปี 1990 ด้วย

ตอนนั้นอลัน ชูการ์ ประธานของสเปอร์ถามออสซี่ อาร์ดิเลส ผู้จัดการทีมว่า จะซื้อคลิ้นซี่หรือไม่นั้น อาร์ดิเลสถึงกับร้องว่า “คุณล้อเล่นหรือเปล่า”
ใครก็คงอยากทราบว่า คลิ้นซี่คิดอย่างไรถึงได้ตอบตกลงมาอยู่ที่ไว้ท์ ฮาร์ทเลน เพราะสเปอร์ส มีปัญหาภายในมากมาย เริ่มตั้งแต่ฐานะการเงิที่ง่อนแง่น
จนต้องขายนักเตะตัวหลักก่อนที่อลัน ชูการ์จะเข้ามาเป็นประธานสเปอร์ ต่อมาก็มีการปีนเกลียวระหว่าง ชูการ์ กับ เทอร์รี่ เวนาเบิ้ล และเป็นเวนาเบิ้ล
ที่ต้องย้ายออกไป ก่อนที่อาร์ดิเลสก็เข้ามาแทนที่ แต่แล้วก็มิวายมีปัญหาต้องเปลี่ยนตัวเป็นเจอร์รี่ ฟรานซิสแทน นอกจากนั้นทีมก็ยังมีปัญหาถูกเอฟเอ
ตัดแต้มถึง 6 แต้ม และถูกห้ามลงแข่งในเอฟเอคัพ จนต้องฟ้องร้องกันวุ่นวาย แล้วทำไมคลินซี่ถึงเลือกที่จะมาที่นี่แทนที่จะเป็นเจนัว หรือแอตเลติโก มาดริด
คลินซี่บอกว่าสาเหตุที่ตัดสินใจมารับค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 23,000 ปอนด์ ไม่ใช่เพราะเรือ่งเงินเพียงอย่างใด แต่เป็นเพราะเขาอยากเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้น
“นั่นคือเหตุผลที่ผมออกจากเยอรมันตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่ค้าแข้ง เพราะผมว่าเป็นการดีที่เราจะไปอยู่ในประเทศใหม่ๆ ในสิ่งแวดล้อมที่ต่างออกไป
ได้พบผู้คนมากมาย ได้เล่นฟุตบอลที่ผมชอบ แล้วยังได้เล่นฟุตบอลที่ผมชอบแล้วยังได้ประสบการณ์นอกสนามอีก ผมบอกว่าตัวเองว่า เราต้องคว้าโอกาสอย่างนี้ไว้”
การย้ายมาอยู่สเปอร์จึงเหมือนกับการผจญภัย “ผมอยากได้ประสบการณ์แปลกใหม่”
คลินส์มันน์บอกเอาไว้“ผมนึกถึงฟุตบอลอังกฤษ บรรยากาศในสนามและการใช้ชีวิตในลอนดอนซึ่งเป็ฯที่ชุมชนของคนหลายชาติหลายภาษา
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งใหม่สำหรับผม ผมรู้ว่าถ้าย้ายมาอังกฤษ ทุกอย่างจะแปลกใหม่และแตกต่างจากที่ผมเคยอยู่มา”

คลินส์มันน์พูดึงบุคลิกของตัวเองว่า “ในสนามผมมักเครียด ทะเยอทะยาน และพยายามมีส่วนร่วมในเกม แต่นอกสนาม ผมไม่เป็น
อย่างนั้นหรอก” “ผมซีเรียสเรื่องงานมากจริงๆ เพราะงานของนักฟุตบอลต่างจากงานออฟฟิซที่ทำวันละ 10-12 ชม. เรามีเวลาโชว์ผลงาน
และประสบความสำเร็จแค่ชั่วโมงสองชั่วโมงในแต่ละสัปดาห์ ผมจึงต้องการความสำเร็จและความพึงพอใจ เพราะผมไม่ได้ทำงานทุกวัน”

แนวการเล่นของคลินส์มันน์เข้ากับทางบอลอังกฤษได้ดี เพราะเขาเน้นที่การได้ประตูมากว่าการโชว์ลีลา เขาพูดถึงฟุตบอลแบบอังกฤษว่า
“เป็นเกมเร็วสำหรับศูนย์หน้า เราจะชอบเกมแบนี้ เพราะเรามีโอกาสยิงประตูได้มาก” เขายังบอกด้วยว่า พรีเมียร์ชิปเป็นหนึ่งในลีกทีดี่
ที่สุดของยุโรป เพิ่มเติม : ณ เวลานั้นเบอร์ 1 ของฟุตบอลลีกระดับโลกอยู่ที่อิตาลี)

แล้วเรื่องที่ถูกวิจารณ์ว่า แค่ขนตาของกองหลังฝ่ายตรงข้ามแตะตัวคลิ้นซี่ก็พร้อมจะลงไปนอนร้องโอดโอย จนกว่ากรรมการจะให้ลูกโทษ
“ผมไม่เคยได้ยินเรื่องที่ว่าตัวเองชอบพุ่งล้มมาก่อนเลย “ คลิ้นซี่เล่าต่อว่า “ผมเพิ่งทราบก่อนมาอังกฤษไม่นานนี่เอง ตอนที่ทราบ
ผมยังพูดเลยว่า ”เกิดอะไรขึ้นที่นี่ เพราะที่อื่นที่ผมไปอยู่ไม่เห็นมีใครเคยพูดถึงเรื่องนั้นเลย”

