ไก่ลุย CL!เคราช์โขก น.82 บุกคว่ำเรือ 1-0

ไก่ลุย CL!เคราช์โขก น.82 บุกคว่ำเรือ 1-0

 

ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สสร้างประวัติศาสตร์ให้ตัวเองหลังบุกเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้จากประตูท้ายเกมของปีเตอร์ เคราช์ 1-0 คว้าสิทธิ์ไปลุยแชมเปี้ยนส์ลีกครั้งแรกลุ้นกวาดเงิน 20 ล้านปอนด์เหนาะๆ

พรีเมียร์ลีก

วันพุธที่ 5 พฤษภาคม 2553


แมนฯซิตี้ 0-1 สเปอร์ส

ประตู : 0-1 เคราช์ น.82


ครึ่งแรก

คู่นี้เป้าหมายในเกมนี้ต่างกันโดยที่เรือใบต้องการ 3 แต้มสถานเดียวส่วนสเปอร์สมาเยือนพร้อมขอแค่เสมอก่อนไปเช็กบิลนัดสุดท้ายเพื่อคว้าตั๋วไปแชมเปียนส์ลีกซีซั่นหน้า

ต้นเกมจึงกลายเป็นเจ้าถิ่นที่ทำเกมต่อบอลเข้าใส่แต่เจอลูกทีมแฮร์รี่ เร้ดแนปป์เข้าตัดเกมทำฟาว์ล 2-3 ครั้งกันเลยทีเดียว

เตเบซหลุดโซโล่ยิงติดบล็อก
แต่นาทีที่ 7 สเปอร์สพลาดครั้งเดียวเกือบเสียประตูจากจังหวะสวนกลับเป็นบายอร์ไขว้ดีดกลางอากาศตั้งแต่กลางสนามให้เตเบซกระชากหนีกาบูลที่ขาตายก่อนลากโซโล่เข้าเขตโทษแล้วยังดีได้เอก็อตโต้วิ่งมาชะลอแล้วบังแต่เสียเหลี่ยมเตเบซชิงจังหวะยิงแปแต่ติดบล็อกโกเมสที่ปรี่ออกมาปิดมุมรอดตายเหลือเชื่อ

ไก่รับลิ้นห้อยแต่หวิดนำก่อน
รูปเกมตอนนี้ไก่เดือยทองน่าเป็นห่วงเพราะถูกพับสนามเกือบๆจะข้างเดียวโดยที่เดโฟกับเคราช์สองหอกแทบไม่มีบทบาทกับเกมเลย

แต่นาที 18 สเปอร์สเกือบได้เฮก่อนจากจังหวะฟรีคิกเกือบมุมธงเป็นเบลปั่นไซด์โค้งมาเสาสองแล้วหอกเปรตเคราช์วิ่งมาขอส่วนบุญโขกเผาขน 3 หลาแต่มุมมันเหลือน้อยชนเสาดังแก๊ง!

AJ เกือบเป็นพระเอกตัวจริง
นาที 27 เรือใบที่ปล่อยให้สเปอร์สเหิมได้ใจอยู่หลายนาทีก็เกือบนำเช่นกันจากลูกเตะมุมที่ถูกเคลียร์ทิ้งออกมาแล้วอดัม จอห์นสันเก็บตกก่อนตะบันไกล 25 หลาทะลุตัวบายอร์ที่เอี้ยวให้แต่ชั่วโมงนี้โกเมสถ้าลูกไม่ลุกเป็นไฟยิงยากพุ่งปัดทิ้งออกไปสุดงาม

โกเมสควักกระปิเซฟบนเส้น
อีก 7 นาทีต่อมาวานรลพบุรีแกเรธ เบลเกือบทำเข้าประตูตัวเองหลังลูกเปิดของเบลลามี่พุ่งเข้าในกรอบแล้วลอลหล่นมาชนตัวดาวเตะเลือดเวลส์บอลกระเด้งเข้ามุมกำลังจะเบียดเสาข้ามเส้นแต่โกเมสล้มตัวปัดควักออกมาเหลือเชื่ออีกแล้ว

เบลยิงเกือบหาย
สเปอร์สหลังตั้งรับอยู่นานนาที 39 ก็ควรจะขึ้นนำอย่างที่สุดหลังอารอน เลนนอนกระชากหนีบริดจ์หลุดถึงเส้นหลังแล้วเปิดย้อยให้เคราช์กระโดดโขกชงให้เบลวอลเลย์ตะบันด้วยอีซ้ายในกรอบระยะ 12 หลาบอลถากเสาแฟนเจ้าถิ่นนั่งขมิบกันแทบไม่ทัน

หมดครึ่งแรกเป็นเกมที่ซิตี้ครองบอลและบุกเป็นน้ำเป็นเนื้อมากกว่าแต่สเปอร์สแม้มีไม่มากแต่ละดอกก็ทำเอาเจ้าถิ่นเกือบตายไปหลายหนเช่นกัน

