วิกฤตลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูล กำลังโคม่า ไม่ว่ามองจากผลงานที่แพ้มา 4 นัดติด นักเตะตัวหลักทั้งเจ็บและฟอร์มตก หรือภาวะหนี้ท่วม ซึ่งเล่นเอานายทุนที่สนใจจะเทกโอเวอร์กลับหันหลังแทบไม่ทัน

สภาพแบบนี้ไม่เหมาะจะลงเล่นเกมใหญ่กับ แมนฯยูไนเต็ด ด้วยประการทั้งปวง

หงส์แดงเต็มไปด้วยปัญหา จิ้มตรงไหน เจอตรงนั้น นอกจากปวดหัวเรื่องตัวเจ็บเยอะกับฟอร์มไม่ดี ยังมีห่วงตรงความมั่นใจของนักเตะ ที่เสียหายแน่จากช่วงตกต่ำที่สุดในรอบ 22 ปีของสโมสร

อย่าลืมว่า ตั้งแต่ปล่อย ซาบี้ อลองโซ่ ให้รีล มาดริด กุนซือราฟา เบนิเตซ ไม่เคยอุดช่องว่างได้เลย พอแก้ไม่ตกตัวที่เล่นอยู่ก็เบื่อ และเริ่มไม่เชื่อในศักยภาพของทีม

ผมไม่ค่อยห่วง เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่เป็นคนเฉยๆ ไม่สวิงสวาย แต่กับ ฮาเวียร์ มาสเชราโน่ ซึ่งต้องทำงานหนัก รับผิดชอบแดนกลางเยอะเกินไป ย่อมมีสิทธิคิดมาก และไม่ค่อยมีความสุขเป็นธรรมดา

ลิเวอร์พูลกองกลางไม่ดี กองหลังรั่ว กองหน้าก็หาตัวช่วยตอร์เรสไม่ได้ เห็นแล้วมันน่าอึดอัดไหมล่ะครับ

ไม่แปลกที่บรรยากาศในทีมจะอึมครึม ซีเรียส เหมือนพร้อมจะแตกหักตลอดเวลา

เป็นซะแบบนี้จึงไม่แปลกอีกเหมือนกันที่ ราฟา เบนิเตซ โดนทั้งสื่อ ทั้งแฟนๆ บางส่วนกดดันให้ลาออกไปซะ

ผมเองเคยข้องใจกับงานของราฟาหลายหน แต่วิกฤตคราวนี้จะไปโทษเขาทั้งหมดมันก็ไม่แฟร์

ถ้ามองด้วยเหตุผลและพยายามเข้าใจ ราฟาก็จัดทีมได้แค่นี้แหละ ขายอลองโซ่ไปใจมันก็รู้ว่าเรื่องใหญ่ แต่ตัวแทนคือ อัลแบร์โต้ อควิลานี่ ดันเจ็บพักยาว ต้องอดทนรอ เรื่องกองหน้าที่มีหลักแค่ตอร์เรสคนเดียวก็จนปัญญาเพราะไม่มีเงินซื้อตัวเก่งๆ เพิ่ม

หรือการพยายามดัน สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ขึ้นไปสูงแล้วผลยังไม่น่าพอใจ ก็ไม่ใช่จะแก้ง่ายๆ ความเป็นซุปเปอร์สตาร์ของสตีวี่ จี มันค้ำคอน่ะครับ จะคุย จะด่าอะไรก็ทำไม่ได้มากเหมือนคนอื่น

ราฟา เบนิเตซ จึงต้องค่อยๆ ประคับประคอง ค่อยๆ แก้ปัญหาอย่างระมัดระวัง ทีละจุดและหลายเรื่องต้องใช้เวลา

บิ๊กแมตช์กับแมนฯยูไนเต็ดวันอาทิตย์ ไม่มีทางได้เห็นลิเวอร์พูลในสภาพที่ดีที่สุด แม้ว่าตอร์เรสกับ เกล็น จอห์นสัน น่าจะฟิตกลับมาทันแต่คงไม่มีเจอร์ราร์ด เจมี่ คาร์ราเกอร์ ก็ไม่ชัวร์ว่าจะเข้าฟอร์มเมื่อไหร่

