ลัดเลาะเซาะแคมป์

ขณะที่ทีมชาติ "อิตาลี" อยู่ระหว่างการ เตรียมทีมเพื่อทำศึกฟุตบอลโลก 2010 แต่ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ของอิตาลี กลับหันไปให้ความสนใจข่าวความเคลื่อน ไหวของทีมชาติภายใต้การคุมทัพของ "เซซาเร่ ปรันเดลลี่" ว่าที่กุนซือคนใหม่ ที่จะได้รับการแต่งตั้งหลังจากจบศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้มากกว่า

ล่าสุดมีรายงานว่า "เปาโล มัลดินี่" อดีตกัปตันทีมชาติอิตาลี ได้รับการทาบทามให้มาช่วยงาน "ปรันเดลลี่" ในตำแหน่งโค้ช ซึ่งก็เป็นไปตามความคาดหมายของหลายคน เพราะ "มัลดินี่" มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ "ปรันเดลลี่" และสหพันธ์ฟุตบอลอิตาลีมาโดยตลอด

ถึงขั้นมีข่าวลือว่า "มัลดินี่" จะได้รับการแต่งตั้งให้ขึ้นคุมบังเหียนทีมชาติอิตาลีในอนาคตด้วย!!

อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวกลับไม่ได้ทำให้ "มาร์เซลโล่ ลิปปี้" ผู้จัดการทีมคนปัจจุบัน รู้สึก น้อยอกน้อยใจที่ไม่ได้รับความสนใจแต่อย่างใด

โดยแหล่งข่าวรายหนึ่งยืนยันว่า กุนซือวัย 62 ปี ออกจะมีความสุขด้วยซ้ำไป

เพราะอย่างน้อยไม่ต้องถูกสื่อบ้านตัวเองหาเรื่องด่าหลายวัน!! คิดได้ไงเนี่ย??

หลังจากที่แคมป์ของทีมชาติ "อิตาลี" มีเรื่องนักเตะไม่กินเส้นกันไปแล้ว ล่าสุดถึงคิวของทีมชาติ "บราซิล" ที่ตกเป็นข่าวว่านักเตะดัง 2 คนมองหน้ากันไม่ติด เพราะการปะทะกันในระหว่างการฝึกซ้อม ทั้งที่ความจริงแล้วเป็นเพียงแค่การเข้าใจผิด!!

ต้นเหตุเกิดจากการที่มีสื่อบราซิลรายหนึ่ง รายงานข่าวพร้อมภาพว่า "กาก้า" ไม่พอใจที่ถูก "เฟลิเป้ เมโล่" เข้าชาร์จอย่างหนักด้านหลังจนล้มลงไปกับพื้น จึงไม่ยอมให้ "เมโล่" ช่วยดึงตัวขึ้น ทั้งที่ความจริงแล้ว คนที่เข้าชาร์จ "กาก้า" คือ "โรบินโญ่" ดาวยิงอารมณ์ดีของทีม

อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวทำให้ "เมโล่" กลายเป็นจำเลยไปเป็นที่เรียบร้อย "ผมไม่ใช่คนเลวร้ายเสียหน่อย แต่ข่าวที่ออกไปมันเหมือนกับผมเลวมาก ถ้าหากมีจังหวะไหนที่ผมเข้าหนักเกินไป มันก็เป็นแค่สไตล์การเล่นของผม ไม่ได้ตั้งใจทำให้ใครเจ็บ"

ที่สำคัญคนในครอบครัวผมเห็นรูปพวกนั้น เขามาถามว่าผมไปทำ "กาก้า" ทำไม!!

โอ้...พระเจ้า!! ขนาดคนในบ้านยังไม่เข้าข้าง??