ครึ่งหลัง

เรือประเดิมเกือบนำอีก
เล่นมา 5 นาทีเรือใบเกือบลุ้นนำเร็วจากจังหวะที่เตเบซพาบอลขึ้นมาตรงหน้ากรอบเขตโทษแล้วแปออกริมเขตโทษด้านขวาให้ AJ เปิดย้อยมาเสาสองเป็นแบร์รี่ตวัดแปยัดมาที่จุดนัดพบ 5 หลาแต่ไม่มีใครก่อนที่ดอว์สันจะรีบเคลียร์ทิ้งเพราะโกเมสหลุดตำแหน่งปรี่ไปจะเล่นที่เสาแรกแล้ว

เดโฟหลุดยิงล่อเป้าติดเซฟ
แต่นาที 56 สเปอร์สเกือบนำอีกหลังเบลหลุดมาทางปีกซ้ายแล้วกระดกข้ามกองหลังให้เดโฟดูดบอลลงในเขตโทษก่อนซัดแบบดีดๆติดไซด์ก้อยกะให้เสียบหน้าต่างด้านไกลแต่ฟูล็อปล้มตัวปัดปลายมือบอลผ่านเสาออกหลังเสียวซาบซ่าน

ไก่ชาร์ตเผาขน 2 คนวืดหมด
เลยหนึ่งชั่วโมงมาตอนนี้เกมออกแนวแลกกันสนุกแล้วโดยสเปอร์สก็ดันลุยมากขึ้นจนได้ลุ้นหลายหนพอสมควรส่วนเรือใบได้แค่ต่อบอลมาถึงระยะอันตรายก็ตายตลอด

นาที 71 เอก็อตโต้หลุดมาทางซ้ายแล้วเปิดบอลเลียดให้เดโฟวิ่งมาจะเข้าฮอร์ตแต่ไม่ถึงบอลล้นเลยมาถึงเคราช์ก็แหย่โล่งๆไม่ถึงอีกคน

ฟูล็อปเซฟเทพ เรือรอดตาย!!
เกมบีบหัวใจสุดๆเพราะตอนนี้แนวรับซิตี้เริ่มมีพื้นที่ว่างมากขึ้นเนื่องจากดันกันสูงจะเอาประตูชัยและนาที 77 สเปอร์สพลาดโอกาสทองที่สุดของเกมหลังเบลเปิดบอลจากปีกซ้ายย้อยมาเข้ากบาลปีเตอร์ เคราช์ตรงยะยะแค่ 6 หลาแต่ฟูล็อปล้มตัวเซฟด้วยขาสุดช็อก

เคราช์โขกนำท้ายเกม 1-0
แต่แล้วก่อนหมดเวลา 8 นาทีสเปอร์สมาได้ประตูขึ้นนำสมใจอยากโดยเป็นการเปิดบอลจากซ้ายของเบลบอลเลยล้นจะออกข้างอีรกฝั่งแต่กาบูลมาเก็บตกแล้วกระชากหนีตัวประกบกึ่งยิงกึ่งผ่านยัดใส่ฟูล็อปที่ล้มตัวปัดตรงเสาแรกแต่โชคร้ายเป็นปีเตอร์ เคราช์โขกซ้ำเข้าไป 1-0

พาฟลูเกือบเช็กบิล
ทดเจ็บนาทีที่ 3 พาฟลูเชนโก้วิ่งควบเอาบอลในเขตโทษด้านข้างก่อนยิงตามน้ำหักข้อร้อนถึงฟูล็อปต้องบินปัดปลายมือออกหลังได้เตะมุมเผาเวลาอีก

หมดเวลาสเปอร์สบุกเอาชนะเรือใบ 1-0 ได้สิทธิ์ไปคัดเลือกแชมเปี้ยนส์ลีกในฐานะอันดับ 4 เป็นอย่างน้อยแถมลุ้นอันสามเล็กๆกับอาร์เซนอลในวันสุดท้ายอีกด้วยและแฮร์รี่ เร้ดแนปป์สุดยอดอย่างแท้จริงเพราะมาคุมสเปอร์สแค่ 18 เดือนแต่กลับสร้างทีมให้ลงตัวและหนีจากท้ายตารางซีซั่นก่อนไปลุยฟุตบอลยุโรปเหลือเชื่อจริงๆ

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

แมนฯซิตี้ :
มาร์ตอน ฟูล็อป,พาโบล ซาบาเลต้า,โคโล่ ตูเร่,แวงซ็องต์ กอมปานี,เวย์น บริดจ์,อดัม จอห์นสัน(ไรท์ ฟิลลิปส์ น.71),ไนเจล เดยอง,แกเรธ แบร์รี่(วิเอร่า น.57),เคร็ก เบลลามี่(ซานตา ครูซ น.84),คาร์ลอส เตเบซ,เอ็มมานูเอล อเดบายอร์

สเปอร์ส : เฮลเรลโญ่ โกเมส,ยูเนส คาบูล,เลดลีย์ คิง,เบน็อต อัสซู เอก็อตโต้,อารอน เลนนอน(เบนท์ลีย์ น.71),ลูก้า โมดริช(ปาลาซิออส น.89),แกเรธ เบล,ปีเตอร์ เคราช์,เจอร์เมน เดโฟ(พาฟลูเชนโก้ น.81)







 ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์