วิวัฒนาการของโฮลดิ้งมิดฟิลด์







หาก ย้อนเวลากลับไปเมื่อสักสิบหรือยี่สิบปีก่อนนั้น จุดศูนย์รวมในแนวรุกมักจะไปอยู่ที่มิดฟิลด์เพลย์เมกเกอร์ที่ยืนอยู่หลังคู่ กองหน้า หรือจังหวะการเซตบอลและการขึ้นบอลนั้นจะทำโดยลิเบอร์โร่เป็นส่วนมาก แต่ในช่วงระยะเวลา 6-7 ปีหลังมานั้น เป็นที่สังเกตชัดได้อย่างแท้จริงเลยว่ามิดฟิลด์ตัวพักบอลหรือโฮลดิ้งมิด ฟิลด์นั้นมีแนวโน้วที่จะได้รับความสำคัญและเป็นที่จับตามองมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดนั้น ก็คือ ทัวร์นาเมนท์ระดับชาติอย่าง ฟุตบอลโลก และ ยูโร หนหลังล่าสุด นักเตะยอดเยี่ยมของแชมป์ยุโรปอย่างสเปน คือ ชาบี้ เอนานเดซสุดยอดมิดฟิลด์โฮลดิ้ง ณ เวลานี้ สำหรับแชมป์โลกอย่างอิตาลี่นั้น แม้ฟาบิโอ คันนาวาโร่ จะได้รับตำแหน่งนักเตะแห่งทัวร์นาเมนท์ แต่เราก็ไม่อาจปฎิเสธได้ว่าแกนกลางของการทำเกมนั้นอยู่ที่อันเดรีย ปิร์โล่ กองกลางเท้าช่างทองจากค่าย เอ.ซี. มิลานนั่นเอง



ทีนี้ขอท้าวความถึงหนหลังของการกำเนิดโฮลดิ้งมิดฟิลด์บ้าง นักเตะในตำแนห่งโฮลดิ้งมิดฟิลด์ของแต่ละคนอาจจะมีความหมายแตกต่างกันไป แต่เชื่อแน่ว่าคงไม่ต่างกันมากมายนัก ตำแหน่งโฮลดิ้งมิดฟิลนั้น แต่ดั้งเดิมทีไม่เป็นที่พึงตาต้องใจของเหล่าแฟนบอลเอาเสียเลย เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่เปรียบได้ว่าเป็นการปิดทองใต้ฐานพระเลยเสียทีเดียว การคอยเก็บกวาดบอลก่อนถึงแนวปราการหลัง การครอนโทรลจังหวะของเกม และการเซ็ตบอลเพื่อเปิดเกมรุกให้แก่เพื่อนร่วมทีม ที่สำคัญที่สุดคือนักเตะประเภทนี้จะต้องทำงานเพื่อเก็บเปอร์เซ็นต์การครอง บอลให้เยอะที่สุดด้วย








