อาจารย์กู้!เปรตเบิ้ลสิงโตแซงเฮ3-1

อาจารย์กู้!เปรตเบิ้ลสิงโตแซงเฮ3-1



คู่กองหน้าของเวย์น รูนี่ย์ไม่น่าจะหนีพ้น ปีเต้อร์ เคร้าช์หลังลงมาเป็นซูเปอร์ซับเหมาคนเดียวสองประตูช่วยให้อังกฤษที่ตามหลังอียิปต์ในครึ่งแรก พลิกกลับมาชนะ 3-1

อุ่นเครื่อง

วันพุธที่ 3 มีนาคม 2553


อังกฤษ 3 – 1 อียิปต์

ประตู : 0-1 โมฮัมเหม็ด ซีดาน น.23 , 1-1 ปีเต้อร์ เคร้าช์ น.56 , 2-1 ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ น.75 , 3-1 ปีเต้อร์ เคร้าช์ น.80

ขิงกัปตัน เบนส์แบ็คซ้าย – หมูคู่เดโฟ
วันนี้ทีมชาติอังกฤษมีไฮท์ไลท์หลายอย่างโดยสตีเฟ่น เจอร์ราดสวมปลอกแขนกัปตันทีม ส่วนเลห์ตั้น เบนส์ได้โอกาสลงเล่นแบ็คซ้าย นอกจากนี้ธีโอ วัลค็อตต์ซึ่งฟอร์มกับอาร์เซนอลไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าใดนักกลับออกสตาร์ทตัวจริง ส่วนในแนหน้าเป็นเจอร์มาน เดโฟและเวย์น รูนี่ย์ลงล่าตาข่ายร่วมกัน

ครึ่งแรก
เจทีโดนโห่
สัมผัสบอลแรกของจอห์น เทอร์รี่ก็รับรู้ถึงความโกรธแค้นของแฟนบอลอังกฤษเป็นอย่างดี โดยเขาโดนโห่ใส่อย่างหนัก

แลมพ์ซัดจ่อๆไม่เข้า
นาทีที่ 5 ทีมชาติอังกฤษพลาดโอกาสขึ้นนำอย่างไม่น่าเชื่อโดยเป็นเวย์น รูนี่ย์ที่แทงบอลทะลุช่องให้กับ วัลค็อตต์ใช้ความเร็วฉีกหนีแนวรับอียิปต์ไปถึงเกือบสุดเส้นหลัง และตบด้วยขวากลับเข้าในเขตโทษทันที บอลมาถึงแฟรงค์ แลมพาร์ดที่วิ่งเติมขึ้นมาไม่มีคนประกบ ได้ยิงด้วยซ้ายแต่บอลถูกผู้รักษาประตูเซฟออกไปได้
อีก 2 นาทีถัดมาเวย์น รูนี่ย์รับบอลจากเพื่อนร่วมทีมบริเวณเลยครึ่งสนามมาก่อนกดด้วยเท้าขวาบอลพุ่งต่ำและแรง แต่นายทวารอียิปต์ยังยืนตำแหน่งดีรับไว้ได้

ซีดานซัดเกือบหาย
นาทีที่ 16 โมฮัมเหม็ด ซิดานกองหน้าเนื้อหอมของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์วิ่งฉีกหนีแนวรับอังกฤษ และอัดเต็มๆด้วยเท้าขวา บอลพุ่งแรงน่ากลัวแต่เหินข้ามคานออกไป – บาร์เซโลน่า, อาร์เซนอล และแมนฯ ยูไนเต็ดกำลังจับตาดูสถานการณ์ของกองหน้ารายนี้อย่างใกล้ชิด

สมชื่อซีดาน!ซัดพามัมมี่ขึ้นนำ
นาทีที่ 23 โมฮัมเหม็ด ซีดานทำเอาแฟนบอลอังกฤษเงียบกันทั้งสนาม โดยเป็นจังหวะที่วิ่งหลุดกับดักล้ำหน้ารับบอลยาวจากเพื่อนร่วมทีม เอาชนะแม็ทธิว อัพสันตัวประกบที่ล้มหัวคะมำก่อนจะแปรบอลด้วยเท้าขวาส่งลูกบอลเข้าเสาแรกไปอย่างสวยงาม ฟอร์มแบบนี้ไม่ช้าโดนทีมยักษ์ใหญ่คว้าไปร่วมทีมแน่นอน