หงส์แดงจะเล่นแบบแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อย่างน้อยก็ยังดีที่เล่นในบ้าน ซึ่งถ้าเดอะค็อปรวมพลังกันอุ้มสุดสุด อาจปลุกทีมสปิริตและยกระดับเกมขึ้นมาได้เหมือนกัน

แมตช์นี้ถูกมองว่าเป็นนัดชี้ชะตาลิเวอร์พูล ถ้าพลิกชนะก็จะเป็นจุดเปลี่ยนให้คัมแบ๊ค แต่หากแพ้เผลอๆ ราฟา เบนิเตซ อาจตกงานเอาด้วยซ้ำ

ยังไงก็เถอะ, ผมว่าจะตัดสินหงส์แดงชุดนี้จริงๆ น่าจะรอดูไปซักเดือน ธันวา-มกรา มากกว่า

ถึง (อาจจะ) ไม่ชนะแมนฯยู แต่เมื่ออควิลานี่เล่นได้และตอร์เรสไม่ช้ำเกินไป มันก็ไม่น่าจะหมดหวังง่ายๆ หรอก

โปรแกรมแข่งฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 24 ต.ค. วูล์ฟส-แอสตัน วิลล่า, เบอร์มิงแฮม-ซันเดอร์แลนด์, เบิร์นลีย์-วีแกน, ฮัลล์-ปอร์ทสมัธ, สเปอร์ส-สโต๊ก, เชลซี-แบล๊คเบิร์น

วันอาทิตย์ที่ 25 ต.ค. โบลตัน-เอฟเวอร์ตัน, ลิเวอร์พูล-แมนฯยู, แมนฯซิตี้-ฟูแล่ม, เวสต์แฮม-อาร์เซน่อล

โปรแกรมถ่ายทอดสดทางทรูวิชั่นส์

คืนวันเสาร์ที่ 24 ต.ค. เวลา 18.45 น. วูล์ฟส-แอสตัน วิลล่า(ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59, คลับซี ช่อง 109) เวลา 21.00 น. เบอร์มิงแฮม-ซันเดอร์แลนด์(ทรูสปอร์ต 5 ช่อง 63), เบิร์นลีย์-วีแกน(ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61, คลับแอล ช่อง 107), ฮัลล์-ปอร์ทสมัธ(ทรูสปอร์ต เอ็กตร้า 1 ช่อง 66, คลับเอ ช่อง 110, คลับซี ช่อง 109), สเปอร์ส-สโต๊ก(ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59, คลับเอ็ม ช่อง 106) เวลา 23.30 น. เชลซี-แบล๊คเบิร์น(ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61, คลับซี ช่อง 109) เวลา 01.00 น. สปอร์ติ้ง-รีล มาดริด(ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59) เวลา 01.45 น. อินเตอร์-คาตาเนีย(ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61) เวลา 03.00 น. เซบีญ่า-เอสปันญ่อล(ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59)

คืนวันอาทิตย์ที่ 25 ต.ค. เวลา 20.30 น. โบลตัน-เอฟเวอร์ตัน(ทรูสปอร์ต 5 ช่อง 63, คลับเอ ช่อง 110), เวลา 21.00 น. ลิเวอร์พูล-แมนฯยู(ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59) ฟิออเรนติน่า-นาโปลี(ทรูสปอร์ต 4 ช่อง 62) โรม่า-ลิวอร์โน่(ทรูสปอร์ต เอ็กตร้า 2 ช่อง 67) เวลา 22.00 น. แมนฯซิตี้-ฟูแล่ม(ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61, คลับซี ช่อง 109, คลับแอล ช่อง 107) เวลา 23.15 น. เวสต์แฮม-อาร์เซน่อล(ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61, คลับเอ ช่อง 110)