สำหรับ ตำรับของโฮลดิ้งมิดฟิลด์ ผมก็ไม่สามารถบอกได้แน่ชัดเท่าใดนักว่าควรจะเรียกใครว่า บิดาแห่งโฮลดิ้งดี แต่กระนั้นนักเตะในยุคลายครามที่ผมคิดว่าน่าจะใกล้เคียงที่สุดคือ หลุยส์ ซัวเรซ ตำนานของบาร์เซโลน่า หรืออินเตอร์ มิลานในยุค 60 นั่นเอง หลุยส์ ซัวเรซเป็นนักเตะที่พรสวรรค์ในการเล่นที่สูงส่งมาก เนื่องจากว่ามีการผ่านบอลที่แม่นในทุกระยะ การคุมจังหวะเกมที่ไหลลื่น การครองบอลที่เหลียวแน่น ที่สำคัญที่สุดคือเขาเป็นแกนกลางของทีมโดยแท้จริง เกมรับเยี่ยมเกมรับสุดยอด ฝีเท้าของเขานั้นยอดเยี่ยมปานใด การได้รับบัลลงดอร์ คนแรกของสโมสรบาร์เซโลน่าคงเป็นเครื่องการันตีชั้นยอด แต่ถ้าหากพูดถึงเทรนสมัยฟุตบอลนั้นเองก็ไม่ได้เน้นหนักไปที่เพลย์เมกเกอร์ อย่างเด่นชัดเท่าใดนัก และดูเหมือนว่าพวกดาวยิงจะดูโดดเด่นกว่าเสียอีก หรือแม้กระทั่งการเล่นโดยใช้ปีกโจมตีจากริมเส้นของเซอร์แม็ต แบ็ตตี้แห่ง แมนฯยูไนเต็ด ก็ถูกคิดค้นในยุคนี้ แต่ถึงกระนั้นเองเพลย์เมกเกอร์ก็ยังไม่ทันได้มีให้เห็นมากนักในยุคนี้ เท่าที่โดดเด่นที่สุด คงเห็นจะเป็น จานนี่ ริเวร่า เพลย์เมกเกอร์ชาวอิตาเลี่ยนของเอ.ซี.มิลานนั่นเอง ดังนั้นยุคนี้จึงไม่อาจถือได้ว่าเป็นยุคทองของตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งนัก





หลุยส์ ซัวเรซเมื่อครั้งอยู่อินเตอร์มิลาน

แต่เมื่อเข้าสู่ยุคปลาย 60จนกระทั่งถึงปลาย 70 นั้น ได้เกิดการสั่นสะท้านวงการครั้งใหญ่ เนื่องด้วยระบบโททัลฟุตบอลของฮอลแลนด์ และริเบอร์โร่กับ3-5-2ของเยอรมนีตะวันตกได้ถือกำเนิดขึ้น การเล่นในระบบ 4-3-3โททัลฟุตบอลของฮอลแลนด์นั้น แต่เดิมทีก็ได้ถูกทำออกมาเพื่อกำจัดแนวต่อของเกมระหว่าง การแยกบุกกับแยกรับ มาเป็นเมื่อยามบุกก็บุกทั้งสิบเอ็ดคน เมื่อยามรับก็ขจัดช่องว่างในการลำเลียงฝ่ายตรงข้าม ตรงจุดนี้แหละที่มิดฟิลด์โฮลดิ้งอย่าง โยฮัน นีสเก้นมีความสำคัญมาก เนื่องจากการที่จำให้แนวรุกขับเคลื่อนไปอย่างต่อเนื่องไม่ติดขัดจำเป็นจะ ต้องมี นีสเก้นคอยรักษาสมดุลของทีม คอยขับเคลื่อนหมุนเปลี่ยนไปยังตำแหน่งต่างๆ ของเพื่อนที่เกิดรอยว่าง คอยควบคุมการลำเลียงบอลไม่ให้ไปกระจุกอยู่จุดหนึ่ง หรือคอยควบคุมแนวการสกัดลำเลียงบอลไม่ให้เกิดช่องว่างมากเกินไป ฮอลแลนด์ในยุค 70 จึงถือเป็นสุดยอดทีมที่สามารถครองเกมได้ทั้งสนาม ถึงแม้จะไม่มีนักเตะเทวดาอย่างโยฮัน ครัฟฟ์ก็ตาม


