กระทิงเข่นชิลี 10 ตัวหนีแซมบ้าเจอฝอยทอง

'กระทิงดุ'สเปนผ่านช่วงเวลาแห่งความเสียวด้วยการเสร็จสิ้นภารกิจในรอบแบ่งกลุ่มเบียดชิลีที่มีผู้เล่นเหลือ 10 คนหวุดหวิด 2-1 แซงหน้าคว้าแชมป์กลุ่มหนีบราซิลเข้าไปพบกับทีมโปรตุเกสจอมอุดทีมใหม่ของวงการฟุตบอล 

ฟุตบอลโลก 2010 กลุ่ม H 

วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน 2553
 

ชิลี 1 - 2 สเปน 

ประตู :
 0-1 ดาวิด บีญ่า น.24,0-2 อังเดรส อิเนสต้า น.37,1-2 โรดริโก้ มีญาร์ น.47 

เกมนี้สเปนใช้คู่กองหน้าเป็นเฟร์นานโด ตอร์เรส และดาวิด บีญ่าลงล่าตาข่าย โดยมีอิเนสต้า และชาบี้ เฮร์นานเดซเป็นตัวปั้นเกมเพื่อทะลวงตาข่ายของชิลี ซึ่งวันนี้สเปนต้องเอาชนะให้ได้เพื่อการันตีการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแบบไม่ต้องลุ้นผลของอีกคู่หนึง
 

ครึ่งแรก 

กระทิงมาแรง 
ช่วง 10 นาทีแรกของเกม เป็นทางสเปนที่พยายามเซ็ตเกมบุก เพื่อหวังประตูขึ้นนำให้จนได้ แต่ก็ยังไม่สามารถเจาะแนวรับของชิลีเพื่อเข้าไปลุ้นประตูแบบเหน่ง ๆ ได้ 

ใบเหลืองว่อน 
เข้าสู่ช่วงนาทีที่ 20 ของเกม ใบเหลืองก็ปลิวว่อนสนามในช่วงไม่กี่นาที เพราะผู้เล่นของชิลีค่อนข้างจะเข้าหนักใส่นักเตะของทางฝั่งสเปน ทำให้ได้รับใบเหลืองไปแล้วถึง 3 คน 

บีญ่าซัดไกลหาย!!! 
นาทีที่ 24 ถือว่าเป็นโชคดีนิด ๆ ของทางสเปน จากจังหวะที่ได้โต้กลับ แล้วบราโว้ผู้รักษาประตูของชิลีพุ่งออกมาสกัดบอลก่อนที่จะถึงตอร์เรสในระยะที่ค่อนข้างไกล แต่กลับกลายเป็นว่าบอลไม่ขาด บีญ่าวิ่งเข้ามาบรรจงซัดไกลด้วยเท้าซ้าย บอลลอยโด่งกระเด้งพื้นก่อนที่จะเข้าไปนอนซุกอยู่ก้นตาข่าย สเปนออกนำไปแล้ว 1-0 

ชิลีเกือบตีเสมอ 
นาทีที่ 34 เกมสวนกลับของชิลีเกือบที่จะเล่นงานสเปนแล้ว จากจังหวะที่บูเซชัวร์วิ่งหลุดขึ้นมาทางฝั่งซ้าย แล้วยิงแบบชิบ ๆ ก่อนที่กองหลังของทางเปสนจะเข้ามาบล็อกได้ทัน ผ่านคาซิญาสไปแล้ว แต่ว่าทิศทางเบี่ยงออกหลังประตูไปนิดเดียวเท่านั้น 

อิเนสต้ายิง-ชิลีเหลือ 10 คน 
นาทีที่ สเปนก็มาได้ประตูนำห่างจนได้ จากจังหวะที่บีญ่าไหลไปให้กับอิเนสต้าที่วิง่เติมเข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ 'หน้าวิทย์' จะบรรจงปั่นด้วยขวาเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม สเปนทิ้งห่าง 2-0 

และจากจังหวะนี้มาร์โก เอสทราด้าดันไปเกี่ยวขาของเฟร์นานโด ตอร์เรสในจังหวะที่สเปนทำเกมบุก แม้ผู้ตัดสินจะปล่อยให้เกมเดินต่อจนสเปนทำประตูได้ แต่ก็มาให้ใบเหลืองที่ 2 ย้อนหลังแก่แข้งชิลี ทำให้ตอนนี้สเปนได้เปรียบสุด ๆ ทั้งสกอร์ และตัวผู้เล่นในสนาม 

