ปืนโหดส่องหงส์คาเล้า1-2


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
 


วันอาทิตย์ที่ 13 ธ.ค.52
 


ลิเวอร์พูล 1 - อาร์เซน่อล 2
 

ศึกซูเปอร์ซันเดย์ที่แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูลได้เฟร์นานโด ตอร์เรสหอกตัวอันตรายฟิตสมบูรณ์กลับมาลงบู๊เป็นตัวจริงหนแรกนับตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.แต่อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ที่ได้ลงเล่นเป็น 11 ตัวแรกในฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีกนัดกลางสัปดาห์ต้องกลับไปนั่งข้างสนามตามเดิมโดยเสียตำแหน่งคืนให้ลูคัส เลว่า
 
ส่วนอาร์เซน่อลเลือกใช้งานธีโอ วัลค็อตต์ตามคาด ขณะที่อเล็กซ์ ซงพ้นโทษแบนกลับมา
 
ทั้งสองฝ่ายเปิดฉากบุกใส่กันตั้งแต่ต้นเกม แต่เป็นเจ้าบ้านที่ได้ลุ้นมากกว่า และในนาทีที่ 12 ตอร์เรสก็ลงต่ำไปเก็บบอลบริเวณกลางสนามพร้อมทั้งแคะสั้นๆให้เจอร์ราร์ดกระชากขึ้นกราบขวาน่ากลัว ก่อนที่ดาวเตะทีมชาติอังกฤษจะจ่ายคืนเข้ามาตรงกลางให้เอล นินโญ่เผด็จศึกด้วยลูกแปเหน่งๆระยะ 18 หลา แต่ไม่รุนแรงพอที่จะผ่านการล้มตัวตะปบของมานูเอล อัลมูเนีย
 
นาทีต่อมา ตอร์เรสประสานงานกับเจอร์ราร์ดได้แจ๋วอีกหน คราวนี้กองหน้าเลือดกระทิงไหลบอลเข้าเขตโทษด้านขวาให้สตีวี่ จีหลุดเข้าไปก่อนจะถูกวิลเลี่ยม กัลลาสเข้ามาดักล้ม แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นลูกโทษโดยมองว่ากัปตันหงส์แตะบอลไกลตัวเกินไปแล้วจึงไม่อยู่ในวิสัยที่จะซัลโวได้
 
ยิ่งเล่นลิเวอร์พูลก็ยิ่งแข็งแกร่ง ขึ้นเกมโจมตีเดอะ กันเนอร์สได้เป็นระลอก และถึงนาทีที่ 24 เดนิลสันก็โดนจดชื่อเมื่อยกเท้าสูงใส่ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ในจังหวะพยายามโต้กลับ
 
เกมทางริมเส้นของเจ้าบ้านยังสร้างปัญหาให้อาคันตุกะได้ตลอดเวลา กระทั่งนาทีที่ 28 เดิร์ก เคาท์ก็ตบบอลจากกราบขวาถวายพานให้เจอร์ราร์ดเข่นหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลพุ่งไปกระทบใส่ซงอย่างน่าเสียดาย
 
เร้ด แมชีนอาศัยความขยันไล่บีบเกมของอาร์เซน่อลได้ดี ไม่เปิดพื้นที่ให้ขุนพลปืนโตได้ต่อบอลบนพื้นตามช่องได้อย่างถนัดเลย
 
และในที่สุดนาทีที่ 41 สิ่งที่เดอะค็อปรอคอยก็มาถึงเมื่อเดนิลสันทำฟาวล์เจอร์ราร์ดทางฝั่งขวา ฟาบิโอ ออเรลิโอจึงรับหน้าที่ตักบอลเข้าเขตโทษแล้วลูคัสกดดันให้อัลมูเนียต้องออกมาชก แต่บอลไปตกใส่ให้เคาท์พักอกก่อนจะจิ้มยิงจาก 10 หลาเข้าประตูพาทีมแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ขึ้นนำ 1-0
 
สู้กันใหม่มาได้อีกสามนาที เชส ฟาเบรกาสก็ทิ้งบอลยาวออกกราบขวาหมายให้วัลค็อตต์เก็บไปลากเลื้อย ออเรลิโอจึงปรี่เข้ามาผลักปีกปืนใหญ่กลิ้งทำให้โดนจดชื่อ จบครึ่งแรกหงส์แดงจึงนำไปก่อน 1-0
 ลิเวอร์พูล 1 - อาร์เซน่อล 2
 
เริ่มครึ่งหลัง ทีมเยือนเปิดตัวได้อย่างวูบวาบ และในนาทีที่ 48 ฟาเบรกาสก็ได้ซัลโวบอลที่กระดอนมาหาในกรอบเขตโทษด้านซ้าย แต่ไม่มีน้ำหนักจึงถูกโฆเซ่ เรน่าเซฟสบายที่เสาแรก
 
