ปีนบันไดสู้

"แมนฯซิตี้" สร้างมาตรฐานให้ตัวเองตั้งแต่เปลี่ยนเจ้าของใหม่ ยกเครื่องทีมใหม่กลายเป็น "นิว ซิตี้" ที่ใครๆ อิจฉาในความรวย

แต่ได้ความเป็น "นิว ซิตี้" ที่ว่านับวันก็ยิ่งกลายเป็นความกดดัน และทำท่าว่า "มาร์ค ฮิวจ์ส" กับลูกน้อยจะเอาไม่อยู่

ผมเชื่อนะครับว่า "เรือใบสีฟ้า" น่าจะได้แชมป์ "คาร์ลิ่งคัพ" เป็นอย่างน้อย แต่ตรงนี้ก็จะเหมือนกรณี"ลิเวอร์พูล" ซึ่งถ้าคว้าแชมป์"ยูโรป้าลีก"มาแฟนบอลก็คงเฉยๆ ไม่ภูมิใจเท่าไหร่ เพราะเห็นเป็นถ้วยน้ำจิ้ม เอาไว้แก้อายดีกว่าจบมือเปล่านิดเดียว

แน่นอนว่าแชมเปี้ยนทุกทีมย่อมมีจุดเริ่มต้น แต่เศรษฐีใหม่อย่างแมนฯซิตี้ ควรออกสตาร์ตด้วยการติดท็อปโฟร์ และตบด้วยแชมป์เอฟเอคัพ อะไรประมาณนั้นมากกว่า

ถ้าวัดกันจากฟอร์มล่าสุด สองเรื่องนี้ไม่ง่ายทั้งคู่

เรือใบเสมอในลีกมา 7 นัดติดต่อกัน ทิ้งแต้มให้ทีมเล็กๆ อย่าง" ฮัลล์, เบิร์นลี่"แบบน่าเบิร์ดกะโหลก แมนฯซิตี้ ดูเผินๆ เหมือนจะดี แต่การขาดมิดฟิลด์ที่คุมเกมเก่งๆ จ่ายบอลคมๆ ทำให้กองกลางบงการจังหวะการเล่นไม่ค่อยอยู่ ที่ว่าเล่นดีจึงดีเป็นพักๆ แถมบทจะเสีย ยิ่งเสียง่ายซะอีก

ความไม่หนักแน่นของซิตี้ น่าจะเป็นปัญหาพอสมควร เมื่อเจอกับจ่าฝูง "เชลซี" วันเสาร์นี้

อะไรที่เป็นจุดเปราะของแมนฯซิตี้ ดันกลายเป็นจุดแข็งของเชลซีน่ะสิครับ สิงโตน้ำเงินคราม เล่นบอลยังกะเครื่องจักร เปิดสวิตช์ปุ๊บเครื่องทำงาน ราบเรียบ สม่ำเสมอตั้งแต่ต้นจนจบ ครองบอลเหนียวแน่น เวลากดดันคู่แข่งก็เอาถึงตาย ขย่มได้เป็นชุดใหญ่ ทีมไหนสมาธิไม่ดี มีแต่หงายท้องลูกเดียว บอลคู่นี้วัดกันตัว-ตัว แมนฯซิตี้ สู้ได้ในบางตำแหน่ง แต่ดูรวมๆ แล้วยังเป็นรองอยู่ เรื่องที่เชลซีเพิ่งแพ้ลูกโทษแบล๊คเบิร์น ตกรอบคาร์ลิ่งคัพ คงเอามาวัดไม่ได้ เพราะพักตัวหลักไว้หลายคน แถมกุนซือ "อันเชล็อตติ" ดันชะล่าใจเปลี่ยนตัวพลาดจนต้องเล่น 10 คน เกือบชั่วโมง อะไรๆ ก็เลยพลิกโผไปหมด

