ยอดทีมแห่งยุโรป!โด้เบิ้ล-ก้าจ่ายมาดริดถล่ม3-0
เคเรซเล่นดีมาทั้งเกมส์ ก่อนจะมาเจอ 7 นาทีแห่งความปราชัยที่เรอัล มาดริดยัดเยียดให้ โดยนัดนี้โรนัลโด้ที่เพิ่งพ้นโทษแบนกลับมาซัดเบิ้ล และทั้ง 2 ลูกมาจากการจ่ายของกาก้า ส่งผลให้เรอัล มาดริดถล่มเคเรซไป 3-0
ลา ลีกา
วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2553
เคเรซ 0 - 3 เรอัล มาดริด
ประตู : 0-1 อาร์เบลัว น.64,0-2 โรนัลโด้ น.69,0-3 โรนัลโด้ น.71
แมตช์นี้ราชันชุดขาวได้โด้จิ๋วกลับมาทะลวงแนวรับของคู่แข่งอีกครั้ง หลังจากที่โดนแบนได้แต่นั่งข้างสนามดูเพื่อนใน 2 นัดที่ผ่านมา
ครึ่งแรก
เจ้าบ้านมาดี
เริ่มเกมส์มากลายเป็นทางเจ้าบ้านทีมอมบ๊วยบุกใส่เรอัลก่อนเลย โดยมีโอกาสคาลโวที่ได้ซัดด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษ แต่บอลหลุดออกข้างไป
จากนั้นเคเรซก็ยังคงได้บุกต่อเนื่อง จนกระทั่งรามอสมาได้ใบเหลืองจากการเข้าปะทะหนัก ทั้งที่เพิ่งผ่านไปแค่ 8 นาทีเท่านั้น 
โด้ได้โขกจ่อๆ
เรอัล มาดริดได้จังหวะลุ้นประตูจากคริสเตียโน่ โรนัลโด้แบบน่าเสียดายไม่น้อย เพราะได้โขกเหน่ง ๆ จากระยะแค่ 5 หลาเท่านั้น แต่บอลตรงตัวของผู้รักษาประตูเคเรซ น่าเสียดายอย่างแรงสำหรับทีมเยือน ช๊อตนี้อาร์เบลัวเป็นคนเิติมขึ้นมาเปิดจากฝั่งขวา
เกมส์เนือยๆ
แม้มาดริดจะสามารถครองบอลได้มากกว่าทางเจ้าบ้านก็ได้ แต่ก็ยังไม่มีจังหวะที่จะทะลวงเกมส์รับของเคเรซ เข้าไปหาโอกาสจังหวะจบสกอร์ที่จะแจ้งได้สักเท่าไร จังหวะยิงส่วนมากมักจะไม่ผ่านมือของเคเรซ
โดยโรนัลโด้มีโอกาสได้โหม่งและยิงรวมแล้ว 5 ครั้งด้วยกันในช่วง 40 นาทีแรก แต่ยังไม่สามารถทำประตูได้
โด้ได้โหม่งอีก
เป็นอีกครั้งที่ได้จังหวะลุ้นประตูของทางโด้จิ๋ว หลังได้เทคตัวขึ้นโหม่งบริเวณจุดโทษ จากลูกเปิดของอาร์เบลัวทางฝั่งขวา บอลลอยไปทางซ้ายมือสวนทางที่เรนานขยับ ทำให้หมดสิทธิ์รับไปแล้ว แต่โชคดีสำหรับทางเจ้าบ้านที่บอลชนคานกระเด้งออกหลังไป ทำเอาเรนานทำหน้าเบื่อโลก บ่นเพื่อนอุบอิบว่าทำไมปล่อยให้โด้ได้โหม่ง ทั้งที่มีกองหลังเบียดอยู่ถึง 2 คน
จบ 45 นาทีแรก มาดริดเร่งเครื่องยังไม่ติด ทำให้ไม่สามารถเจาะประตูของเคเรซไ้ด้ ทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลัง
ก่อนเกมส์ครึ่งหลังจะเริ่มขึ้น ได้มีแฟนบอลคนหนึงวิ่งเข้าไปป่วนในสนามโดยถือป้ายมีรูปและข้อความที่มองได้ยาก เพราะกล้องพยายามไม่โฟกัสไป แต่ที่แน่ๆแฟนบอลของเคเรซต่างปรบมือกันเกรียวเลยทีเดียว
มาดริดคุมเกมส์
เกมส์ในตอนนี้แทบจะเป็นของทางฝั่งทีมเยือนทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่สามารถทำประตูเคเรซได้ เพราะจากจะไม่ผ่านมือของเรนานแล้ว ที่เหลือก็ยิงออกกันไปเอง หรือไม่ก็ติดบล็อกของทางองหลังเจ้าบ้าน
