เมืองทองยิ่งหย่ายยยยย

เมืองทองเถลิงแชมป์

เมืองทองฯ สร้างผลงานกระหึ่ม!! ผงาดคว้าแชมป์ลูกหนัง ไทยพรีเมียร์ลีก สมัยแรกมาครองยิ่งใหญ่ เปิดบ้านบดชนะ พลังเอ็ม โอสถสภา เอ็ม 150-สระบุรี ดุเดือด 2-1 จากสองประตูของ ซูมาโฮโร่ ยาย่า นำทีมสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ในปีเดียว และติดต่อกัน 3 ปี เริ่มจากแชมป์ ด.2, ด.1 และไทยลีก 2009


การแข่งขันฟุตบอล ไทยพรีเมียร์ลีก 2009 เลกสอง นัดรองสุดท้ายของฤดูกาล เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม 2552 ที่ผ่านมา ลงสนามครบ 8 คู่ จาก 8 สนาม ซึ่งคู่ไฮไลต์เป็นเกมระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ โอสถสภา เอ็ม 150-สระบุรี ซึ่งมีการถ่ายทอดสดผ่าน สยามกีฬาทีวี NBT 19
   

เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 2 - 1 โอสถสภา เอ็ม 150-สระบุรี 

ที่สนามธันเดอร์โดมฯ เมืองทอง เจ้าบ้าน กิเลนผยอง เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงที่มี 59 คะแนน เปิดสนามต้อนรับการมาเยือนของ พลังเอ็ม โอสถสภา เอ็ม 150-สระบุรี ทีมอันดับ 5 ที่มี 47 คะแนน นัดนี้ถ้า เมืองทองฯ ชนะจะคว้าแชมป์ไทยลีก 2009 ทันที โดยไม่ต้องลุ้นถึงนัดสุดท้าย เพราะเฮดทูเฮดทีม กิเลนผยอง ดีกว่า ชลบุรี รองจ่าฝูงที่มีแต้มหลังอยู่ 3 คะแนน
 

เกมนี้ โค้ชแต๊ก อรรถพล บุษปาคม กุนซือใหญ่ เมืองทองฯ ไม่มีปัญหาในการจัดทัพ เมื่อสามารถส่งนักเตะชุดที่ดีที่สุดลงสนามนำโดย กวิน ธรรมสัจจานันท์ นายทวารมือกาวดาวรุ่ง พร้อมด้วย ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์, เจษฎา จิตสวัสดิ์ สองเซนเตอร์ฮาล์ฟตัวเก่ง มี พิชิตพงษ์ เฉยฉิว คุมแดนกลาง ขณะที่สามแนวรุกยังเป็น ธีรเทพ วิโนทัย, ธีรศิลป์ แดงดา และ ซูมาโฮโร่ ยาย่า
 

ฝั่ง ขงเบ้งลูกหนัง อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ กุนซือใหญ่ พลังเอ็ม พักตัวหลักบางราย อย่าง คัฟฟ้า บุญมาตุ่น, สุรเดช ธงชัย, ไพฑูรย์ เทียบมา และ ประทุม ชูทอง ไว้ลุยศึกมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ รอบรองฯ กับ การท่าเรือไทย ขณะที่ โจ้ 5 หลา ศรายุทธ ชัยคำดี ดาวยิงตัวเก่งติดโทษแบน แต่ยังมี จักรกริช บุญคำ และ อีวาน เมนซ่า ลงบู๊
 

เปิดฉากครึ่งแรก เมืองทองฯ เป็นฝ่ายเขี่ยเริ่มเกมก่อน แต่ต้องถอยรนลงไปตั้งรับ เพราะ โอสถสภา เพรสซิ่งเร็วแย่งบอลแล้วเดินเกมบุกเข้าใส่ชนิดไม่กลัวศักดิ์ศรีเจ้าถิ่น
 

น.5 ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ หยอดบอลจากกลางสนามเข้าเขตโทษให้ ธีรเทพ สปีดเข้าหาบอล แต่ไปปะทะกับ ฉัตรชัย บุตรพรม นายทวารทีมเยือนล้มลงไปทั้งคู่ ต้องให้ทีมแพทย์ลงมาปฐมพยาบาลก่อนที่จะลุกขึ้นมาเล่นได้ไม่มีปัญหา
 