เปลี่ยน มาที่คู่ปรับตลอดกาลของฮอลแลนด์อย่างเยอรมนีตะวันตกเสียบ้าง ผมไม่แน่ใจว่าฟร้านซ์ เบ็คเคนบาว เป็นลิเบอร์โร่คนแรกของโลกหรือไม่ แต่เขาคือสัญลักษณ์ของลิเบอโร่แน่นอน ถึงแม้ฟุตบอลในยุคปัจจุบันเราไม่อาจจะหาลิเบอร์โร่ที่แท้จริงได้ แต่ส่วนหนึ่งนั้นก็ต้องตอบว่าหน้าที่ของลิเบอร์โร่ ส่วนหนึ่งถูกทดแทนด้วย โฮลดิ้งมิดฟิลด์แล้วนั่นเอง การเล่นของลิเบอร์โร่นั้นส่วนหนึ่งผมเชื่อว่าเป็นแนวทางการเล่นของโฮลดิ้ง มิดฟิลในปัจจุบัน เพราะลิเบอร์โร่นั้นคือนักเตะคนแรกที่เปิดเกมรุก และสามารถทำเกมอย่างอิสระได้ ควบคุมเปอร์เซ็นต์การครองบอลเหมือนกัน จะต่างก็แต่ว่าลิเบอร์โร่ต้องคอยรับผิดชอบแนวรับทั้งทีม และต้องคอยเติมเกมรุกในยามที่เห็นว่ามีโอกาส รวมถึงต้องคอยสกัดกั้นบอลจากฝ่ายตรงข้ามด้วย แต่ โฮลดิ้งมิดฟิลด์นั้นคล้ายกับลิเบอร์โร่ ที่ถูกดันขึ้นไปในไลน์ที่สูงกว่า แต่เพิ่มการเป็นมิดฟิลด์ตัวตัดเกมขึ้นมาด้วยให้ครบเครื่องยิ่งกว่าเดิม ไม่ใช่สักแต่ว่าคอยตัดบอล แต่เกมรับไม่ได้เรื่อง การเล่นของโฮลดิ้งมิดฟิล เป็นการช่วยเหลือกองหลังตัวกลางมากขึ้นกว่าเดิม และเป็นการผ่อนปรนภาระช่วยให้เซ็นเตอร์แบ็คมีสมาธิกับเกมรับเพียงอย่างเดียว ก็พอ แต่ถึงแม้จะทำหน้าที่คล้ายกันหลายส่วนลิเบอร์โร่ก็ยังเป็นกองหลัง และโฮลดิ้งมิดฟิลด์ก็ต้องกองกลางอยู่ดีไลน์ทั้งสองยังแตกต่างกันแน่นอน



มาถึงยุค 80 และยุค 90 ตอนปลายกันบ้าง ยุคนี้เป็นยุคแห่งเพลย์เมกเกอร์อย่างแท้จริง เนื่องจากนักเตะระดับท็อปคลาสของโลกต่างก็เต็มไปด้วยเพลยเกอร์ทั้งสิ้นไม่ ว่าจะเป็น มิเชล พลาตินี่ ซิโก้ รุด กุลลิท ดิเอโก้ มาราโดน่า ไมเคิล เลาดรู๊ป โรแบร์โต้ บาจโจ้ จอจี้ฮาจี้ ดรากัล สตอยโควิช เบเบโต้ เดยัน ซาวิเซวิช โซวานิเมียร์ โบบัน จนกระทั่งถึง ซีเนอดีน ซีดาน และรุย คอสต้า ต่างเป็นนักเตะนามกระเดื่องทั้งสิ้น ในยุคนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโฮลดิ้ง มิดฟิลด์เลยเสียทีเดียว ตรงกันข้ามอาจจะเป็นยุคที่มีนักเตะตำแหน่งนี้ฝีเท้าฉกาจมากที่สุดด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็น แฟร้ง ไรจ์การ์ด ฟิลลิป โคคู เฟอร์นันโด เรดอนโด้ โจเซป กราดิโอล่า เดเมทริโอ อันแบร์ตินี่ พวกนี้ต่างเป็นนักเตะฝีเท้าฉกาจทั้งนั้น เพียงแต่ว่าเมื่อเทียบกับเหล่าเพลย์เมกเกอร์แล้ว พวกเขาคงเป็นได้เพียงเศษดาวเคราะห์น้อยอันไร้ประกาย ท่ามกลางแสงสว่างอันเจิดจรัสของดาวฤกษ์



