แคว้นคาลาตัน(บาร์เซโลน่า) ขอแยกประเทศจากสเปน

แคว้นคาลาตัน(บาร์เซโลน่า) ขอแยกประเทศจากสเปน

แม้ทีม กระทิงดุ จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก แต่ความแตกแยกใน ชาติสเปน ก็ยังร้าวลึกเช่นเดิม

P { margin: 0px; } ผ่าน พ้นไปแล้วสำหรับชัยชนะเหนือฮอลแลนด์ของสเปน ส่งผลให้ทีมกระทิงดุสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาครองได้เป็นสมัยแรก หลังจากที่ถูกตีตราว่าเป็น หมูสนามจริง สิงห์สนามซ้อม มาหลายสมัย


แต่ในช่วงสุด สัปดาห์แห่งความปลื้มปีติดังกล่าวเช่นกัน ที่รอยแตกแยกทางการเมืองบางอย่างได้ปรากฏขึ้นอย่างเด่นชัดอีกครั้งหนึ่งใน สังคมสเปน


การประสบความสำเร็จของสเปนในฟุตบอลโลก ครั้งนี้ ส่งผลให้มีธงชาติสเปนประดับประดาอยู่ตามอาคารสถานที่ต่าง ๆ เต็มไปหมด แต่ก็มีคนจำนวนหนึ่งในสังคมสเปนที่รู้สึกขัดข้องใจกับภาวะดังกล่าว


คนเหล่านั้นก็คือ บุคคลในแคว้นบาสก์และคาตาโลเนีย (คาตาลัน) ที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนออกเป็นอิสระจากประเทศสเปน


ก่อนหน้าการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศของ ฟุตบอลโลกจะเริ่มขึ้น อินากี้ อัตซูเตกี้ นักเศรษฐศาสตร์วัย 40 ปี จากเมืองบิลเบาแห่งแคว้นบาสก์ ได้เคยแสดงความเห็นเอาไว้ว่า ผมต้องการให้เนเธอร์แลนด์ชนะสเปนสัก 30-0


เป็นที่ทราบกันดี ว่าแคว้นบาสก์และคาตาลันซึ่งมีภาษาและอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันเป็นแบบฉบับ เฉพาะของตนเองนั้น ต้องการมีอำนาจอิสระในการปกครองตนเองมากขึ้น จากศูนย์กลางของ รัฐ-ชาติ สเปนที่มาดริด


นักการ เมืองที่มาดริดได้นำเอาการประสบความสำเร็จของทีมชาติสเปน ซึ่งมีผู้เล่นส่วนใหญ่มาจากคาตาลันและบาสก์ มาขายเป็นแนวความคิดเรื่องชาติสเปน ทั้ง ๆ ที่ ขาวบาสก์จำนวนมากไม่ได้มีความรู้สึกร่วมกับชาติดังกล่าวเลยแม้แต่น้อย อัตซูเตกี้ กล่าว


ความขัดแย้งระหว่างแคว้นที่ต้องการแยก ตนเองเป็นอิสระกับศูนย์กลางอำนาจรัฐที่นครหลวงของประเทศอย่างมาดริดยิ่งระอุ มากขึ้น ในภาวะที่ทีมชาติสเปนกำลังฉลองชัยในการแข่งขันฟุตบอลโลก เมื่อศาลรัฐธรรมนูญของสเปนได้มีคำพิพากษาที่บ่งชี้ถึงสิทธิในการปกครองตนเองอันมีขีดจำกัดของแคว้นคาตาโลเนีย


เนื่องจากศาลได้ พิพากษาว่าคาตาลันไม่สามารถจะถูกแยกออกไปเป็นอีก ชาติ หนึ่งได้ และภาษาคาตาลันไม่ควรจะได้รับการจัดลำดับความสำคัญให้อยู่เหนือกว่าภาษาสเปน ส่งผลให้การเกิดการชุมนุมประท้วงของชาวคาตาลันจำนวนมากในวันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคมผ่านมา ณ นครบาร์เซโลน่า เมืองหลวงของแคว้นคาตาโลเนีย


รายงานข่าวต่างประเทศระบุว่า ในวันดังกล่าว ผู้คนมากกว่าหนึ่งล้านคนได้ออกมาชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้แคว้นคาตาลันมีอิสรภาพในการปกครองตนเองมากยิ่งขึ้น


ผู้ประท้วงจำนวนมากในบาร์เซโลน่าได้โบกธงชาติคาตาลันลาย เหลือง-แดง ที่มีข้อความระบุว่า พวกเรามีสถานะเป็นชาติอีกชาติหนึ่ง


