นาทีนี้คงไม่มีใครหยุดชลบุรีเอฟซีอยู่หมัดได้แล้ว เมื่อล่าสุด "ฉลามชล" เปิดบ้านเอาชนะบางกอกกล๊าส เอฟซี รองฝูงที่เหลือ 10 ตัวตั้งแต่ครึ่งแรกไปได้ 2-1 นำโด่ง 3 คะแนน ส่วน"กระต่ายแก้ว"ร่วงไปอยู่ที่สี่แล้ว
สปอนเซอร์ ไทย พรีเมียร์ลีก
วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม 2553
ชลบุรี เอฟซี 2-1 บางกอกกล๊าส เอฟซี
ประตู : 1-0 เอกพันธ์ อินทเสน น.12, 2-0 เทิดศักดิ์ ใจมั่น น.36 (จุดโทษ), 2-1 ชาตรี ฉิมทะเล น.43
ใบแดง : ภานุวัฒน์ ไฟใหล น.34
แฟนบอล : 11,040 คน
ศึกบิ๊กแมตช์ไทยพรีเมียร์ลีกสัปดาห์นี้ ชลบุรี เอฟซี จ่าฝูงลีกสูงสุดเมืองสยามเปิดบ้านวิทยาลัยพลศึกษา ชลบุรีรับการมาเยือนของรองจ่าฝูงอย่างบางกอกกล๊าส เอฟซี ที่ตามอยู่ 2 คะแนน แต่แข่งมากกว่าถึงสองนัด
ครึ่งแรก
เริ่มมาได้สองนาที กฤษณะ กลั่นกลิ่น นายทวาร"กระต่ายแก้ว"ก็ต้องออกแรงปัดลูกยิงเต็มข้อของอาทิตย์ สุนทรพิธข้ามคานออกไป แต่จากนั้น นาทีที่ 5 ชาตรี ฉิมทะเล ก็กึ่งยิงกึ่งผ่านมาที่หน้าประตูลอดขากองหลังชลบุรี แต่อจายี่คาดไม่ถึง เลยปล่อยบอลผ่านหน้าไปแบบน่าเสียดาย 
แต่ชลบุรีก็มาได้ประตูขึ้นนำเร็ว จากการเปลี่ยนแกนของ"น้าเทิด" เทิดศักดิ์ ใจมั่น มาให้กับเอกพันธ์ อินทเสน ที่หลุดจากการประกบของศุภชัย คมศิลป์ ที่มัวแต่ยืนเหม่อรอธงผู้ช่วยผู้ตัดสิน เมื่อธงไม่ยก เอกพันธ์จึงได้แตะบอลและดวลเดี่ยวกับกฤษณะ กลั่นกลิ่น และยิงด้วยซ้ายสวนตัวนายด่าน"บีจี"เข้าไปเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 12
ชลบุรีเริ่มมาโจมตีที่ฝั่งซ้ายของบางกอกกล๊าสเอฟซี ที่วันนี้เริ่มเห็นช่องโหว่ชัดเจน และเกือบจะมาได้จากลูกเตะมุมในนาทีที่ 20 ที่เอกพันธ์ อินทเสน ที่วันนี้เล่นได้โดดเด่นเกือบได้จากการซ้ำดาบสองระยะไม่ถึงสิบหลา ทว่าบอลแฉลบกองหลัง"บีจี"ข้ามคานไป
นาทีที่ 28 ชาตรี ฉิมทะเล หอกจอมโขกของ"กระต่ายแก้ว"ทิ้งตัวโหม่งเฉือนๆบอลเกือบเข้าสามเหลี่ยมไปเหมือนกัน
เข้าสู่นาทีที่ 34 สถานการณ์ของบางกอกกล๊าสยิ่งแย่ไปกว่าเดิม เมื่อชลบุรียกบอลขึ้นมาข้ามแนวกองหลังทีมเยือน ภานุวัฒน์ ไฟใหล เซนเตอร์"บีจี"ไปกระแทกพิภพ อ่อนโม้ ที่หลุดเข้าเขตโทษทางด้านหลังจนหอกมะขามข้อเดียวล้มลงไป และเทิดศักดิ์ ใจมั่น ก็สังหารจุดโทษเข้าไปไม่พลาด ให้"ฉลามชล"นำห่าง 2-0
แต่ในนาทีที่ 43 บางกอกกล๊าสก็มาได้ประตูตีตื้น 1-2 จากจังหวะสวนกลับที่ซามูเอล อจายี่ หอกจรวดของ"กระต่ายแก้ว"สปีดไปเอาบอล ก่อนจะใช้ความคล่องตัวล็อกกลับมาแล้วไหลให้ชาตรี ฉิมทะเล คู่กองหน้าได้เติมขึ้นมาแปนิ่มๆเป็นประตู และจบครึ่งแรก สกอร์อยู่ที่ 2-1
ครึ่งหลัง