เชลซีในวันเสาร์จะกลับมาแน่นปึ้กเหมือนเดิม ถ้าแมนฯซิตี้ หวังจะมีแต้มก็ต้องปีนบันได ขึ้นไปหา และต้องไม่ทำอะไรผิดพลาดเลย

นั่นเป็นเงื่อนไขเดียวกับที่ขุนค้อน "เวสต์แฮม" จำเป็นต้องมี ในการปะทะ "แมนฯยูไนเต็ด" วันเดียวกัน

ผมเห็นปีศาจแดง วันบุกถล่มปอร์ตสมัธแล้ว ยกนิ้วให้เลยว่ายอด ถึงจะไม่เด่นเท่าเชลซี แต่แมนฯยู ปีนี้ก็ยังเขี้ยวลาก เป็นเพชฌฆาตเลือดเย็นเหมือนเดิม นอกจากนิ่งและเด็ดขาด ทีมของ"เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน" ยังมีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งเป็นมาตรฐานทำให้ทีมรองๆ พลิกล็อคลำบาก

ยิ่งเวสต์แฮมหลังรั่ว 2 นัดแล้ว เสียรวมถึง 6 ประตู โอกาสก็ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่

โปรแกรมพรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 5 ธ.ค. ปอร์ทสมัธ-เบิร์นลีย์, อาร์เซน่อล-สโต๊ก, แอสตัน วิลล่า-ฮัลล์, แบล๊คเบิร์น-ลิเวอร์พูล, เวสต์แฮม-แมนฯยู, วีแกน-เบอร์มิงแฮม, วูล์ฟแฮมป์ตัน-โบลตัน, แมนฯซิตี้-เชลซี วันอาทิตย์ที่ 6 ธ.ค. ฟูแล่ม-ซันเดอร์แลนด์, เอฟเวอร์ตัน-สเปอร์ส

โปรแกรมถ่ายทอดสดทางทรูวิชั่นส์

คืนวันเสาร์ที่ 5 ธ.ค. เวลา 19.45 น. ปอร์ทสมัธ-เบิร์นลีย์ (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59, คลับเอ็ม ช่อง 106, คลับซี ช่อง 109) เวลา 22.00 น. อาร์เซน่อล-สโต๊ก (ทรูสปอร์ต 5 ช่อง 63, คลับเอ ช่อง 110), แบล๊คเบิร์น-ลิเวอร์พูล (ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61, คลับแอล ช่อง 107), เวสต์แฮม-แมนฯยู (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59, คลับเอ็ม ช่อง 106), วีแกน-เบอร์มิงแฮม (ทรูสปอร์ต เอ็กซ์ตร้า 2 ช่อง 67), วูล์ฟแฮมป์ตัน-โบลตัน (ทรูวิชั่นส์ 99 ช่อง 99) เวลา 24.00 น. เซบีญ่า-บายาโดลิด (ทรูสปอร์ต เอ็กซ์ตร้า 2 ช่อง 67) เวลา 00.30 น. แมนฯซิตี้-เชลซี (ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61, คลับซี ช่อง 109) เวลา 02.00 น. รีล มาดริด-อัลเมเรีย (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59) เวลา 02.45 น. ยูเวนตุส-อินเตอร์(ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61) เวลา 04.00 น. คอรุนญ่า-บาร์เซโลน่า (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59)

คืนวันอาทิตย์ที่ 6 ธ.ค. เวลา 22.00 น. ฟูแล่ม-ซันเดอร์แลนด์ (ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61, คลับแอล ช่อง 107) เวลา 23.00 น. เอฟเวอร์ตัน-สเปอร์ส (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59, คลับเอ็ม ช่อง 106, คลับเอ ช่อง 110), เอฟเวอร์ตัน-สเปอร์ส (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59, คลับเอ็ม ช่อง 106, คลับเอ ช่อง 110) เวลา 02.45 น. โรม่า-ลาซิโอ (ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61) เวลา 03.00 น. บิลเบา-บาเลนเซีย (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59)

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์