เรนานลั่นเสียวแว๊บ
เซฟมาตลอด เกือบพลาดแล้วสำหรับทางเรนานผู้รักษาประตูของเคเรซ หลังโรนัลโด้ได้ซัดจาทางฝั่งซ้ายด้วยเท้าขวาข้างถนัด บอลพุ่งแรงตรงตัวของเรนน ที่เหมือนจะรับบอลเอาไว้ได้ แต่กลับซองแตกทำบอลลั่นออกมา ดีที่บอลล้นไปทางกองหลังของทางเคเรซ แทนที่จะเป็นอิกัวอิน ไม่งั้นแล้วดาวเตะอาเจนไตน์น่าจะซ้ำไม่มีเหลือ 
อาร์เบลัวสุดยอดดดดดดดดดด
กองหน้ายิงทิ้งยิงขวางกันดีนัก อาร์เบลัวที่พยายามเติมมาเปิดให้ยิงเท่าไรก็ไม่ได้สักที เห็นแล้วหงุดหงิดหัวใจ เลยลากจากทางฝั่งขวา ตัดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนที่จะหลอกหน้าเท้าว่าจะเปิดให้เพื่อนตรงกลาง แปเข้าเสาแรกไป ทำให้เรอัล มาดริดทีอ่ึดอัดมาตลอดเกมส์ออกนำเคเรซไปแล้ว 1-0
โด้มาแล้วววววววววววว
กลับมาก็ยิงได้เลยสำหรับโรนัลโด้จอมถล่มประตู หลังกาก้าได้โอกาสหลุดไปทางเส้นข้างประตูฝั่งขวา ก่อนจะเห็นเพื่อนรักคนใหม่ในทีมอย่างโด้จิ๋วยืนรออยู่ในกรอบเขตโทษ กาก้าบรรจงเปิดไปให้โรนัลโด้ ที่วิ่งโฉบตัดหน้ากองหลังของเคเรซโหม่งเน้น ๆ เต็มหัว บอลพุ่งสวนเรนานที่ยืนจังก้าหมดสิทธิ์รับ ทำให้มาดริดนำห่าง 2-0
โด้ซัดสอง ก้าซิสต์สอง
อะไรกันเนี่ย ขึ้นนำ 2-0 ไม่ถึง 2 นาที ก็มาได้ประตูที่สาม จากสองคู่หูคนเดิม โด้-ก้า โดยเป้นจังหวะที่กาก้าวิ่งหลุดไปในกรอบเขตโทษ แต่โดนเรนานออกมากันไว้ ทำให้เจ้าตัวหมุนตัวบังบอลเอาไว้ ก่อนจะเห็นโรนัลโด้ยืนวางอยู่ทางขวา เลยเปิดมาให้ทันที เจ้าโด้ไม่รอช้าแปแบบเ้น้น ๆ ผ่านกองหลังที่พยายามจะสกัดเข้าไปตุงตาข่าย โด้ซัด 2 พามาดริดนำห่าง 3-0 แล้ว
เดรนเต้เกือบซัดเม็ด 4
เกือบนำห่างเป็น 4-0 แล้วสำหรับทางเรอัล มาดริด จากลูกยิงของเดรนเต้ที่เพิ่งถุกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลัง แต่กองหลังของเคเรซล้มตัวสกัดออกไปได้
จบ 90 นาทีมาดริดบุกมาชนะเคเรซไป 3-0 ส่งผลให้ราชันชุดขาวมี 53 คะแนนไล่จี้บาร์เซโลน่าจ่าฝูงอยู่ 2 คะแนน แต่เตะมากกว่า 1 นัด ส่วนทางด้านเคเรซยังคงอมบ๊วยต่อไป
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เคเรซ : เรนาน 4,กิโอด้า 4,อาติเลส โอลิวา 6,คาซาโด้
6,เรดอนโด้ 5,ยาย่า เกอิต้า 7,โมเรโน่ 4(อรัสติซ่า 3 น.73),วิคตอร์ ซานเชส 4,คาเบรร่า โมโม่ 6,คาร์ลอส คาลโว 5(อเบล 5 น.73),เบอร์เมโฆ่ 4(อันโตนิโต้ - น.80)
เรอัล มาดริด : คาซิยาส 6,รามอส 7,การาย 6,มาร์เซโล่ 5,อาร์เบลัว 8,กราเนโร่ 5,ลาส 6,อลอนโซ่ 7(ดิยาร์ร่า 5 น.73),กาก้า 7(เดรนเต้ 4 น.76),อิกัวอิน 5(ราอูล 4 น.67),โรนัลโด้ 8 
_________________
##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
