กูละหน่าย!เรือไล่เจ๊าหม้อ 10 ตัวขึ้นที่ 4

โรแบร์โต้ มันชินี่กุนซืออิตาเลียนเซ็งเป็ดหลังยิงเคี้ยวสโต๊ค ซิตี้ที่เหลือ 10 ตัวไม่ลงแถมยังต้องเป็นฝ่ายไล่ตามตีเสมอก่อนหมดเวลา 5 นาทีแต่ก็เพียงพอที่จะแซงลิเวอร์พูลขึ้นมาอยู่อันดับ 4 แล้ว

พรีเมียร์ลีก

วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ 2553


สโต๊ค 1-1 แมนฯซิตี้

ประตู : 1-0 วีแลน น.72,1-1 แบร์รี่ น.85


ครึ่งแรก

ปั๊ตนอกเกมดีไม่โดนแดง
แค่นาทีที่ 6 วิเอร่าก็เกือบคุมอารมณ์ไม่อยู่หลังเจอวีแลนตามตอดตรงกลางสนามทั้งๆที่เอาตัวบังแล้วมาจังหวะสองยังเจอหวดล้มลงเลยพลิกตัวกลับมาเอาเท้ายันใส่ท้องจนอลัน ไวลีย์ต้องเรียกมาเตือนแต่แข้งฝรั่งเศสยันค่อนข้างน่าเกลียด

หม้อเล่นงานหนัก
เกมเหมือนในเอฟเอ คัพเป๊ะเพราะถ้าสู้กันตามตำรา"ช่างปั้นหม้อ"เอาไม่อยู่แน่แต่ถ้ามาแบบกองโจรเวียดกงใช้ลูกบอมบ์และสารพัดลูกนิ่งทั้งฟรีคิก,ทุ่มและตั้งเตะต้องบอกว่า"เรือใบ"สู้ไม่ได้เลย

แบร์รี่ซัดเหน่งๆไม่ตรงกรอบ
นาที 26 เจ้าถิ่นเกือบพังง่ายๆเมื่อริชาร์ดเลี้ยงขึ้นมาทางปีกขวาก่อนล็อกแล้วเปิดด้วยอีซ้ายเป็นซานตา ครูซโหม่งบอลแฉลบมาเข้าทางแบร์รี่ที่ซัดด้วยอีซ้ายข้างถนัดตรงระยะ 8-9 หลาแต่บอลแป๊กออกหลังไป ลูกนี้น่าจะตรงกรอบด้วยซ้ำ

สโต๊คยังชวนทะเลาะ
เกมของ"ช่างปั้นหม้อ"อาจจะพาขึ้นไปถึงเขตโทษซิตี้น้อยลงแต่การยื้อและชวนทะเลาะยังเข้มข้นเหมือนเดิมเล่นเอาโรแบร์โต้ มันชินี่นั่งไม่ติดสั่งการไม่มีหยุด

ทุ่มไกลเกือบเฮ
ก่อนหมดเวลา 10 นาทีลูกทุ่มไกลของดีแลปเกือบทำพิษหลังฮูธขวิดเช็ดหันหลังบอลกระเด้งผ่านเสาไกลออกไปไม่มีตัวซ้ำอย่างน่าเสียดาย

AJ แทงทะลุ
ช่วงทดเจ็บอดัม จอห์นสันโชว์ลีลาคุ้มค่าตัวหลังลากจากปีกขวาตัดเข้าในตรงระยะ 35-40 หลาก่อนม้วนตัวพลิกหยุดเพื่อสลัดตัวประกบแล้วแทงทะลุช่องตัดหลังแบ็คเข้าในกรอบให้ริชาร์ดวิ่งกระชากควบเอาบอลแต่เจอฟายบอลจนออกเส้นหลัง ถ้าจังหวะดีๆริชาร์ดหลุดได้ตบเข้าในกันเลยทีเดียว

ครึ่งหลัง

หม้อแย่เหลือ 10 ตัว
เล่นมา 8 นาทีเจ้าถิ่นเสียหายสุดๆหลังลูกสวนกลับบอลยาวตรงกลางสนามฟายไปปล่อยให้บอลตกแทนที่จะโขกทิ้งทำให้บายอร์วิ่งสอดจากด้านหลังแซงทะลุขึ้นมาเจ้าตัวเลยต้องยื้อแล้วดึงเสื้อตรงระยะ 30 หลาจนท้ายที่สุดอลัน ไวลีย์ไปปรึกษาไลน์แมนเพราะวิ่งไม่ทันจนสุดท้ายเดินมาให้ใบแดงไล่ฟายออกไปเลย