จบ 45 นาทีแรก สเปนขึ้นนำไปก่อน 2-0 และยังได้เปรียบผู้เล่นที่มากกว่า 1 คนอีกด้วย 

ครึ่งหลัง 

ชีีลีเปลี่ยนเอาโรดริโก มีญาร์มาแทนมาร์ค กอนซาเลซ และเปลี่ยนเอาเอสเตบัน ปาเรเดสแทนฮอร์เก้ บัลดิเวีย 

ชิลีตีไข่แตกอย่างไว 
เริ่มครึ่งหลังได้แค่ 2 นาที ชิลีก็มาได้ประตูตีไข่แตกจนได้ จากจังหวะมีญาร์ตัวสำรองที่เพิ่งจะถูกส่งลงมาในช่วงพักครึ่งซัดนอกกรอบเขตโทษ บอลไปแฉลบกองหลังของสเปน ทำให้ลอยข้ามหัวคาซิญาสเข้าไปตุงตาข่าย ชิลีตามมาเป็น 2-1 แล้ว 

เชสก์มาแล้ว-ตอร์เรสออก 
นาทีที่ 55 สเปนตัดสินใจถอดตอร์เรสซึ่งจะคงอยู่ในช่วงเคาะสนิมออก และส่งเชสก์ ฟาเบรกัสกัปตันทีมอาร์เซนอลลงสนามแทน เพื่อคุมแดนกลางให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 

ชิลี 10 คนแต่สู้ 
เข้าสู้ช่วงหนึ่งชั่วโมงเต็มของเกม ชิลีแม้ว่าจะมีผู้เล่นน้อยกว่าก็ตาม แต่ก็พยายามสู้เต็มที่เพื่อลุ้นประตูตีเสมอให้ได้ แต่ก็ยังไม่สามารถเจาะแนวรับของสเปนเข้าไปลุ้นประตูได้เลย 

เกมยังตึง ๆ 
หลังจากเสียประตูตีไข่แตก ทำให้สเปนเริ่มเซ้ตเกมกันแบบระมัดระวัง และไม่พยายามดันเกมรุกจนเต็มตัวมากเกินไป ทำให้เกมของทั้งคู่ส่วนมากมักจะอยู่กันตรงที่กลางสนาม และไปจบด้วยการยิงไกลเหมือนเดิมเป๊ะ 

กระทิงครองเกม 
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย สเปนเน้นการถ่ายบอลไปมาด้วยความแน่นอน มากกว่าการที่จะทำเกมบุกรุกขึ้นไปข้างหน้า ด้วยสาเหตุที่สกอร์นำอยู่ รวมทั้งตัวผุ้เล่นมากกว่า ทำให้ไม่จำเป็นต้องเร่งอะไร 

จบ 90 นาที สเปนเอาชนะชีลีที่มีผู้เล่นเหลือแค่ 10 คนไปได้แบบเฉียดฉิว 2-1 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการเป็นที่ 1 ของกลุ่ม ส่วนทางด้านชิลีผ่านเข้าไปเป็นอันดับที่ 2 จากการที่มีประตูได้เสียน้อยกว่าทางด้าน 'กระทิงดุ' 

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 

ชิลี :
 คลาดิโอ บราโว่,วัลโด ปอนเซ่ ,กอนซาโล่ จาร่า,แกรี่ เมเดล ,อาร์เทอโร่ วิดาล,มาร์โค เอสทราด้า   ,มาร์ค กอนซาเลซ(มีญาร์ น.45),เมาริซิโอ อีสล่า,ฮอร์เก้ บัลดิเวีย(อีสร่า น.45),ฮวน บูเซชัวร์,อเล็กซิส ซานเชซ(โอเรลญาน่า น.63) 

สเปน : อีเคร์ คาซิญาส,เคราร์ด ปิเก้,คาร์เลส ปูโยล,โจน คัปเดบิล่า,แซร์คิโอ รามอส,ชาบี้ อลอนโซ(มาร์ติเนซ น.73),เซอร์จิโอ้ บุสเกตส์,ชาบี้,ดาวิด บีญ่า,เฟร์นานโด ตอร์เรส(ฟาเบรกัส น.55),อังเดรส อิเนสต้า

Credit: www.lentee.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์