กระนั้นก็ดี อีกสองนาทีต่อมา แฟนหงส์ก็ต้องเซ็งกันอีกจนได้เมื่อซามีร์ นาสรี่มีพื้นที่กระชากบอลขึ้นกราบขวาก่อนจะไหลเข้าเขตโทษแล้วเกล็น จอห์นสันวิ่งกลับไปสกัดผิดจังหวะบอลจึงกลิ้งเข้าปะทะตาข่ายตัวเองช่วยสงเคราะห์ให้ทีมจากเมืองหลวงตีเสมอเป็น 1-1
 
เท่านั้นเอง เจ้าบ้านก็กลับมาโหมบุกใหม่หลังนิ่งนอนใจเกินไปจนเสียประตูคืน แต่นาทีที่ 55 มาสเคราโน่เข้าเสียบใส่ฟาเบรกาสจึงได้ใบเหลือง
 
และแล้วอีกสามนาทีให้หลัง อาร์เซน่อลก็เรียกเสียงเฮจากสาวกของตัวเองได้เมื่อฟาเบรกาสตักบอลจากแถวสองเข้าเขตโทษแล้วเจมี่ คาร์ราเกอร์โขกสกัดทะลักหลุดไปเสาไกล อังเดร อาร์ชาวินจึงได้โอกาสม้วนหนีจอห์นสันก่อนจะตะบันจาก 16 หลาส่งบอลพุ่งชนเสาแรกเข้าประตูพาทีมปืนโตแซงนำ 2-1
 
เครื่องจักรสีแดงไม่มีทางเลือกแล้วนอกจากเดินหน้าลูกเดียวก่อนจะเปลี่ยนอาควิลานี่ลงไปแทนมาสเคราโน่ในนาทีที่ 66
  
จากนั้นอีกห้านาที อาร์เซน่อลก็ส่งอาบู ดิยาบี้ลงเล่นแทนวัลค็อตต์ที่ไม่มีบทบาทกับเกม และในนาทีที่ 73 อาร์ชาวินก็หาโอกาสสับไกจากริมเขตโทษด้านขวา แต่บอลเข้าซองเรน่าพอดี
 
ช่วงที่เหลือเร้ด แมชีนยังเดินหน้าด้วยความมุ่งมั่น แต่สุดท้ายก็ได้แค่เสียว หมดเวลาอาร์เซน่อลจึงบุกมาคว้าชัย 2-1 ขยับขึ้นเป็นอันดับ 3 แทนแอสตัน วิลล่า พร้อมยัดเยียดความปราชัยเป็นนัดที่หกในซีซั่นให้หงส์แดง
 
 
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
 
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ มานูเอล เรน่า 6, เกล็น จอห์นสัน 6 (ฟิลิปป์ เดเก้น 5 น.82), เจมี่ คาร์ราเกอร์ 6, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ 6, ฟาบิโอ ออเรลิโอ 7, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ 6 (อัลแบร์โต้ อควิลานี่ 5 น.65), ลูคัส เลว่า 6, เดิร์ค เค้าท์ 7, สตีเว่น เจอร์ราร์ด 6, ยอสซี่ เบนายูน 5 (ดาวิด เอ็นก็อก 4 น.79), เฟร์นานโด ตอร์เรส 6
สำรองไม่ได้ใช้ : ดิเอโก้ คาวาเลียรี่, มาร์ติน สเคอร์เทล, เอมิเลียโน่ อินชัว, อันเดรีย ดอสเซน่า
ใบเหลือง : ฟาบิโอ ออเรลิโอ, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ลูคัส เลว่า
 
อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย 6, บาการี่ ซานย่า 7, วิลเลี่ยม กัลลาส 6, โธมัส แฟร์มาเล่น 6, อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ 6 (มิกาแอล ซิลแวสต์ 5 น.87), ธีโอ วัลค็อตต์ 6 (อาบู ดิยาบี้ 5 น.70), อเล็กซ์ ซง 7, เชส ฟาเบรกาส 7, เดนิลสัน 7, ซามีร์ นาสรี่ 6, อังเดร อาร์ชาวิน 8 (อารอน แรมซี่ย์ 5 น.90)
สำรองไม่ได้ใช้ : ลูคัส ฟาเบียนสกี้, แจ็ค วิลเชียร์, คาร์ลอส เวล่า, เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา
ใบเหลือง : เชส ฟาเบรกาส, เดนิลสัน, อังเดร อาร์ชาวิน
 
ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์
 
แมน ออฟ เดอะแมตช์ :  อังเดร อาร์ชาวิน (อาร์เซน่อล)  เป็นปีที่สองติดต่อกันแล้วที่กองหน้ารัสเซียมาปล่อยทีเด็ดที่ แอนฟิลด์ เกมนี้แม้ไม่ค่อยมีบทบาทอะไรมากนัก แต่ประตูชัยที่ทำได้ก็เพียงพอแล้วที่จะกลายเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของเกมนี้



ขอขอบคุณ  www.siamsport.co.th

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์