 

เฟอร์นันโด เรดอนโด้ หนึ่งในโฮลดิ้ง มิดฟิลด์ที่ชาวโลกติดตราตรึงใจ


แต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าเทรนฟุตบอลของยุค ปลายยุค 80 ไม่ได้ส่งผลต่อตำแหน่งโฮลดิ้ง ตรงกันข้ามนี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มิดฟิลด์ตัวปิดทองเหล่านี้เด่นใน ยุคปัจจุบัน
ในช่วง ปลายยุค 80นั้น เอ.ซี.มิลานภายใต้การทำทีมของ อาริโก้ ซาคคี่ได้ทำการสร้างนวัฒกรรมครั้งยิ่งใหญ่ของวงการฟุตบอล ด้วยการเล่นที่มีชื่อเรียกว่า เพรสโซนหรือเพรสซิ่งตามแต่เราจะเรียก โดยการเล่นเพรสซิ่งของมิลานนั้น คือการยืนกุมพื้นที่ เพื่อลดพื้นที่ในการจ่ายบอลหรือการเล่นของอีกฝ่าย การเล่นอย่างเพรสซี่งนี้ ทำให้ประสิทธิภาพในการจ่ายบอลอีกฝ่ายลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ที่สำคัญที่สุดคือ การเล่นกับดักล้ำหน้าของมิลานรวมกับการยิงไกลที่เป็นที่นิยมมากขึ้น ทำให้บทบาทของลิเบอร์โร่ยากที่จะเล่นมากขึ้น จนในปัจจุบันเรียกได้ว่าแทบจะสูญพันธ์ไปเลยก็ว่าได้


จากสองปัจจัยดังกล่าวข้างต้นนั้น ทำให้บทบาทของกองหลังในฐานะลิเบอร์โร่ลดลง และเนื่องจากฟุตบอลสมัยนั้นลดการวางบอลยาวลงหันไปเล่นบอลสั้นมากขึ้น ตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวโฮลดิ้งจึงพรอยได้รับอานิสงส์นั้นไปด้วย



ปัจจุบัน ในตำแหน่งโฮลดิ้งมิดฟิลด์ไม่ได้เป็นแค่ทาสรับใช้ที่คอยปิดทองใต้ฐานพระอย่าง แต่เก่าก่อน หากแต่มีความสำคัญมากขึ้นพวกเขาเปลี่ยนมาเป็นแกนกลางของทีมทั้งจังหวะการ เล่นรับการเล่นรุก และการให้ทิศทางและกำหนดรูปแบบเกมรุกได้มากขึ้น จากเกมฟุตบอลที่ถูกเพรสซิ่งและดันไลน์ขึ้นสูงกว่าแต่เก่าก่อนทำให้ ไลน์ที่โฮลดิ้งมิดฟิลด์ยืนอยู่นั้น สามารถจ่ายบอลในภาพรวมมากขึ้น พวกเขาเหล่านั้นคล้ายกับนกเหยี่ยวที่ลอยอยู่บนฟ้า คอยจ้องหาจังหวะและสอดส่องเหยื่อของเขา และพวกเขาสามารถผ่านบอลไปยังช่องว่างจุดอ่อนในแนวรับนั้นให้เพื่อนร่วมทีม ตามไปเล่นได้ เมื่อยามที่พวกเขารับ เขาก็เปรียบเหมือนกับผู้ที่กุมจังหวะการเล่นของฝ่ายตนและฝ่ายตรงข้ามได้ ราวกับว่าเขาได้กางตาข่ายฟ้าแหสวรรค์ไว้คอยเหยื่อที่ล่อเข้ามาอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นยุคนี้จึงยุคทองของพวกเขาที่จะได้รับการจับตามองมากกว่าแต่เก่าก่อน ยุคทองของโฮลดิ้งมิดฟิลด์นั่นเอง

เครคิต ok nation

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์