การประท้วงครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการประกาศอิสรภาพว่าพวกเราต้องการมีประเทศของตนเอง นั่นคือ ประเทศคาตาโลเนีย นักศึกษาคนหนึ่งที่ร่วมประท้วง กล่าว


ทางด้านบิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือทีมชาติสเปนได้กล่าวถึงประเด็นนี้ก่อนหน้าการแข่งขันฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศว่า ตน หวังว่าความสัมพันธ์อันกลมกลืนระหว่างลูกทีมและทีมเวิร์คอันยอดเยี่ยมจะมี ส่วนช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างภูมิภาคที่แตกต่างกันในประเทศสเปนมีความราบ รื่นมากยิ่งขึ้น


ขณะที่ชาบี เอร์นานเดซ มิดฟิลด์ตัวเก่งจากบาร์เซโลน่า สโมสรฟุตบอลซึ่งถือเป็นอัตลักษณ์สำคัญระดับหัวใจหลักของชาวคาตาลัน กล่าวว่า ตนเองรู้สึกภูมิใจ ที่ทีมชาติสเปนชุดนี้มีนักเตะหลายคนมาจากสโมสรบาร์เซโลน่า


แต่ ความสำเร็จที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับแค่เพียงบาร์เซโลน่า หรือคาตาโลเนีย เราต้องการให้ทุกคนเกิดความภาคภูมิใจในองค์รวมของสเปน ขณะชมพวกเราเล่นฟุตบอลในสนาม เอร์นานเดซกล่าว


แต่อะไร ๆ ก็ไม่ง่ายดายดังเช่นที่นักเตะเชื้อสายคาตาลันในทีมชาติสเปนได้วาดหวังไว้


เมื่อเทศบาลนคร บาร์เซโลน่า เมืองหลวงของแคว้นคาตาโลเนีย ตัดสินใจห้ามฉายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบรองชนะเลิศระหว่างสเปนกับเยอรมนีทาง จอโทรทัศน์สาธารณะประจำเมือง แม้ว่าผู้เล่น 7 จาก 11 คนแรกของทีมชาติสเปนจะมาจากสโมสรบาร์เซโลน่าก็ตาม


อย่างไรก็ตาม พวก เขาได้กลับลำด้วยการอนุญาตให้จัดการถ่ายทอดสดการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ ระหว่างสเปนกับฮอลแลนด์ทางจอโทรทัศน์สาธารณะได้ ท่ามกลางความเห็นด้วยของพิธีกรรายการโทรทัศน์หัวเอียงขวาในกรุงมาดริด


แต่ ความแค้นเคืองใจยังระอุอยู่ลึก ๆ เมื่อการดำรงอยู่ของทีมชาติคาตาลันถูกเพิกเฉยจากฟีฟ่าและยูฟ่า จนไม่สามารถลงแข่งขันฟุตบอลในระดับนานาชาติได้ ทั้ง ๆ ที่ทีมชาติสเปนสามารถผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกจากลูกโหม่งของนักเตะ เชื้อสายคาตาลันอย่างการ์เลส ปูโยล อันเป็นลูกสูตรที่ถูกฝึกฝนกันในสโมสรบาร์เซโลน่า (เช่นกันกับประตูชัยในนัดชิงชนะเลิศ ซึ่งผู้ผ่านบอลคือเชส ฟาเบรกาส และผู้ยิงประตูคือ อันเดรส อิเนียสต้า ล้วนเป็นนักเตะเชื้อคาตาลันที่เติบโตมาจากศูนย์ฝึกนักเตะเยาวชนของสโมสรเจ้า บุญทุ่มแห่งคาตาลันทั้งคู่)


ผมไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสเปนเลย มันช่วยไม่ได้จริง ๆ มาร์ค โมเรลล์ ชายชาวคาตาลันวัย 46 ปี กล่าวและว่า ปู โยลและนักเตะจากบาร์เซโลน่าที่เหลือควรจะได้ลงเล่นในนามทีมชาติคาตาลัน ถ้าเราได้รับอนุญาตให้มีทีมชาติของตนเอง แต่เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นเกิดขึ้น พวกเขาก็จำเป็นจะต้องไปเล่นให้กับทีมชาติสเปน


แต่สำหรับบางคนแล้ว ฟุตบอลกับการเมืองควรเป็นเรื่องที่แยกขาดออกจากกัน ดังความเห็นของชาวบาสก์วัย 32 ปี ผู้มีนามว่าไอตอร์ ซูเอซัว ที่ระบุว่า ผมไม่เคยสวมเสื้อสีแดงของทีมชาติสเปนเลย แต่ผมก็ยังหวังให้สเปนได้เป็นแชมป์โลก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์