ผีจ่าฝูง!หมามุ่ยยิงโทนกินหมาเลือดซิบ

ผีจ่าฝูง!หมามุ่ยยิงโทนกินหมาเลือดซิบ



ขาดเวย์น รูนีย์คนเดียวเล่นเอาป่วนกันทั้งทีมเมื่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบุกเบียดเอาชนะวูลแฮมป์ตันทีมท้ายตารางหืด 1-0 จับจากประตูชัยของพอล สโคลส์แต่ก็เพียงพอสำหรับตำแหน่งจ่าฝูงหนีเชลซี 2 แต้มแต่เตะมากกว่าหนึ่งนัด

พรีเมียร์ ลีก

วันเสาร์ที่ 7 มีนาคม 2553


วูล์ฟแฮมป์ตัน 0 – 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ประตู : 0-1 พอล สโคลส์ น.73

ผีหลังแชมป์ยุโรป – ไร้เงาหมู
นานแล้วที่ไม่ได้เห็นแผงเกมส์หลังแบบฟูลทีมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดโดยริโอ เฟอร์ดินานด์ที่หายจากอาการบาดเจ็บกลับมาฟิตลงสนามประสานงานกับเนมันย่า วิดิชส่วนเวส บราวน์รับหน้าที่ดูแลเกมส์รับฝั่งขวา และฝั่งซ้ายเป็นพี่ติ๊กเจ้าเก่า แต่ในเกมส์รุกดูน่าเป็นห่วง เพราะเวย์น รูนี่ย์กองหน้าฟอร์มร้อนแรงไม่มีชื่อแม้กระทั่งตัวสำรอง เฟอร์กี้จัดระบบ 4-5-1 ส่งเบอร์บาตอฟเป็นกองหน้าตัวเป้า และมีมาเม่ บิรัม ดิยุฟกองหน้าดาวรุ่งเป็นตัวแสตนด์บายเพียงคนเดียว

ครึ่งแรก
หมาป่าทักทายก่อน – รถด่วนเอาบ้าง
เกมส์ผ่านมา 5 นาทีเป็นวูล์ฟแฮมป์ตันที่ได้โอกาสทำประตูก่อน จากจังหวะสวนกลับโดยเป็นจาร์วิสไหลบอลจากทางซ้ายเข้ามาในเขตโทษให้กับเควิน ดอยล์ที่ไม่มีตัวประกบยิงด้วยเท้าซ้ายบริเวณ 12 หลาแต่ออกทางด้านขวาของประตูไป
นาทีที่ 7 ทีมเยือนโต้ตอบกลับเป็นวาเลนเซียที่ลากบอลอยู่ทางฝั่งขวา ก่อนจะสับไกลระยะ 20 หลาบอลพุ่งแรงและเร็วแต่ไม่ตรงกรอบ ออกข้างแบบได้ลุ้น

บังอัดฟรีคิก – กิ๊บสันชาร์จเกือบเข้า
นาทีที่ 14 แมนฯ ยูไนเต็ดได้ฟรีคิกบริเวณ 30 หลาและเป็นนานี่ที่รับอาสายิง ซึ่งปีกทีมชาติโปรตุเกสยิงยัดเข้าไปในกรอบเชตโทษ และเป็นดาร์รอน กิ๊บสันที่ได้ชาร์จบอลแต่ยิงออกนอกกรอบไป

กิ๊บสันวอลเล่ย์แต่บอลเบา
นาทีที่ 19 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ลุ้นประตูขึ้นนำอีกครั้ง เริ่มจากเกมส์สวนกลับโดยวาเลนเซียจ่ายบอลให้กับเบอร์บาตอฟวิ่งทะลุกับดักล้ำหน้า ก่อนหัวหอกทีมชาติบัลแกเรียจะจี้เข้าเขตโทษและครอสบอลมาทางด้านซ้ายให้กับกิ๊บสันที่ยืนรออยู่ เอี้ยวตัววอลเล่ย์บอลด้วยขวาบอลตกถึงพื้นแต่ไม่มีแรงฮาเนมันน์จึงปัดในจังหวะแรกก่อนจะรับไว้ได้
ผ่านมาอีก 6 นาทีกิ๊บสันได้โอกาสอีก โดยบอลเริ่มจากวาเลนเซียที่แทงบอลทะลุแผงมิดฟิลด์เจ้าบ้าน ให้กิ๊บสันก่อนวิ่งเติมไปทางขวา แต่มิดฟิลด์ดาวรุ่งหวงบอลก่อนจะสับไกลไม่เข้ากรอบ บอลออกข้างไปอีกครั้ง