ถัดมา 4 นาที โอสถสภา เกือบช็อกแฟนเจ้าถิ่น เมื่อ เมนซ่า แปะบอลตั้งให้ จักรกริช บุญคำ ตั้งป้อมกดด้วยเท้าซ้ายกว่า 30 หลาบอลพุ่งจะเสียบใต้คาน แต่ กวิน โชว์ซูเปอร์เซฟบินปัดออกหลังปลายมือ
 

ทว่า น.12 สาวกกิเลนผยองได้เฮกันลั่น จากจังหวะที่ พิชิตพงษ์ ทำชิ่งกับ ธีรศิลป์ กลางประตูหน้าเขตโทษ เจ้ามุ้ย จับบอลทะลัก แต่กองหลังทีมเยือนก็เสียจังหวะไปด้วย โดน ยาย่า หุบจากซ้ายเข้ามาฉกบอลไปยิงด้วยเท้าขวาแถวจุดโทษ แม้จะโดนไม่เต็มแต่บอลยังผ่าน ฉัตรชัย เข้าซุกตาข่าย เมืองทองฯ นำ 1-0
 

น.20 โอสถสภา มีลุ้นตีเสมอ จากจังหวะที่ สุมัญญา ลากลุยตัดจากขวาเข้ามาหน้าเขตโทษ โดนกองหลังเมืองทองฯ ขวาง ต้องวนหนึ่งรอบก่อนจะอัดด้วยขวา แต่ว่าเบาเกินไป กวิน ทิ้งตัวตะครุบเข้ามือ
 

จากนั้น 3 นาทีเป็นโอกาสของ เมืองทองฯ จากลูกฟรีคิกระยะ 30 กว่าหลา ปิยะชาติ ถามะพันธ์ ลองปั่นแรงด้วยเท้าซ้ายแต่ว่าบอลโค้งข้ามคานไปไกล
 

ถัดมา 5 นาที ปิยะชาติ ถามะพันธ์ จอมปั่นฟรีคิกของเจ้าถิ่นมีลุ้นอีกครั้ง คราวนี้ ปิยะชาติ อัดด้วยเท้าซ้ายผ่านกำแพงแต่บอลพุ่งหลุดเสาแรกออกหลังนิดเดียว น.35 เมืองทองฯ ได้ฟรีคิกริมเส้นฝั่งขวา ปิยะชาติ ครอสเข้าไปหน้าประตู แต่ ฉัตรชัย ออกมาคว้าติดมือ
 

ทว่า น.36 กลายเป็น โอสถสภา ที่พังประตูตีเสมอ 1-1 อีวาน เมนซ่า ตักจากริมเส้นเขตโทษทางขวาเข้ากลางให้ จักรกริช บุญคำ กระโดดแปด้วยซ้ายบอลพุ่งชนสามเหลี่ยมกระดอนออกมาเข้าเท้า ปิยะชาติ ไม่สกัดจังหวะแรก ทำบอลหลุดเข้าทางปืน จักรกริช แปเหน่งๆ ผ่าน กวิน ตุงตาข่าย
 

น.42 เมืองทองฯ เร่งเครื่องอีกครั้ง ปิยะชาติ เปิดมุมจากขวามาหน้าประตู กองหลังโอสถสภาฯ โหม่งสกัดออกมาเข้าทาง ปิยะชาติ ตั้งป้อมโยนเข้ามาหน้าประตูอีกครั้ง คราวนี้ ดานโก้ เซียก้า เบียดขึ้นโขกข้ามคาน
 

ช่วงท้ายครึ่งแรก กิเลนผยอง พยายามบุกแต่ยังเจาะแนวรับ โอสถสภา ไม่เข้า จบ 45 นาทีแรกเสมอกันไปแบบสนุก 1-1



กลับมาครึ่งหลัง เมืองทองฯ บุกเข้าใส่ทันที แค่นาทีแรกมีลุ้นจากลูกยิงไกลของ ซีล่า มูซ่า แตะหาจังหวะก่อนจะหวดด้วยเท้าขวากลางสนามบอลพุ่งแรงข้ามคานออกหลัง ถัดมา 4 นาที โอสถฯ ถอด จักรกริช บุญคำ ออกแล้วส่ง อนิรุตน์ สืบยิ้ม ลงไปแทน
 

