ช่วงรอยต่อของปีเก่ากับปีใหม่แบบนี้ มีเพียงศึกพรีเมียร์ลีกที่หวดกันแบบไม่ลืมหูลืมตา ขณะที่เพื่อนบ้านพักผ่อนอยู่กับบ้านตอนเทศกาลเหมือนเดิม
ประเด็น เบรกหนีหนาว เคยเป็นเรื่องใหญ่สมัย สเวน โกรัน อีริคส์สัน ยังคุมทีมชาติอังกฤษ เมื่อกุนซือสวีดิช อยากเห็นลีกอังกฤษมีจังหวะผ่อนปรนให้นักเตะได้ชาร์จแบตเตอรี่บ้าง นำไปสู่การโต้แย้งถกเถียงกันในหลายประเด็น
บ้างเห็นด้วยกับไอเดียที่หลายๆ ประเทศทำอยู่ แต่คนอังกฤษไม่น้อยก็อนุรักษ์นิยมไว้ก่อน และชูมือต่อต้านให้เตะกันตามประเพณีเดิมต่อไป
หลายปีผ่านไป เรื่องพักหน้าหนาวของบอลอังกฤษ เริ่มหายไป อาจเป็นเพราะเถียงไปก็ไม่เห็นมีการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่นั่นเอง
และเป็นธรรมเนียมของช่วงท้ายปี ที่หลายคนชอบจัดทีมยอดเยี่ยมแห่งปี แห่งทศวรรษ ไม่ว่าจะเป็นลีกอังกฤษ, เยอรมัน, อิตาลี หรือสเปน
เอาเป็นว่าขอนำเสนอแค่พรีเมียร์ลีกช่วงครึ่งซีซั่นแรก ว่ามีใครโดดเด่นกว่าเพื่อนตามมุมมองของผมกันบ้างก็แล้วกันนะครับ
ผู้รักษาประตู : โค้งแรกของซีซั่น 2009/10 มีนายทวารหลายคนที่โชว์ฟอร์มเด่น ไม่ว่าจะเป็น โจ ฮาร์ท สมบัติของแมนฯ ซิตี้ แต่ปล่อยให้เบอร์มิงแฮม ยืมใช้งาน และดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษคนนี้ก็มีสถิติเสียประตูน้อยมาก ซึ่งส่วนหนึ่งคงมาจากเกมรับที่เหนียวแน่นของแผงหลังบวกกันไป ทำให้ 18 เกมแรก ฮาร์ท เสียไปแค่ 18 ประตู โดยเป็นคลีนชีทถึง 5 ครั้ง
ขณะที่คนอื่นๆ มี มาร์ค ชวาร์เซอร์, แบร้ด ฟรีเดล และปีเตอร์ เช็ก แต่ที่บอกว่าเข้าตากว่าทั้งหมดนี้ ผมยกให้ เชย์ กิฟเว่น มือหนึ่งของ ซิตี้ ครับ
นายทวารทีมชาติไอริช อาจเสียประตูเยอะกว่าทุกคนที่เอ่ยชื่อมา แต่เชื่อว่าเกือบทั้งหมด กิฟเว่น อยู่ในสภาพที่หมดหนทางป้องกันจากเกมรับของทีมที่ไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ นอกนั้นถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง ใครก็กินหมอนี่ลำบาก
กองหลัง : เริ่มจากแบ็กขวาที่มีหลายชื่อติดโผในครึ่งซีซั่นแรก ขอเลือก บาการี่ ซาญ่า จากอาร์เซน่อล เป็นตัวเลือกแรก ตามด้วยคู่เซนเตอร์ นาทีนี้ยังต้องยกให้ จอห์น เทอร์รี่ คู่กับ โธมัส แฟร์มาเล่น ปล่อยให้แบ็กซ้ายเป็น ปาทริซ เอวร่า ขณะที่อีกหลายชื่ออย่าง ริชาร์ด ดันน์ ที่ย้ายไปเล่นอย่างพระเอกกับแอสตัน วิลล่า ก็น่าเสียดายเหมือนกันที่ไม่มีช่องว่างให้ลง เช่นเดียวกับ แอชลี่ย์ โคล ของเชลซี
มิดฟิลด์ : แผงกลางทั้ง 4 คนในครึ่งซีซั่นแรก ริมเส้นฝั่งขวาตอนนี้คงไม่มีใครเด่นไปกว่า อารอน เลนน่อน ปีกจรวดของสเปอร์ส ที่เด่นเหลือเกินในเกมรุกของไก่เดือยทองตอนนี้ ด้วยการเปิดป้อนไปถึง 8 หน บวกกับอีก 3 ประตู
ตรงกลางเป็น มิชาเอล เอสเซียง จอมบู๊ของเชลซีอีกเช่นกัน เพื่อช่วยสนับสนุนเกมรับให้คู่หู เชส ฟาเบรกาส ที่เบียด แฟร้งค์ แลมพาร์ด เข้ามารับบทบาทจอมทัพไป โทษฐานที่กัปตันทีมปืนใหญ่ เปิดป้อนให้เพื่อนอย่างมโหฬารถึง 12 ครั้ง และซัดไปอีก 7 ลูก ขณะที่ด้านซ้าย ขอยกให้ เคร็ก เบลลามี่จอมตะลุยของแมนฯ ซิตี้ ที่ถนัดพื้นที่ตรงนี้อยู่แล้ว แถมยังดันขึ้นไปเล่นกองหน้าได้ด้วย
กองหน้า : มาถึงตำแหน่งที่เลือกยากที่สุด เพราะมีช่องว่างให้หย่อนในระบบ 4-4-2 แต่สองคน ขณะที่ทำเนียบดาวยิงในลีกตอนนี้ มีถึง 4 คนที่เบียดกันอยู่อย่างสูสี
แต่คนหนึ่งที่ต้องเลือกยืนพื้นไว้ก่อนคือ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา เพราะนอกจากกระหน่ำโหดไปแล้ว 13 ลูก ส่วนร่วมในเกมอื่นๆ ยังรวมการเปิดให้เพื่อนยิงอีก 8 หน เช่นเดียวกับจังหวะบดขยี้กับกองหลังที่สร้างปัญหาแก่คู่แข่งได้ตลอดเวลา
ส่วนคู่ขาของ เดอะ ดร็อก ขอจิ้มไปที่ เวย์น รูนี่ย์ จอมขยันของแมนฯ ยูไนเต็ด ครับ แม้หลังๆ จะโดนวิจารณ์หนักไปหน่อยเรื่องอารมณ์ขยันเกินกว่าเหตุในหลายเกมก็ตาม ปล่อยให้ เจอร์เมน เดโฟ กับ ดาร์เรน เบนท์ นั่งสำรองอยู่ข้างสนามไป
ตามนี้แล้วกันนะครับ
ชู้ตเอ๊าต์ |
|
จาก siamsport.com
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