หมูโขกหลุดเสา – โวยเพื่อนร่วมทีม
เกมส์ผ่านมาครึ่งชั่วโมงอังกฤษเจ้าบ้าน มีลุ้นประตูตีเสมอจากจังหวะที่รูนี่ย์เล่นกันสองคนกับเจอร์ราด ก่อนที่กัปตันทีมลิเวอร์พูลจะบรรจงปั่นบอลด้วยเท้าขวาเข้ากรอบเขตโทษให้รูนี่ย์ได้โหม่ง แต่หมูพลิ้วโขกโดนไม่ดีบอลหลุดเสาออกไป
ถัดมาอีก 2 นาทีเวย์น รูนี่ย์ไม่รู้ไปกินรังแตนที่ไหนมา โดยเป็นจังหวะที่เขาแย่งบอลกับผู้เล่นอียิปต์และทำฟาล์ว หลังจากนั้นจึงหันไปโวยเพื่อนร่วมทีมบอกให้เข้ามาช่วยกันหน่อย

แลมพ์ได้ยิงอีกข้ามคาน
นาทีที่ 34 แฟรงค์ แลมพาร์ดพลาดโอกาสทองครั้งที่ 2 ของตัวเองจากจังหวะเปิดลูกเตะมุมเข้ามาของสตีเฟ่น เจอร์ราดเป็นแบร์รี่ที่สอดหัวโหม่งชงให้กับแลมพาร์ด ที่เอี้ยวตัววอลเล่ย์ด้วยซ้ายแต่โดนบอลไม่เต็มใบเด้งกระทบพื้นก่อนจะลอยข้ามคานออกไปแบบน่าผิดหวัง

เดโฟโหม่งเกือบเข้า – อัดด้วยซ้ายโกล์ยังเหนียว
นาทีที่ 38 เจอร์มาน เดโฟได้โอกาสทำประตูเป็นครั้งแรกของเกมส์ จากจังหวะที่เวส บราวน์ครอสบอลเข้ามาในเขตโทษ หอกร่างเล็กสอดตัวขึ้นมาโหม่งแต่บอลหลุดออกข้างไป
ถัดมาอีกหนึ่งนาทีเดโฟรับบอลจากเพื่อนร่วมทีมก่อนควบหนีกองหลังอียิปต์และตะบันด้วยซ้าย แต่เอล ฮาดาริผู้รักษาประตูอียิปต์ยังหนึบปัดบอลออกไปได้
ช่วงเวลาที่เหลือในครึ่งแรก อังกฤษเจ้าบ้านพยายามบุกอย่างหนักเพื่อทวงประตูตีเสมอแต่ยังไม่เป็นผล ตามหลังอยู่ 0-1



ครึ่งหลัง
เคร้าช์แทนเดโฟ – คาร์ริคแทนแลมพ์
คาเปลโล่เปลี่ยนผู้เล่นสองคนตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง โดยถอดเจอร์มาน เดโฟที่ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกมส์ออกและส่งปีเต้อร์ เคร้าช์เข้ามาแทน ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นแฟรงค์ แลมพาร์ดที่พลาดโอกาสทองสองครั้งในครึ่งแรก โดยเป็นไมเคิ่ล คาร์ริคลงมาทำหน้าที่แทน

เปรตฮีโร่ซัดพาสิงโตเจ๊า
นาทีที่ 56 ทีมชาติอังกฤษมาได้ประตูตีเสมอในแบบฉบับที่ไม่มีทางได้เห็นหากเป็นยุคของสตีฟ แม็คคลาเรน โดยบอลเริ่มมาจากจอห์น เทอร์รี่ส่งต่อให้กับเจอร์ราด ก่อนกัปตันทีมลิเวอร์พูลจะแทงทะลุช่องให้กับแกเร็ธ แบร์รี่ที่ตบกลับเข้าในมาให้ปีเต้อร์ เคร้าช์เข้าชาร์จด้วยเท้าขวาบอลมุดก้นตาข่ายอย่างสวยงาม

