ท็อป 10 ดาวดังที่ไม่เคยสัมผัสบัลลง ดอร์

ใกล้เข้าไปทุกขณะแล้วสำหรับการประกาศผลรางวัล บัลลง ดอร์ หรือ รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลก ของนิตยสาร ฟร้องซ์ ฟุตบอล ที่จะทราบผลกันในวันที่ 1 ธันวาคมนี้

ทุกปีที่มีการประกาศรางวัล ก็มักมีดาวดังหลายคนต้องผิดหวัง ยิ่งมีการเปลี่ยนกฎในปี 1995 ที่ไม่ได้จำกัดรางวัลเฉพาะนักเตะในยุโรปเท่านั้น ก็ทำให้มีแข้งดังหลายคนต้องพลาดหวังจากรางวัลนี้ แม้จะโชว์ฟอร์มดีก็ตามที

เว็บไซต์ "โกล ดอต คอม" จึงถือโอกาสจัดอันดับท็อป 10 ดาวดังที่ไม่เคยสัมผัส "บัลลง ดอร์" นับตั้งแต่ที่มีการเปลี่ยนกฎดังกล่าวมาเรียกน้ำย่อยกันก่อนจะมีการประกาศผลกันจริงๆ ในสัปดาห์หน้า ไว้ดังนี้

อันดับ 10 : ดาวอร์ ซูเคอร์

ดาวยิงโครเอเชียสมควรได้รับรางวัลนี้ในปี 1996 และ 1998 จากผลงานที่ยิงประตูช่วยให้ทีมชาติผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ฟุตบอลยูโร 96 และรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 98 แต่ก็ชวดรางวัลทั้ง 2 ปี โดยโอกาสใกล้เคียงที่สุดคือปี 1998 ที่ได้แค่อันดับ 2 รองจาก โรนัลโด้

อันดับ 9 : ปีเตอร์ ชไมเคิล

แม้ว่าปี 1999 รางวัลบัลลง ดอร์ จะเป็นของ ริวัลโด้ แต่หลายคนมองว่า ปีเตอร์ ชไมเคิล คู่ควรกับรางวัลดังกล่าวมากกว่า เพราะเป็นกำลังสำคัญช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และปีเดียวกันนี้เองยังช่วยให้เดนมาร์กคว้าแชมป์ยูโร 92 อย่างพลิกความคาดหมายด้วย แต่สุดท้ายก็ไม่มีชื่อติดอยู่ใน 3 อันดับแรก ทั้งที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในยุค 1990

อันดับ 8 : ราอูล กอนซาเลซ

ราอูล กอนซาเลซ ถือเป็นนักเตะที่มีบทบาทสำคัญกับรีล มาดริด รวมถึงเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติสเปน, ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของลาลีก้า และได้รับเลือกให้เป็นกองหน้ายอดเยี่ยมแห่งปีของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป(ยูฟ่า) 3 สมัยซ้อน ในปี 2000, 2001 และ 2002 ด้วย แต่สุดท้ายก็ถูก ไมเคิล โอเว่น ดาวยิงลิเวอร์พูล (ณ ตอนนั้น) แซงหน้าคว้ารางวัลไปครองในปี 2001

อันดับ 7 : โอลิเวอร์ คาห์น

ตำนานบาเยิร์น มิวนิก เฝ้าเสาให้ทีมชาติเยอรมนี 86 นัด และโชว์ฟอร์มโดดเด่นในฟุตบอลโลก ปี 2002 โดยเกือบนำทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ อีกทั้งเคยคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของโลกจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) มาแล้ว แต่โอกาสใกล้เคียงที่สุดสำหรับบัลลง ดอร์ คือ อันดับ 3 ในปี 2001 และ 2002

อันดับ 6 : อเลสซานโดร เนสต้า

อเลสซานโดร เนสต้า สุดยอดกองหลังธรรมชาติที่ประสบความสำเร็จมาทุกระดับ โดยเฉพาะการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย ร่วมกับเอซี มิลาน ในปี 2003 และ 2007 แต่พอถึงคราวประกาศรางวัลทีไร ชื่อของเนสต้าไม่เคยติดอยู่ใน 3 อันดับแรกเลย