คาร์ริคพลาดเกือบพัง – วอร์ดโขกพลาดช็อค
นาทีที่ 32 แมนฯ ยูไนเต็ดเกือบต้องมาเสียประตูเพราะความผิดพลาดของไมเคิ่ล คาร์ริคที่จ่ายบอลเสีย และนักเตะเจ้าบ้านฉกฉวยความได้เปรียบเป็นเควิน ดอยล์ที่ควบหนีกองกลางก่อนวิ่งมาเผชิญหน้ากับวิดิช และได้แตะบอลไปทางซ้ายให้กับจาร์วิส ก่อนที่จาร์วิสจะจี้เข้าหาเฟอร์ดินานด์ และตบเข้าในมาให้เดวิด โจนส์ได้ซัดบอลแฉลบ แต่ยังดีที่ไม่เปลี่ยนทาเข้ามือของฟาน เดอ ซาร์พอดี
ผ่านมาอีก 3 นาทีวูล์ฟพลาดโอกาสขึ้นนำแบบน่าเสียดายสุดๆ โดยครั้งนี้เป็นจาร์วิสที่ครอสบอลจากทางฝั่งซ้ายเข้ามาในกรอบเขตโทษ และเป็นสตีเฟ่น วอร์ดที่ได้เทคตัวขึ้นโหม่งคนเดียวโล่งๆ บริเวณระยะแค่ 6 หลาแต่ดันโหม่งไม่ดีไปตรงตัวของฟาน เดอ ซาร์รับไว้ได้สบายๆ
ช่วงเวลาที่เหลือในครึ่งแรกเกมส์ค่อนข้างน่าเบื่อ โดยโอกาสทำประตูของทั้งสองทีมน้อยเหลือเกิน ยังเสมอกันอยู่ 0-0



ครึ่งหลัง
เบิร์บได้ยิงติดบล็อค
เริ่มครึ่งหลังมา 2 นาทีทีมเยือนได้โอกาสทำประตูจากจังหวะที่วาเลนเซีย ลากไปทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนหักกลับเข้าในให้เบอร์บาตอฟวิ่งมาอัดเต็มข้อแต่บอลติดบล็อคกองหลังกระเด็นออกไป

พี่ติ๊กได้ยิงฮันเนมานน์ยังเหนียว
นาทีที่ 52 แมนฯ ยูไนเต็ดน่าได้ประตูขึ้นนำสุดๆ โดยเป็นดาร์รอน กิ๊บสันที่ครองบอลอยู่บริเวณนอกกรอบเขตโทษ ก่อนเหลือบไปเห็นเอฟร่าที่วิ่งหน้าตั้งมาแต่ไกล มิดฟิลด์ตีนหนักจึงจ่ายบอลทะลุช่องแบบได้เสียให้กับเอฟร่า วิ่งไปรับบอลก่อนยิงด้วยซ้าย แต่บอลไม่ค่อยมีน้ำหนักฮันเนมานน์ปัดจังหวะแรกไว้ได้ ก่อนที่เอฟร่าจะตามมาซ้ำอีกทีแต่คราวนี้ทั้งโดนเหนี่ยวทั้งโดนเบียดยิงออกข้างไป

ป๋าแก้เกมส์ส่งดิยุฟลงสนาม
เกมส์ผ่านมาหนึ่งชั่วโมง เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันคงมองเห็นปัญหาการไร้คู่ขาของเบอร์บาตอฟ จึงได้ตัดสินใจส่งมาเม่ บิรัม ดิยุฟกองหน้าดาวรุ่งมาแทนดาร์รอน กิ๊บสัน