หม้อช่วยกันรับ
พอตัวน้อยกว่าตอนนี้การขึ้นเกมของสโต๊คลดความน่ากลัวลงและต้องเป็นฝ่ายขึงเกมรับหลัง"เรือใบ"เหมือนคนกระหายเลือดโหมบุกจะเอาประตูขึ้นนำให้ได้โดยเร็วแต่ผ่านมาหลายนาทีแล้วโทนี่ พูลิสยังไม่ยอมเปลี่ยนตัวซักทีจากนั้นนาที 60 ดิเยามาแทนลอว์เรนซ์ออกแล้วหุบฮูธมายืนเซนเตอร์

มันโช่ส่งสั้นเลื้อย
ช่วงนี้แฟนเจ้าถิ่นต้องกลั้นหายใจเวลาซิตี้บุกขึ้นมาเพราะตอนนี้ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์มาป่วนทางขวาส่วนจอห์นสันไปเลื้อยทางซ้ายเล่นเอาแนวรับสโต๊คลิ้นห้อยเพราะแทบโงหัวไม่ขึ้นกันเลยทีเดียว

หม้อพลิกนำหน้าตาเฉย!!
แต่แล้วบริทาเนียแทบแตกหลังนาที 72 สโต๊คมาขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ดีแลปพาบอลจากระยะ 30 หลาทัวร์ปีกซ้ายก่อนตบบอลเลียดเข้าเขตโทษให้ฟูเลอร์แต่ดันจับไม่ดีแต่อดัม จอห์นสันดันเคลียร์แป๊กทำให้เกล็น วีแลนวิ่งมาซัดไกล 25 หลาบอลเลียดทะลุมือกิฟเว่นที่พุ่งสุดมือไม่ทันบอลเสียบหน้าต่างเข้าไปสุดงาม

แบร์รี่โจ๊ะพรึม 1-1
หลังขึงเกมอยู่พักใหญ่ซิตี้หนามยอกเอาหนามบ่งเมื่อก่อนหมดเวลา 5 นาทีบอมบ์เข้าเขตโทษให้อเดบายอร์โขกชงให้แบร์รี่วิ่งสอดยิงบอลชนเสาแล้วเจ้าตัวที่ล้มอยู่กับพื้นยังอุตสาห์กวาดบอลระยะเผาขนเข้าไปง่ายๆ เสมอแล้ว

ดีแลปทุ่มไกลหลอน 2-1
ช่วงเวลาที่เหลือสโต๊ครับกันเต็มตัวและเข้าบอลหนักก่อนรับกินลูกเปิดบอมบ์เข้าเขตโทษอยู่หมัดแถมทดเจ็บนาทีสุดท้ายดีแลปทุ่มไกลให้ชอวร์ครอสทะยานมาโขกเต็มๆเหนือกิฟเว่นเข้าไปแต่ไวลีย์ดันให้เป็นลูกฟาว์ลเฉย พลาดอย่างแรง

ลงท้ายเสมอ 1-1 ทำให้"เรือใบ"ยังไม่ชนะแต่ก็แซงลิเวอร์พูลขึ้นมาอยู่อันดับ 4 มีมากกว่าหนึ่งแต้มและอีกเกมในมือส่วน"ช่างปั้นหม้อ"ได้หนึ่งแต่มสำคัญขยับจาก 12 ขึ้นมาอยู่ 11 มี 31 แต้ม

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

สโต๊ค : โธมัส
โซเรนเซ่น 6,โรเบิร์ต ฮูธ 6,ไรอัน ขอว์ครอสส์ 6,อับดุลาเย่ ฟาย 6,แดนนี่ ฮิกกินบอทแธม,รอรี่ ดีแลป 7,ดีน ไวท์เฮด,เกล็น วีแลน 7,เลียม ลอว์เรนซ์ 7(ดิเยา น.60,6 ),มามาดี้ ซิดิเบ้ 6,ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ 7(บีตตี้ น.80)

แมนฯซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น 7,ไมคาห์ ริชาร์ดส 7(ซาบาเลต้า น.81),โคโล่ ตูเร่ 6,โจเลออน เลสค็อตต์ 6,ฆาเบียร์ การ์ริโด้ 6(ไรท์ ฟิลลิปส์ น.60,6),อดัม จอห์นสัน 6(เปตรอฟ น.87),ปาทริค วิเอร่า 7,ไนเจล เดยอง 6,แกเรธ แบร์รี่ 6,โรเก้ ซานตา ครูซ 5,เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 6




















เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์