หัวขิงได้ยิงบอลออกข้าง
นาทีที่ 61 ทีมชาติอังกฤษต่อบอลสวยๆกันอีกแล้ว โดยคาร์ริคจ่ายบอลให้กับปีเต้อร์ เคร้าช์ที่ไขว้บอลต่อทันทีให้กับเจอร์ราด แต่จังหวะยิงของเจอร์ราดนั้นบอลบดไปหน่อยเลยออกข้างไปแบบน่าเสียดาย

รูนี่ย์หลุดยิงไม่ดี
นาทีที่ 65 เวย์น รูนี่ย์วิ่งหน้าตั้งรับบอลยาวจากแกเร็ธ แบร์รี่แต่จังหวะจับบอลทำได้ไม่ดี และฝืนลากต่อไปก่อนยิงด้วยเท้าซ้ายกะให้หนีมือโกล์เข้ากรอบ แต่โดนบอลไม่ดีออกหลังไป

ขิงออก – หมูกัปตัน
นาทีที่ 72 ไฮไลท์เล็กๆของเกมส์เกิดขึ้นเมื่อฟาบิโอ คาเปลโล่ตัดสินใจเปลี่ยนตัวสตีเฟ่น เจอร์ราดออกและส่งเจมส์ มิลเนอร์ลงไปทำหน้าที่แทน โดยก่อนเดินออกจากสนามเจอร์ราดเดินไปสวมปลอกแขนของเขาให้กับเวย์น รูนี่ย์ด้วย

ผู้ดีนำแล้ว!ไรท์ฟิลลิปส์ซัดหาย
นาทีที่ 74 ทีมชาติอังกฤษขึ้นนำจนได้ จากจังหวะที่เลห์ตั้น เบนส์ครอสบอลจากด้านซ้ายเข้ามาในกรอบเขตโทษ และเป็นเจมส์ มิลเนอร์ตัวสำรองที่ลงมาแทนเจอร์ราดเอี้ยวตัววอลเล่ย์ด้วยซ้าย แต่ผู้รักษาประตูของอียิปต์ยังเหนียวปัดบอลออกมาได้ บอลลอยไปเข้าทางของไรท์-ฟิลลิปส์ที่ยิงด้วยขวาสวนกลับเข้าประตูไปอย่างสวยงาม

เปรตเบิ้ล!สิงโตทิ้งห่าง3-1
การเปลี่ยนตัวของคาเปลโล่ได้ผลดีจริงๆ ในนาทีที่ 79 อังกฤษได้ประตูนำห่าง 3-1 จากจังหวะที่ไรท์-ฟิลลิปส์ทำชิ่ง 1-2 กับบราวน์ก่อนควบไปถึงเกือบสุดเส้นหลัง และเปิดบอลเข้ามาด้านในให้กับปีเต้อร์ เคร้าช์ยิงด้วยเท้าขวา ทีมเวิร์คยอดเยี่ยมจริงๆ
ช่วงเวลาที่เหลืออังกฤษครองเกมส์เหนือกว่าอียิปต์ที่เล่นได้ดีแค่ในครึ่งแรกอย่างชัดเจน รักษาสกอร์ไว้ได้ ชนะไป 3-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อังกฤษ : โรเบิร์ต กรีน, เวสน์ บราวน์, เลห์ตั้น เบนส์, แม็ทธิว อัพสัน, จอห์น เทอร์รี่, ธีโอ วัลค็อตต์(ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ น.56), แกเร็ธ แบร์รี่, สตีเฟ่น เจอร์ราด(เจมส์ มิลเนอร์ น.72), แฟรงค์ แลมพาร์ด(ไมเคิ่ล คาร์ริค น.46), เจอร์มาน เดโฟ(ปีเต้อร์ เคร้าช์ น.46 ), เวย์น รูนี่ย์(คาร์ลตัน โคล น.85)
อียิปต์ : เอ็สซัม เอล ฮาดาริ, ฮานี่ เซดย์, วาเอล โกม่า, ซาเยด โมอาวาด, อาห์เมด อัล-มูฮัมมาดี้, ฮอสซัม กาลี, อาห์เมด ฟาห์ธิ, อาห์เมด ฮัสซัน(โมฮัมเหม็ด นากี้ น.64), ฮอสนี่ อาบัด ราบู, โมฮัมเหม็ด ซีดาน, เอมาด เอ็บเดลมาบี้(เอเมอร์ ซากี้ น.64)


























 

ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย lentee

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์