เปิดเวียงจันทน์เกมส์ โชว์ศักยภาพลาว

หลังจากใช้เวลาเตรียมการอยู่นานสำหรับงานยักษ์ที่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ได้เป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติเป็นครั้งแรก ในที่สุด กีฬาสุดยิ่งใหญ่แห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ "ซีเกมส์ ครั้งที่ 25" ก็กำลังจะเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ที่นครเวียงจันทน์ ในระหว่างวันที่ 9-18 ธันวาคมนี้

เพียงแค่การซ้อมใหญ่พิธีเปิดที่สนามกีฬาแห่งชาติที่สร้างขึ้นใหม่ เพื่อตรวจสอบความพร้อมในทุกด้านทั้งเรื่องระบบแสง, เสียง รวมถึงการซักซ้อมคิวของเหล่านักแสดงกว่า 8,000 ชีวิต ก็พอจะบอกได้ถึงความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้แล้ว

เพราะมีประชาชนชาวลาวให้ความสนใจเข้ามาจับจองที่นั่งในสนามมากกว่า 20,000 คน

หลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยเห็นการแสดงที่ยิ่งใหญ่อลังการเช่นนี้ มาก่อนในประเทศลาว ซึ่งการชมบรรยากาศในสนามแบบสดๆ ย่อมได้อรรถรสมากกว่านั่งชมการถ่ายทอดผ่านทางสถานีโทรทัศน์หลายเท่าตัว

แม้ว่าเป็นประสบการณ์ครั้งแรกในฐานะเจ้าภาพ แต่ลาวก็ได้รับความช่วยเหลือจากมิตรประเทศเพื่อนบ้านอย่างเต็มที่ในการเป็น พี่เลี้ยง ให้ ในหลายๆ ด้าน โดยพิธีเปิดและปิดการแข่งขันมี เบลเยียม เป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดซึ่งมี เวียดนาม เป็นผู้ประสานงานให้
เนื่องจากเบลเยียมเคยทำพิธีเปิด-ปิดเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ ครั้งที่ 3 ที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพมาก่อน ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับลาวก็ใกล้ชิดกันมาก ทำให้เบลเยียมได้เข้ามารับผิดชอบในส่วนนี้

อันที่จริงแล้ว ประเทศไทยก็เกือบจะมีส่วนร่วมในพิธีการดังกล่าวด้วยเช่นกัน เพราะทางลาวเคยเชิญให้ ศุภวัฒน์ "ศุภักษร" จงศิริ มือหนึ่งในเรื่องพิธีเปิด-ปิดของไทยเข้ามาเป็นที่ปรึกษาด้วย ก่อนจะไปลงเอยกับเบลเยียมในที่สุด

ด้วยความที่เป็นครั้งแรกในการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ทำให้ลาวค่อนข้างพิถีพิถันเป็นพิเศษ
 
เพราะต้องการให้ทุกคนประทับใจกับการแสดง โดยการซ้อมใหญ่โค้งสุดท้ายก่อนวันจริง ฝ่ายจัดการแข่งขันไม่เปิดให้สื่อมวลชนทุกแขนงเข้าไปสังเกตการณ์และบันทึกภาพแต่อย่างใด เพื่อเก็บเป็นความลับสุดยอดสำหรับไฮไลต์ของการแสดงซึ่งใช้งบประมาณไปทั้งสิ้น 4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 136 ล้านบาท ก่อนจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันนี้ (9 ธันวาคม)

สำหรับชุดการแสดงจะเริ่มด้วยการบรรเลงเพลง 4 เพลงติดต่อกัน ประกอบด้วย

จำปาเมืองลาว, เดอะ แลนด์ ออฟ ฟรีดอม, มาย มาเธอร์ เฮาส์ และเดอะ เดย์ ออฟ มาย ซอง ซึ่งแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมในพิธีเปิด นอกจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทยแล้ว ยังมีผู้นำจากประเทศต่างๆ ด้วย อาทิ กัมพูชา และติมอร์ เลสเต