"ราชิดี้ เยกินี่" อดีตศูนย์หน้าทีมชาติไนจีเรีย เจ้าของตำแหน่งดาวยิงสูงสุดของประเทศ ออกมาจวกนักเตะทีม "อินทรีมรกต" ชุดปัจจุบันว่าเล่นฟุตบอลไปตามหน้าที่ ปราศจากความรัก..!! ในเกมลูกหนังอย่างแท้จริง

ซึ่งทำให้ไนจีเรียไม่สามารถสร้างเซอร์ไพรส์ได้เหมือนเมื่อครั้งตัวเองพาทีมเข้ารอบ 2 ฟุตบอลโลก 1998

"เยกินี่" ยังไม่ลืมที่หันไปจวกเหล่าบรรดากองหน้ารุ่นน้องด้วยว่า "ผมจะไม่เอ่ยชื่อใครเป็นพิเศษหรอกนะ และผมก็จะไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครด้วย แต่ทั้งคุณและก็ผมต่างก็เห็นผลงานของนักเตะคนอื่นในลีกใหญ่ๆ "เมสซี่" ยิงได้ 40 ประตู "ดร็อกบา" 36 ประตู แต่มีนักเตะไนจีเรียทำได้แบบนี้มั้งมั้ย แต่ที่แน่ๆ ผมจำได้ว่าสมัยได้เล่นในยุโรป ผมจะติดอยู่ในกลุ่มดาวซัลโวสูงสุด เกือบทุกปี"

ที่ว่าติดอันดับ...มันอันดับไหนพ่อคุณ

หลังจากปล่อยให้นักเตะดังออกมาวิพากษ์วิจารณ์ลูกบอล "จาบูลานี่" ซึ่งจะใช้ในศึกฟุตบอลโลก 2010 ล่าสุด "โทมัส ฟาน ชาอิก" โฆษกของบริษัทอาดิดาส ผู้ผลิตลูกบอล "จาบูลานี่" ได้ออกมาแถลงข่าวตอบโต้ในกรณีดังกล่าวว่า ทีมอาดิดาสได้ส่งลูกบอลรุ่นนี้ให้ทุกลีกทั่วโลกได้ทดลองใช้กันตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งก็ไม่มีเสียงวิจารณ์อะไรเล็ดลอดออกมาเลย แต่ถึงกระนั้นทางอาดิดาสก็ไม่ได้กังวลกับเรื่องเสียงวิจารณ์เลย

"มันเกิดขึ้นทุกครั้งที่มีลูกบอลใหม่ๆ ออกมานั่นแหละ ถ้าคุณลองกลับไปดูที่ฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านๆ มา ก็จะมีการวิจารณ์เรื่องลูกบอลก่อนจะเริ่มบอลโลกเสมอ แต่หลังจากนั้น คุณก็จะพบว่าในฟุตบอลโลกครั้งนั้น มีการทำประตูสุดสวยและการเซฟที่ยอดเยี่ยมเกิดขึ้นตามมา"

และรวมถึงยอดจำหน่ายสูงสุด...ด้วยหรือเปล่า!!

"แรนดี้ แอ๊บบี้" โฆษกของสมาคมฟุตบอล "กาน่า" ออกแถลงการณ์ยืนยันข่าว "ลาร์เย่ คิงสตั้น" มิดฟิลด์วัย 29 ปี ทำร้ายร่างกาย "มิโลวาน ราเยวัค" กุนซือของทีม เพราะไม่พอใจที่ถูกตัดชื่อออกไม่เป็นความจริง...!!

"มันไม่จริงเลย เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้น เราไม่ได้พูดเพื่อต้องการปกป้อง "ลาร์เย่" และที่สำคัญไม่รู้จะทำไปทำไม แน่นอนว่าในฐานะ มนุษย์คนหนึ่ง เขาต้องผิดหวังแน่ๆ ที่หลุดออกจากทีม แต่เขาก็ไม่ได้ทำร้ายผู้จัดการทีม ข่าวพวกนั้นไม่เป็นความจริง ไปถามนักเตะที่อยู่ในเหตุการณ์ เพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่มีใครโวยวายหรือระเบิดอารมณ์อะไรทั้งนั้น พวกเขามีความเป็นมืออาชีพพอ"

ก็เพราะความเป็นมืออาชีพ...เลยไประเบิดในห้องส่วนตัว...จะได้ไม่ตกเป็นข่าวใช่มั้ยจ๊ะ!!

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์