ฮันเตอร์เบิ้ล!มิลานเฉือนอุดิหวิว 3-2 ขึ้นรองฝูง

ฮันเตอร์เบิ้ล!มิลานเฉือนอุดิหวิว 3-2 ขึ้นรองฝูง

เอซีมิลานเปิดบ้านเฉือนเอาชนะอูดิเนเซ่ ทีมท้ายตารางไปสนุก 3-2 โดยนัดนี้ฮุนเตลาร์เหมาคนเดียว 2 เม็ด พาทีมขึ้นรองฝูงชั่วคราว ไล่จี้หลังอินเตอร์เหลือ 8 คะแนนต่อไป

กัลโช่ เซเรีย อา

วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2553

เอซีมิลาน 3-2 อูดิเนเซ่

ประตู : 1-0 คลาส ยาน ฮุนเตลาร์ น.7, 2-0 อเลสซานโดร ปาโต้ น.39, 2-1 อันโตนิโอ ฟลอโร่ ฟลอเรส น.45, 3-1 คลาส ยาน ฮุนเตลาร์ น.57, 3-2 อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ น.87

เอซีมิลาน ทีมอันดับ 3 ของตารางเปิดรังซาน ซีโร่ รับการมาเยือนของอุดินิเซ่ ที่ปีนี้มาผิดฟอร์มอยู่อันดับ 15 ของตาราง โดยเจ้าบ้านต้องเก็บสามคะแนนเพื่อลดช่องห่างจากอินเตอร์ 11 แต้ม ขณะที่ทีมเยือนก็ต้องการแต้มเพื่อหนีโซนตกชั้นที่ตอนนี้อยู่ห่างเพียง 2 แต้มเท่านั้น

ครึ่งแรก

มิลานบุกอยู่พักใหญ่ จนถึงนาทีที่ 7 โรนัลดินโญ่ เก็บตกบอลได้ที่ริมกรอบเขตโทษด้านขวา แล้วโยกหลอกกองหลังสองสามจังหวะ ก่อนจะเกือบขนานเส้นหลังมาให้คลาส ยาน ฮุนเตลาร์ หัวหอกดัตช์แมนที่หลุดตัวประกบเทคตัวขึ้นโหม่งตัดหน้าฮันดาโนวิชเข้าไปจ่อๆไม่มีเหลือ ต้องชมทั้งคนเปิดและคนโขกจริงๆ มิลานนำแล้ว 1-0



ได้ขึ้นนำไม่ถึงนาที มิลานเกือบมาเสียง่ายๆ จากจังหวะที่ทีมเยือนได้สวนกลับ ก่อนที่จะได้จบด้วยเมาริซิโอ อิสลา ที่กึ่งยิงกึ่งผ่านจากด้านขวาของกรอบเขตโทษ แล้วดิด้าล้มตะครุบไม่ทัน บอลหลุดไปที่เสาสอง แต่ดิ นาเตเล่ หอกอูดิฯสไลด์ชาร์จไม่ทัน เฉี่ยวเสาออกหวุดหวิด

นาทีที่ 24 มิลานเกือบเบิกสกอร์เพิ่มได้ จากการจ่ายทะลายกับดักล้ำหน้าของปาโต้ ที่บอลทะลุช่องไปถึงโรนัลดินโญ่ ได้พากระชากหนีฮันดาโนวิชแล้วแปเข้าไปซุกก้นตาข่าย แต่ผู้ตัดสินให้เป็นลูกล้ำหน้า เพราะเหยินน้อยออกตัวเร็วไปก้าวเดียวเท่านั้น

อูดิเนเซ่ใช่ว่าจะปล่อยมิลานไล่บดอย่างเดียว แต่ใส่สปิริตนักสู้กลับมาครองเกมได้ ก่อนจะได้จบจากจังหวะยิงไกลอยู่หลายครั้ง แต่เนลสัน ดิด้าก็เก็บกินหมดทุกครา ส่วนเจ้าบ้านก็ตอบโต้ไปบ้างประปราย แต่ยังไม่เข้าเป้า

มิลานได้มาอุ่นใจในนาทีที่ 39 มิลานได้สกอร์หนีเป็นสองเม็ด เริ่มจากเปิดตูมเดียวจากแดนตัวเองของอัมโบรซินี่ บอลข้ามกองหลังมาแล้วอเล็กซานเดอร์ ปาโต้ แซงมาเอาบอลลงด้วยหน้าอก ก่อนจะได้แตะหนีผู้รักษาประตูเข้าไปแปนิ่มๆเป็นประตู

สกอร์เริ่มกลับมาสูสีอีกครั้ง เพราะอูดินิเซ่ได้คืนมาหนึงเม็ด จากลูกเปิดจากเส้นกรอบเขตโทษด้านขวาของดิ นาตาเล่ แล้วฟลอเรสพุ่งเป็นตอร์ปิโดโหม่งไปตรงดิด้า แต่ด้วยความแรงของลูก ดิด้าปัดไม่พ้น บอลปลิ้นเข้าประตูให้อูดิเนเซ่ตามมาเป็น 2-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง

ฮันเตอร์มาใส่สกอร์ให้ทีมได้อีกในนาทีที่ 57 จากลูกฟรีคิกระยะ 35 หลาที่มิลานได้ตักเข้าเขตโทษ ปาสกวาเล กองหลังของอูดิเนเซ่พยายามโขกสะกัด แต่ดันมาเข้าทางฮุนเตลาร์ที่ยืนอยู่ตรงนั้นพอดี ก่อนที่อดีตศูนย์หน้าเรอัลมาดริดจะจับบอลส้มหล่นแล้วซัดจ่อๆระยะไม่ถึง 5 หลาเข้าไป มิลานทิ้งห่างอีกครั้งเป็น 3-1



นาที 66 อูดิเนเซ่เกือบได้คืนเหมือนกัน จากลูกเปิดของอิสลา มาเข้าหัวดิ นาตาเล่ ที่เล่นทุ่มเทพุ่งโหม่งเข้ามา แต่โดนเบียดไว้นิดนึงจึงโหม่งไม่เต็ม ดิด้าล้มตัวเซฟไว้ได้ที่โคนเสา

สงสัยลูกเซตพีซจะเล่นงานอูดิเนเซ่ได้จริงๆ นาทีที่ 73 ปิร์โล่ โยนฟรีคิกโค้งเข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนที่กองหลังอูดิเนเซ่จะประกบตัวฮุนเตลาร์ไม่อยู่ ได้เข้าไปแปคนเดียวโล่งๆ ยังดีที่ไม่ตรงกรอบและข้ามคานออกไป ฮันดาโนวิชถึงกับอารมณ์เสีย ต้องออกมาโวยเพื่อนเลยทีเดียว

พอแนวรับอูดิเนเซ่เริ่มแปรปรวน นาทีต่อมา โรนัลดินโญ่โยนข้ามฟากจากกรอบเขตโทษด้านซ้ายมาที่เจนนาโร่ กัตตูโซ่ ที่ยืนคนเดียวโล่งๆทางเสาสอง ก่อนที่ไอ้รถถังจะยิงไปติดเซฟของฮันดาโนวิช ที่ออกมามาปิดมุมพอดี

นาที 80 เดวิด เบ็คแฮ่ม จ่ายคืนหลังไม่ดี ดิ นาตาเล่ ฉกบอลไปโซโล่หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ แล้วแตะหลบดิด้าไปได้ แต่ดันแตะยาวไปนิด พอจะตามไปเล่นมุมก็ไม่มี แถมแผงหลังของมิลานก็ลงมากันหมดแล้ว

จนแล้วจนรอด นาทีที่ 87 ดิ นาตาเล่ ก็ยิงประตูตามจี้มาได้สำเร็จ จากจังหวะสวนกลับที่ซิโมเน่ เปเป้ จ่ายพอดิบพอดีจากทางซ้ายให้หัวหอกอิตาเลี่ยนใช้ความเร็วหนีกองหลังมิลานหลุดเดี่ยวไปดวลกับดิด้าอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่พลาด ปั่นด้วยขวาเข้าเสาไกลสวยงาม อูดิฯจี้มาเป็น 3-2 แล้ว

เวลาที่เหลือ มิลานยันสกอร์นี้ไว้ได้ เก็บเพิ่มได้อีก 3 คะแนน แซงโรม่ารั้งอันดับ 2 แล้วและจี้หลังอินเตอร์จ่าฝูงเหลือ 8 แต้มต่อไป

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เอซีมิลาน : ดิด้า, ธิอาโก้ ซิลวา (ดาเนียล โบเนร่า น.40), อเลสซานโดร เนสต้า, จูเซปเป้ ฟาวาลลี่, อาเบเต้, อังเดร ปิร์โล่, มัสซิโม่ อัมโบรซินนี่. เจนนาโร่ กัตตูโซ่, โรนัลดินโญ่ (เดวิด เบ็คแฮ่ม น.77), อามันติโน่ มันชินี่ (อเล็กซานเดอร์ ปาโต้ น.13), คลาส ยาน ฮุนเตลาร์

อูดิเนเซ่ : ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช, คริสเตียน ซาปาต้า, อังเดร โกด้า, โจวานนี่ ปาสกวาเล, เมาริซิโอ อิสลา, โกคาน อินแลร์ (ฟรานเชสโซ่ โลดี้ น.61), ควัดโว อซาโมอาห์, เปาโล ซามมาร์โก้ (ซิโมเน่ เปเป้ น.72), อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่, อันโตนิโอ ฟลอโร่ ฟลอเรส (อเลสซานเดอร์ เกอิโฆ่ น.72), อเล็กซิส อเลจานโดร ซานเชส

ผู้ตัดสิน : โดเมนิโก้ เซลี่



































ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย lentee

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์