บิ๊กแม็คยอมขอเบ็คส์กู้ชีพช่วยสิงโตคำราม

สตีฟ แม็คคลาเรน กุนซือ "สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ ยอมรับ


เรียกตัว เดวิด เบ็คแฮม คืนทีม เพื่อต้องการชัยชนะ และช่วยรักษาตำแหน่งของตัวเองด้วย ขณะที่ หนุ่มเบ็คส์ โวลั่น ถ้าเขายังไม่คิดเลิกเล่น อย่ามาสบประมาทกันอีก



สตีฟ แม็คคลาเรน ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ยอมรับว่า


การตัดสินใจเรียกตัว เดวิด เบ็คแฮม กองกลางรีล มาดริด ทีมจ่าฝูงสแปนิช ลาลีกา กลับคืนสู่แคมป์ สิงโตคำราม อีกครั้ง อาจช่วยให้เขาหลุดพ้นสถานการณ์ล่อแหลมต่อการถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ปลดจากตำแหน่ง

เนื่องจาก ทรีไลออนส์ เป็นทีมอันดับ 4 กลุ่ม อี ในรอบคัดเลือก ยูโร 2008 ขณะนี้ แถมตามหลัง โครเอเชีย ทีมจ่าฝูง ที่แข่งน้อยกว่า 1 นัด 2 แต้ม และทีมที่จะได้สิทธิไปเล่นรอบสุดท้าย คือแชมป์กลุ่มกับทีมอันดับ 2 เท่านั้น

จนถูกสื่อบ้านเกิดว่า เป็น แม็คโดนัท กุนซือหัวกลวง แถมเอฟเอประกาศออกมาแล้วว่า หากอังกฤษ ไม่ชนะ เอสโตเนีย ทีมอันดับ 5 ในเกมถัดไป บิ๊กแม็ค ถูกตะเพิดแน่


"เขาช่วยผมให้ชนะในเกมได้เป็นอันว่าจบทุกสิ่ง


สถานการณ์ของเราขณะนี้คือต้องชนะ เอสโตเนีย เท่านั้น และผมรู้ว่า เดวิด เบ็คแฮม จะช่วยให้อังกฤษชนะเอสโตเนีย ได้แน่ และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงถูกเรียกกลับมาสู่ทีม มันไม่แตกต่างว่าผมจะคิดถูกหรือคิดผิด

หากสิ่งที่ผมคิดทำให้เราชนะ แม้ผมจะไม่เคยบินไปดูฝีเท้าเขาถึงสเปน แต่เท่าที่ดูในเทปบันทึกภาพ และการถ่ายทอดสด ผมมั่นใจว่าเขาจะนำประสบการณ์และสไตล์การเล่นของเขามาช่วยเราได้มาก โดยเฉพาะการเปิดบอล จ่ายบอล โยนยาว และฟรีคิก เครื่องหมายการค้าของเขา

อย่างไรก็ตามผมยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ในการปลดเขาออกจากทีมตั้งแต่ฤดูร้อนปีก่อน การตัดสินใจของคนเราขึ้นอยู่กับช่วงเวลานั้นๆ และ 9 เดือนก่อน เขาดูเหนื่อยและล้า กอปรกับเราต้องสร้างทีมใหม่ แต่วันนี้เราต้องการชัยชนะอย่างเร่งด่วน และทันที และเขาจะช่วยนำมันมาให้เรา


ก่อนหน้านี้แม็คคลาเรน ถูกกดดันอย่างหนักว่า


สาเหตุสำคัญที่นำลูกทีมทำผลงานไม่ดี มาจากความเชื่อมั่นในตัวเองเกินไป อาทิ การปลด หนุ่มเบ็คส์ ทันที หลังเข้ารับงานคุมทีมต่อจาก สเวน โกรัน อีริคส์สัน กุนซือสวีดิช เมื่อ 9 เดือนก่อน