อันดับ 5 : ลิลิยอง ตูราม

กองหลังทีมชาติฝรั่งเศสครบเครื่องทั้งเรื่องความเร็ว, ความแข็งแกร่ง, แท็คติคอันชาญฉลาด, การเข้าสกัดอันยอดเยี่ยม และยังเป็นผู้นำตัวจริง โดยผลงานที่ผ่านมาคว้าแชมป์มามากมายทั้งกับยูเวนตุส และทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งรวมถึงแชมป์ยูโร 2000 ด้วย แต่ก็ยังไม่ดีพอจะมีชื่อติดโผรางวัลใน 3 อันดับแรก

อันดับ 4 : คาฟู

คาฟู ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นปีกขวาที่ดีที่สุดในโลกในรอบ 10 ปีหลัง ติดทีมชาติทั้งสิ้น 142 นัด และได้สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมชาติบราซิลในปี 2002 ที่ทีมคว้าแชมป์ด้วย โดยเป็นนักเตะที่ได้ลงสนามมากที่สุดของแซมบ้า ซึ่งรวมถึงฟุตบอลโลกปี 1994 ที่ทีมคว้าแชมป์ด้วย แต่ก็ไม่เคยได้รับรางวัลบัลลัง ดอร์ แม้แต่ครั้งเดียว

อันดับ 3 : จานลุยจิ บุฟฟ่อน

จานลุยจิ บุฟฟ่อน กลายเป็นผู้รักษาประตูที่มีค่าตัวสูงสุดที่ในโลกในปี 2001 หลังย้ายจากปาร์ม่าไปเฝ้าเสาให้ยูเวนตุส ด้วยค่าตัว 52 ล้านยูโร ก่อนจะตอบแทนต้นสังกัดช่วยทีมคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรียอา 4 สมัย และนำทีมชาติอิตาลีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ปี 2006 โดยเป็นนายทวารที่มีความครบเครื่องเกือบทุกด้าน ยกเว้นการเซฟลูกโทษที่เป็นจุดอ่อนเดียวของตัวเอง ทำให้บุฟฟ่อนไปได้ไกลที่สุดแค่อันดับ 2 เท่านั้นในปี 2006

อันดับ 2 : เธียร์รี่ อองรี

ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของอาร์เซน่อลและทีมชาติฝรั่งเศส ได้รับการยกย่องให้เป็นกองหน้าที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของอาร์เซน่อลและฝรั่งเศส ทำผลงานยิง 226 ประตู จาก 370 นัดที่ลงสนามให้อาร์เซน่อล โดยช่วยให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 2 สมัย ครั้นมาร่วมทีมบาร์เซโลน่าก็ประสบความสำเร็จในฤดูกาลที่สองของตัวเอง ด้วยการคว้า 3 แชมป์สำคัญ (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, ลาลีก้า,สแปนิช คิงส์คัพ) นอกจากนี้ยังโชว์ฟอร์มโดดเด่นในยูโร 2000 ที่ฝรั่งเศสได้แชมป์ด้วย แต่อองรีก็ไม่เคยได้สัมผัสรางวัลบัลลง ดอร์ เลยสักครั้ง

อันดับ 1 : เปาโล มัลดินี่

เปาโล มัลดินี่ รับใช้เพียงแค่ทีมเอซี มิลาน สโมสรเดียวตลอดอาชีพการค้าแข้ง จึงทำสถิติเล่นให้ทีมชุดแรกของมิลานมายาวนาน 25 ปี ก่อนจะประสบความสำเร็จร่วมกับต้นสังกัด คว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรียอา 7 สมัย, อิตาเลียนคัพ 1 สมัย, อิตาเลียน ซุปเปอร์คัพ 1 สมัย, ยูโรเปี้ยน ซุปเปอร์คัพ 5 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 5 สมัย, อินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ 2 สมัย และ ฟีฟ่า เวิลด์ คลับคัพ 1 สมัย แต่ไม่น่าเชื่อว่ามัลดินี่ไม่เคยคว้าบัลลังดอร์เลย โดยเข้าใกล้รางวัลนี้มากที่สุดเพียงแค่อันดับ 3 ในปี 1994 และ 2003