น.52 เจ้าบ้านได้ฟรีคิกริมเส้นทางซ้าย พิชิตพงษ์ ลักไก่ยิงกะให้เสียบสามเหลี่ยมเสาแรก แต่ ฉัตรชัย ไม่พลาดปัดทิ้งออกหลัง จากนั้น เมืองทองฯ ถอดเอา ธีรเทพ วิโนทัย ออก แล้วส่ง วิศรุต พันนาสี ลงไปกระชากแทน
 

ถัดมา 5 นาที สุมัญญา ของทีมเยือนส่องไปเข้าซอง กวิน ซึ่งเจ้าถิ่นสวนเร็วขึ้นมา ดานโก้ เซียก้า หาจังหวะปั่นด้วยเท้าขวาหน้าเขตโทษ โดน ฉัตรชัย ตะครุบเข้าซอง
 

น.61 เมืองทองฯ บุกกดดันอีกครั้ง คราวนี้ ปิยะชาติ ลากลุยขึ้นมาก่อนจะโดนทำฟาวล์ได้ฟรีคิกกลางประตูระยะ 30 หลา พิชิตพงษ์ ขันอาสาซัดฟรีคิกโค้งด้วยเท้าขวาข้ามกำแพงไปแล้ว แต่ ฉัตรชัย ไม่พลาดรับเข้าซองสบาย
 

กิเลนผยอง เดินเครื่องรุกเต็มสูบ น.63 ซูมาโฮโร่ ยาย่า ลากจี้เข้าเขตโทษทางขวาหนี พยุงศักดิ์ ไปถึงเส้นหลัง ตักด้วยเท้าขวามาเสาสอง ดานโก้ เซียก้า พักอกลงวอลเลย์ด้วยเท้าขวาไปตรงตัว ฉัตรชัย อีกครั้ง
 

น.70 โอสถสภา ตอบโต้ได้น่ากลัว อีวาน เมนซ่า ไหลจากซ้ายเข้ากลางให้ อนิรุตน์ สืบยิ้ม แต่งหาจังหวะสับไกด้วยเท้าขวาหลุดกรอบออกหลัง ถัดมานาทีเดียว อนิรุตน์ ตัวสำรองทีมเยือนโดนเหลืองรายแรกของเกมหลังไปยกเท้าสูงใส่ กวิน
 

น.72 โอสถสภา ส่ง ไพฑูรย์ เทียบมา ลงสนามมาแทน อีวาน เมนซ่า แต่ถัดมานาทีเดียวเป็นจังหวะลุ้นของ เมืองทองฯ จากลูกเตะมุมทางซ้ายที่ พิชิตพงษ์ เปิดมาเสาแรกบอลแฉลบมาถึง ธีรศิลป์ ได้โขกหน้าประตูแต่ถล้ำไปทำให้โหม่งหลุดเสาสองออกไป
 

ถัดมา 6 นาที เมืองทองฯ ชวดขึ้นนำแบบน่าเสียดาย จังหวะที่ ซูมาโฮโร่ ยาย่า เปิดยัดด้วยเท้าขวามาหน้าประตู กองหลังทีมเยือนสกัดไม่ขาดบอลทะลักลอยโด่งหน้าประตู ธีรศิลป์ ยืนพิงกองหลังทีมเยือน ก่อนตีลังกายิงสุดสวยผ่าน ฉัตรชัย เข้าไป แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตู เป่าฟาวล์ว่า ธีรศิลป์ ยกเท้าสูง
 

จากนั้น ปิยะชาติ ถามะพันธ์ แบ็คซ้ายเจ้าถิ่นลองส่องไกลด้วยเท้าซ้ายบอลพุ่งแบบหวาดเสียวหลุดกรอบออกหลังไป เมืองทองฯ บี้หนัก น.83 จากลูกเตะมุม บอลชุลมุน ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ หวดด้วยเท้าซ้ายติดบล็อกกองหลังทีมเยือน
 

ช่วงนาทีสุดท้าย เมืองทองฯ มาได้ลุ้นอีกครั้ง จากลูกยิงหน้ากรอบเขตโทษของ ธีรศิลป์ แดงดา ที่ซัดด้วยเท้าขวาบดเรียดหลุดเสาสองออกหลัง ถัดมาเจ้าถิ่นได้เตะมุมทางซ้าย วิศรุต เปิดมาเสาแรก พิชิตพงษ์ โขกเข้าซอง ฉัตรชัย
 

ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 2 เมืองทองฯ มาได้ประตูนำอย่างเหลือเชื่อ จากลูกเก็บตกในเขตโทษทางขวาของ ซูมาโฮโร่ ยาย่า ที่ไม่ยิงจัวหวะแรกล็อคด้วยเท้าขวาหลอก ทั้ง พยุงศักดิ์ และ ฉัตรชัย ที่ผวามาบล็อกจนหลังหัก ก่อนแปเบาๆ ด้วยซ้ายเข้าเสาแรกสุดสวย กิเลนผยอง ทะยานขึ้นนำ 2-1
 

เวลาที่เหลือ โอสถสภา พยายามฮึดสู้สุดฤทธิ์เปิดเกมบุกเข้าใส่ แต่ไม่เป็นผลจบเกม เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เปิดรังเฉือนชนะ โอสถสภา เอ็ม 150-สระบุรี สนุก 2-1 เก็บสามแต้มเพิ่มเป็น 62 คะแนน ผงาดคว้าแชมป์ไทยลีกมาครองสมัยแรก และเป็นแชมป์ประวัติศาสตร์ ทีมแรกที่ขึ้นมาเล่นไทยลีกแล้วคว้าแชมป์ภายในปีเดียว นอกจากนี้ยังสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ติดต่อกัน 3 ปีด้วย เริ่มจากแชมป์ดิวิชั่น 2 แชมป์ดิวิชั่น 1 และแชมป์ไทยลีก 2009



วาทะโค้ช

อรรถพล บุษปาคม กุนซือ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ดีใจมากๆ ครับที่ลูกทีมสามารถคว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกมาครองได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ วันนี้ทุกคนช่วยกันทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งหนึ่งที่เราจะลืมไปไม่ได้เลยนั้นก็คือผู้เล่นคนที่ 12 ของทีมที่คอยให้กำลังใจอยู่ข้างหลังอย่างต่อเนื่องและสิ่งนี้เองที่ทำให้พวกเราประสบความสำเร็จจนมีวันนี้ได้ครับ

อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ กุนซือ โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี ก็ไม่มีอะไรจะพูดมากเท่าไหร่ พูดไปมันก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมา ก็อย่างที่เห็นนั้นแหละครับตอนนี้ก็เหลือแค่การลุ้นในรอบรองฯ ศึกมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ 2009 ซึ่งเราก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน



คะแนนความสามารถของทั้งสองทีม


เมืองทองฯ ยูไนเต็ด : กวิน ธรรมสัจจานันท์ 7.5 - ปกาศิต แสนสุข 7.5, ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ 7.5, เจษฎา จิตสวัสดิ์ 7.5, ปิยะชาติ ถามะพันธ์ 7.5 - ซีล่า มูซ่า 6.5, ดานโก้ เซียก้า 7 (แทน น.74 โคเน่ อดาม่า-), พิชิตพงษ์ เฉยฉิว 7 - ธีรเทพ วิโนทัย 6 (แทน น.48 วิศรุต พันนาสี 6.5), ธีรศิลป์ แดงดา 8, ซูมาโฮโร่ ยาย่า 8.5 (แทน น.90 มิก้า ชูนวลศรี -)

โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี : ฉัตรชัย บุตรพรม 7, ธนสิทธิ์ ทองอินทร์ 6.5, วันใหม่ เศรษฐนันท์ 6.5, จักรกริช บุญคำ 6.5 (แทน น.47 อนิรุตน์ สืบยิ้ม6), สุมัญญา ปุริสาย 7 (แทน น.90 ปฎิพล เพชรวิเศษ -), อภิศักดิ์ อาสายุทธ์ 6.5, อีวาน เมนซ่า 7 (แทน น.68 ไพฑูรย์ เทียบมา 6), เรวัต มีเรียน 6.5, พยุงศักดิ์ พันนารัตน์ 6.5, วิตถิวัต บุตรพรม 6.5, ปิยะชาติ ศรีมะเรือง 6.5



แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : ซูมาโฮโร่ ยาย่า กองหน้า เมืองทองฯ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์