โดยอ้างว่าวัย 32 ปี ของเขาเป็นอุปสรรค และในตำแหน่งปีกขวาก็มีผู้เล่นดาวรุ่งมากมาย อาทิ อารอน เลนนอน ของ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ทีมอันดับ 5 พรีเมียร์ชิพ

อย่างไรก็ตาม ก่อนเกมบุกถิ่นทัลลิน ของเอสโตเนีย ลูกทีมของแม็คคลาเรน จะได้อุ่นแข้งกับ บราซิล ที่สนามนิว เวมบลีย์ คืนวันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน และเป็นที่คาดว่า จะเป็นการลงสนามในนามทีมชาติอังกฤษนัดแรก ของ เบ็คแฮม ภายใต้การทำงานของ แม็คคลาเรน

เช่นเดียวกับ ไมเคิล โอเว่น หัวหอกนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 13 ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ที่ยังไม่เคยร่วมงานกับแม็คโดนัท แม้แต่เกมเดียว เพราะเอ็นหลังหัวเข่าฉีก ตั้งแต่ศึก เยอรมนี 2006


ขณะเดียวกัน เบ็คแฮม ก็ออกมากล่าวตอบโต้กระแสที่สนับสนุนแม็คคลาเรน


ที่ปลดเขาออกจากทีมชาติอังกฤษ ว่าเป็นการคิดผิด และเขาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาทำได้ ที่สำคัญเมื่อเขาตัดสินใจเซ็นสัญญาย้ายทีมล่วงหน้าจากมาดริด ไปอยู่แอลเอ แกแล็คซี ทีมในเมเจอร์ลีก สหรัฐอเมริกา เมื่อ 6 เดือนก่อน

ก็ยังมีกระแสทั้งจากสื่อเมืองผู้ดีว่า จุดจบของทีมชาติกับเบ็คแฮมมาถึงอย่างเป็นทางการแล้ว

6 เดือนก่อน ผมได้ยินบ่อยมากว่า อนาคตของผมกับทีมชาติอังกฤษมันสิ้นสุดแล้ว แล้วผมก็ทำให้ดูอีกครั้ง เหมือนหลายครั้งว่า พวกเขาชอบคิดไปเอง เอาความสะใจเป็นที่ตั้ง โดยไม่ได้ดูว่าความจริงเป็นอย่างไร ก็เหมือนที่ผมพูดไว้เสมอว่า อย่ากาชื่อผมทิ้งออกจากสิ่งหนึ่งสิ่งใด

หากผมยังคงอยู่ในเส้นทางการต่อสู้ และที่สำคัญการไปอยู่เมเจอร์ลีก ไม่ได้รบกวนการติดทีมชาติของผมแม้แต่น้อย เพราะฤดูกาลของพวกเขาสั้น แค่ 30 นัด แถมการที่ผมยังต้องเล่นลีก ขณะที่นักเตะยุโรปได้พักผ่อน มันทำให้ผมยังคงรักษาสภาพความฟิตของร่างกายไว้ได้ดีกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ


นอกจากนั้นการเรียกหนุ่มเบ็คส์คืนทีมของ สตีฟ แม็คคลาเรน


ยังนับเป็นการกระทำที่คล้ายคลึงกับ ฟาบิโอ คาเปลโล เทรนเนอร์รีล มาดริด ที่ตัดมิดฟิลด์วัย 32 ปีผู้นี้ออกจากทีมตัวจริง บางครั้งไม่มีชื่อแม้แต่ตัวสำรอง

เนื่องจากนโยบายโละ ซูเปอร์สตาร์ ทว่าสถานการณ์ของ ราชันชุดขาว ห่างไกลจากคำว่าลุ้นแย่งแชมป์ลาลีกา ไปเรื่อยๆ จนต้องเรียกเบ็คแฮม กลับมาใช้งาน และเขาก็มีส่วนช่วยให้มาดริด กลับมาเป็นจ่าฝูง

พร้อมทั้งแฟนบอลที่เคยบอกว่าไม่ต้องการเบ็คส์ กลับส่งเสียงเรียกชื่อเบ็คแฮม เกือบ 90 นาที ในเกมล่าสุด


ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ จาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์