จากนั้นเป็นคิวของนักกีฬาจาก 11 ประเทศที่จะเดินพาเหรดเข้าสู่สนาม

ซึ่งนักกีฬาที่เป็นตัวแทนถือธงชาติไทยเข้าสู่สนาม คือ "ตอง" กวิน ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย วัย 19 ปี ก่อนจะมีการเชิญธงชาติลาว และธงซีเกมส์ โดยมี สมสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรีลาวในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันซีเกมส์กล่าวเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการต่อประธานในพิธี จูมมะลี ไซยะสอน ประธานประเทศลาว

ส่วนพิธีจุดไฟคบเพลิงซึ่งเป็นไฮไลต์ของการแข่งขันรับหน้าที่โดย โพไช อาไพลาด นักกีฬาวูซูประเภทต่อสู้ทีมชาติลาว เจ้าของเหรียญเงินเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 15 "โดฮาเกมส์" ก่อนจะมีการแสดง 7 ชุด ที่เน้นถึงการสื่อวัฒนธรรมของชาวลาว

ชุดที่ 1 "ยินดีต้อนรับซีเกมส์" สื่อถึงความยินดีของพี่น้องชาวลาวในการต้อนรับเพื่อนบ้านจากชาติอาเซียน เปรียบเหมือนงานบุญที่เปี่ยมได้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และมิตรภาพ

ชุดที่ 2 "พงไพร สายน้ำ และชีวิต" เป็นการนำเสนอวัฒนธรรมของชนเผ่าต่างๆ ในประเทศลาว จำนวน 49 เผ่า ที่แม้จะต่างด้วยภาษาและขนบธรรมเนียมต่างๆ แต่ก็อยู่ร่วมกันได้ด้วยใจที่เป็นหนึ่งเดียว

ชุดที่ 3 "ทุ่งนาสีทอง" แสดงถึงชนชาติลาวที่ได้มาตั้งถิ่นฐาน แล้วเริ่มเรียนรู้การปลูกข้าว ชีวิตความเป็นอยู่ในชนบท และอารยธรรมต่างๆ

ชุดที่ 4 "แสงเทียน แสงธรรม" สื่อให้เห็นว่าหลังจากชนชาติลาวได้เรียนรู้การปลูกข้าวแล้ว ก็เริ่มเรียนรู้อารยธรรมต่างๆ ซึ่งมีการกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ชาวลาวพร้อมใจกันลุกขึ้นสู้เมื่อถูกรุกรานจากชาติอื่นด้วย

ชุดที่ 5 "สินไซแห่งยุคสมัย" เป็นการเล่าเรื่องราวของ ??สินไซ?? จากนิทานพื้นบ้านของประเทศลาว ที่ทุกคนต่างทราบกันดีถึงความสามารถ ความเก่งกาจของสินไซ ซึ่งมีอิทธิฤทธิ์อภินิหารผู้นี้

ชุดที่ 6 "อนาคตสดใส" สื่อถึงความมุ่งมาดปรารถนาของประชาชนชาวลาวที่ต้องการนำพาประเทศก้าวไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองเคียงข้างนานาชาติ

ชุดที่ 7 "ใจ ประสานใจ" เป็นการร้องเพลงประสานเสียงที่แสดงถึงความรัก ความสามัคคีของชนชาติในอาเซียนที่มุ่งมั่นร่วมมือกันพัฒนาชาติให้เจริญรุ่งเรืองเคียงคู่กันตลอดไป

ทั้งหมดนี้ใช้เวลาในการแสดงรวม 2 ชั่วโมงครึ่ง ตั้งแต่เวลา 18.00-20.30 น. โดยบัตรเข้าชมพิธีเปิดซึ่งเป็นราคาที่รวมพิธีปิดด้วยนั้นได้จำหน่ายหมดในทุกราคาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นราคาสูงสุด 500,000 กีบ (2,000 บาท), 400,000 กีบ (1,600 บาท), 300,000 กีบ (1,200 บาท) และ 200,000 กีบ (800 บาท)

ส่วนซีเกมส์ครั้งนี้จะสร้างความประทับใจได้มากน้อยเพียงใด และคุ้มค่ากับการรอคอยหรือไม่นั้น

...รองนายกฯสมสะหวาดบอกสั้นๆ แต่ได้ใจความว่า "ซีเกมส์ครั้งนี้จะเป็นครั้งสำคัญที่ทำให้ทุกคนได้เห็นถึงพัฒนาการของชาติลาวจากเมื่อ 34 ปีที่แล้วแน่นอน"

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์