"โค้ชง้วน"สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ ตัดสินใจแก้เกมโดยการส่งสุธี สุขสมกิจ ดาวเตะทีมชาติไทยลงมาแทนคูนิฮิโกะ ทากิซาว่า มิดฟิลด์แดนปลาดิบที่ทำผลงานในครึ่งแรกไม่ออก และพยายามขึ้นบอลให้ซามูเอล อจายี่ ใช้ความเร็วทลายแผงหลังชลบุรีบ้าง ซึ่งก็นับว่าได้ผลทีเดียวเพราะได้เสียวอยู่สองสามทีตั้งแต่ 5 นาทีแรก 
ชลบุรีพลาดประตูนำห่างในนาทีที่ 50 เมื่อจูเลส บาก้า โขกเช็ดมาให้ศุภเสกข์ ไก่แก้ว ใช้ความเร็ววิ่งแซงกองหลังบางกอกกล๊าส หลุดเข้าไปแปเล่นทางเน้นๆ แต่ดันหลุดเสาออกไปหน้าตาเฉย
กองหลังบางกอกกล๊าสเริ่มประกบหลวม ทำให้อาทิตย์ สุนทรพิธได้ซัดด้วยซ้ายเต็มข้อ ดีที่บอลไปตรงตัวกฤษณะ กลั่นกลิ่นในนาทีที่ 59
กองกลางชลบุรีเริ่มเก็บบอลได้ ทำให้มีโอกาสตั้งเกมบุกเข้าใส่บางกอกกล๊าสได้อย่างต่อเนื่อง และเกือบได้อีกลูกในจังหวะสวนกลับเมื่อเอกพันธ์ อินทะเสน ใช้ความเร็วและความคล่องตัวเลี้ยงบอลขึ้นมา ก่อนจะจ่ายให้เกรียงไกร พิมพ์รัตน์ แต่เกรียงไกร กลับยิงไม่ดีหลุดกรอบไปแบบเสียของในช่วง 5 นาทีก่อนทดเจ็บ
นาทีที่ 89 บางกอกกล๊าสเกือบได้ประตูตีเสมอสุดๆเมื่ออำนาจ แก้วเขียว โหม่งชงมาให้ฮิโรโนริ ซารูตะ และมิลฟิลด์ร่างเล็กพยายามกระดกบอลสวนตัวสินทวีชัย แต่โดนบล็อก บอลมาเข้าทางชาตรี ฉิมทะเล ก่อนที่หอกจอมโขกจะทิ้งตัวโหม่งดาบสอง ทว่าโดนชลทิตย์ จันทะคาม ปราการหลัง"ฉลามชล"เคลียร์ทิ้งไว้ได้จากเส้นหวุดหวิด
จบเกม ชลบุรี เอฟซี เฉือนเอาชนะบางกอกกล๊าส เอฟซีไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 เก็บสามแต้มสำคัญทะยานนำจ่าฝูงไทยพรีเมียร์ลีกสุดหรู มี 19 คะแนน จากการลงเล่น 7 นัด ขณะที่บางกอกกล๊าส เอฟซี แพ้ไปเป็นนัดที่ 3 ของฤดูกาลนี้เสียแล้ว
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ชลบุรี : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, สุรีย์ สุขะ, สุทธินันท์ พุกหอม, ชลทิตย์ จันทคาม (เจษฎากร เหมแดง น.90+3), ณัฐพงษ์ สมณะ, เอกพันธ์ อินทเสน, อาทิตย์ สุนทรพิธ, เทิดศักดิ์ ใจมั่น, ภูริทัต จาริกานนท์, พิภพ อ่อนโม้ (ศุภเสกข์ ไก่แก้ว น.39, เกรียงไกร พิมพ์รัตน์ น.70), จูเลส บาก้า
บางกอกกล๊าส : กฤษณะ กลั่นกลิ่น, ทนงศักดิ์ ประจักกะตา, ภานุวัฒน์ ไฟใหล, อำนาจ แก้วเขียว, ศุภชัย คมศิลป์, คูนิฮิโกะ ทากิซาว่า (สุธี สุขสมกิจ น.45), พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ (รุ่งโรจน์ สว่างศรี น.39), อนนท์ บุญสุโข, อนาวิน จูจีน (ฮิโรโนริ ซารูตะ น.78), ซามูเอล อจายี่, ชาตรี ฉิมทะเล
ผู้ตัดสิน: ปรเชษฐ์ วงศ์คำดี
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