เกมส์เฉื่อยไม่มีโอกาสทั้งคู่
ถึงนาทีที่ 70 ต้องบอกว่าเกมส์รุกของทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรเกมส์รับของอีกฝ่ายหนึ่งได้เลย ซึ่งหากทีมไหนทำประตูได้ก่อนในเกมส์นี้มีโอกาสคว้าชัยชนะสูงมาก

มีประตู!หมามุ่ยซัดพาผีขึ้นนำ
นาทีที่ 72 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาได้ประตูสำคัญจากจังหวะที่วาเลนเซีย ผ่านบอลให้กับนานี่ในกรอบเขตโทษ จากนั้นนานี่ผ่านบอลยัดเข้าในหวังจะให้ดิยุฟเข้าชาร์จแต่โดนกองหลังเจ้าบ้านสกัดมาเข้าทางสโคลส์ก่อนที่มิดฟิลด์วัยดึกจะล็อคหลอกกองหลังหนึ่งจังหวะและอัดด้วยขวาเต็มข้อเข้าประตูไปอย่างเด็ดขาด

ดิยุฟพลาดช็อคผีอดทิ้งห่าง
นาทีที่ 77 แมนฯ ยูไนเต็ดพลาดโอกาสทิ้งหนีเจ้าบ้านอย่างไม่น่าเชื่อ โดยบอลเริ่มจากวาเลนเซียเล่นลูกเตะมุมสั้นให้กับแกรี่ เนวิลล์ที่แต่งบอลหนึ่งจังหวะก่อนครอสบอลสุดสวยมาเข้าหัวของดิยุฟ แต่ดาวรุ่งผิวสีโหม่งไม่ดีบอลออกไปแบบไม่ได้ลุ้น

วาเลนเซียมาสวยดิยุฟไม่ได้จบ
นาทีที่ 82 ทีมเยือนน่าจะได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่เบอร์บาตอฟโชว์เทคนิคบังบอลจากผู้เล่นวูล์ฟก่อนจะไขว้ส่งต่อให้วาเลนเซียหลุดไปทางขวา ก่อนตบบอลเข้าในกระเด็นไปโดนขาดิยุฟออกหลังไป

โยนตัวเองทิ้ง!โว้คส์ซัดจ่อๆไม่เข้า
นาทีที่ 91 พลาดโอกาสทองได้ประตูตีเสมอแบบไม่น่าเชื่อ หลังลูกบอลขลุกขลิกบริเวณกรอบเขตโทษของแมนฯ ยูไนเต็ดจนบอลกระเด็นมาถึงแซม โว้คส์ที่ยืนโล่งอยู่คนเดียวยิงด้วยขวาบริเวณ 6 หลาข้ามคานออกไป

ช่วงเวลาที่เหลือวูล์ฟ โหมเกมส์รุกใส่พยายามทวงประตูตีเสมอแต่กองหลังแมนฯ ยูไนเต็ดยังนิ่งช่วยกันเคลียร์ทิ้งไว้ได้ บุกมาเอาชนะ 1-0 ขึ้นนำจ่าฝูงเดี่ยวแล้ว

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
วูล์ฟแฮมป์ตัน : มาร์คุส ฮันเนมานน์, โรนัลด์ ซูบาร์, โจดี้ แคร็ดด็อก, คริสตอฟ เบอร์ร่า, สตีเฟ่น วอร์ด(แอนดรูว์ คีออช์ น.84), คาร์ล เฮนรี่, เควิน โฟลี่ย์, อดรีน กีดิออร่า(ซิลแวง อีแบ็ง-เบล็ค น.84), เดวิด โจนส์, แม็ทธิว จาร์วิส(แซม โว้คส์ น.89), เควิน ดอยล์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์, เวส บราวน์(แกรี่ เนวิลล์ น.46), เนมันย่า วิดิช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอฟร่า, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ดาร์รอน กิ๊บสัน(มาเม่ บิรัม ดิยุฟ น.62), พอล สโคลส์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, หลุยส์ นานี่(ปาร์ค จี-ซอง น.73), ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ





















ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย  lentee

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์