คลิ้นซี่เล่าถึงการแก้ปัญหานี้ว่า “เพื่อนที่อยู่ในลอนดอนแนะนำผมว่า ผมควรจะเห็นเป็นเรื่องตลก ถ้าผมไม่ใส่ใจข่าวพวกนี้ อีกหน่อย
แฟนบอลอังกฤษก็จะยอมรับผมได้เอง” คำแนะนำของเพื่อนคนนี้กระมังที่ทำให้คลิ้นส์มันน์ชอบทำตลกเกี่ยวกับการพุ่ง ล้มทั้งการพูดเล่นกับนักข่าว และ
การแกล้งล้มหลังจากยิงประตูได้รวมทั้งเมื่อปากฉีกโดยฝีมือของ เดส วอล์คเกอร์ คลิ้นซี่ก็ยังยิ้มหวานอยู่ (เพิ่มเติม : โดนของแข็งจาก
เดส วอล์คเกอร์เข้าเต็มที่จนได้เลือดและลงไปน๊อกคาพื้นสนาม)

คลิ้นซี่บอกว่าชอบแฟนบอลที่อังกฤษนี้มาก เพราะแฟนบอลอังกฤษคลั่งฟุตบอล และชอบเห็นการเล่นที่ขาวสะอาด “เวลาแฟนๆ เห็นว่านักเตะ
ในทีมทุ่มกันสุดตัวพวกเขาจะลุกขึ้นกันยืนปรบมือให้เราตอนจบเกม และนั้นเป็นเรื่องที่วิเศษมาก เพราะในเยอรมันหรืออิตาลี แฟนบอล
จะพอใจเฉพาะเมื่อทีมชนะเท่านั้น ดูอย่างเกมที่เราพบกับควีนสปาร์ค แรงเยอร์ เราทำได้แค่เสมอ แต่แฟนๆ ก็ยังพอใจ

คลิ้นส์มันน์มีประโยคติดปากอยู่ 2 ประโยคคือ “น่าสนใจ” และ ”โอกาส” ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเขาเป็นคนกระตือรือล้น สนใจสิ่งต่างๆ
รอบตัว นักเตะค่าตัว 2.3 ล้านปอนด์ คนนี้ขับรถโฟล์คเต่าและบริจาคเงินให้ “กรีนพีซ”

แม้ว่าจะมีแฟนบอลอยู่เกือบทั่วโลก แต่คลิ้นซี่ไม่ค่อยสนใจความดังเท่าไรนัก เขาบอกว่าเขาเล่นฟุตบอลเพื่อนเรียนรู้ชีวิต เขาไม่ได้สนใจผล
ประโยชน์ที่จะได้จากฟุตบอล ไม่ชอบความหรูหรา ฟู่ฟ่า ชอบชีวิตที่เรียบง่ายธรรมดามากกว่า ดังนั้นเวลาที่คลิ้นซี่อยู่ในสนาม เขาจึงไม่
ต้องการที่จะเด่นอยู่คนเดียว “เวลาที่คนอื่นยิงประตูได้ แล้วทีมเราชนะ ผมก็ดีใจเท่ากับเวลายิงได้เอง แน่ล่ะว่า คุณต้องดีใจสุดๆ
อยู่แล้วเวลาที่ทำประตูเองได้ แต่เมื่อการแข่งขันจบลงเราจะสนใจผลแพ้ชนะมากกว่า ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของทีม”

นักฟุตบอลชื่อดังอย่างคลิ้นซี่น่าจะมีผู้จัดการส่วนตัวไว้จัดการธุรกิจให้ แต่เขากลับมีทนายความประจำตัวแค่คนเดียว ทนายคนนี้มีหน้าที่
ช่วยดูแลเรื่องเอกสารสัญญา คลิ้นซี่ให้เหตุผลว่า “ผมไม่ชอบให้คนอื่นเข้ามาจัดการเรื่องของผม ผมพูดอย่างนี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว
ถ้าผมจะพลาด ผมพลาดด้วยตัวเองดีกว่า การเป็นผู้จัดการให้ตัวเองทำให้ผมมีชีวิตดีกว่า การเป็นผู้จัดการให้กับตัวเองทำให้ผมมีชีวิตนอก
สนามเป็นการเรียนรู้ไปในตัว รู้จักแก้สถานการณ์และต่อรองกับผู้คนผมคิดถึงการเรียนในโรงเรียนอยู่บ้างเหมือนกัน เพราะเพื่อนๆ ต่างได้
เข้ามหาวิทยาลัย แต่ผมเป็นนักฟุตบอลอาชีพตั้งแต่อายุ 17 “

คลิ้นซี่ไม่ค่อยชอบพูดถึงตัวเอง และไม่อยากดัง เขายืนยัน่าอยากเป็ฯคนธรรมดามากกว่า และที่มาเล่นฟุตบอลเพราะชอบเล่นเท่านั้น
คนธรรมดาอะไรจะปานนั้น ค่าตัวตั้ง 2.3 ล้านปอนด์ มีอาชีพเป็นนักฟุตบอที่มีแฟนบอลอยู่เกือบทั่วโลก งานที่เขาต้องทำคือยิงประตู
ให้ทีมชาติเยอรมัน ยิงประตูให้ท๊อตแน่ม ฮ๊อทสเปอร์ และเป็นคนธรรมดาที่มีหนังสือในอังกฤษเขียนข่าวถึงว่า


“เขาทำสิ่งที่ฮิตเลอร์ทำไม่สำเร็จ เขาเอาชนะอังกฤษได้” เท่านั้นเอง !!!!!

http://community.thaigermanfanclub.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์