ตอร์เรสช่วยด้วย

ลิเวอร์พูล เป็นทีมเดียวของอังกฤษที่ผิดหวังจากแชมเปี้ยนส์ลีก หงส์แดงแพ้ฟิออเรนติน่า 2-0 เป็นการแพ้ทั้งสกอร์และแพ้แบบน่าแพ้

ลำพังแค่ฟอร์มในครึ่งแรกก็เป็นเรื่องที่เดอะค็อปรับไม่ได้ นักเตะลิเวอร์พูลช้ากว่าคู่แข่งหนึ่งก้าว ไม่ว่าจังหวะเข้าหาบอล หรือเข้าปะทะ การเปิดเกมบุกไม่แน่นอน แถมยังเฉื่อย และอืดอีกต่างหาก

หงส์แดงเล่นเกมนี้แย่สุดตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา จึงช่วยไม่ได้ที่จะโดนด่า โดนดิสเครดิต

แล้วไอ้ที่แพ้ ส่วนหนึ่งก็มาจากปัญหาเดิมๆ คือ ขาดตัวพักบอลครองบอลเหนียวๆ แบบ ซาบี้ อลองโซ่ นั่นแหละ

ปีก่อน อลองโซ่ ช่วยเซฟให้เยอะ เกมไหนทีมเล่นไม่ดีก็ช่วยผ่อนหนักเป็นเบา ตัวเองพยายามเก็บบอลให้ชัวร์ ยอมโดนเตะ โดนเสียบ แต่ไม่ยอมจ่ายส่งเดช ไม่ยอมเสียการครองบอลง่ายๆ

ทุกวันนี้ หงส์แดง ไม่มีมิดฟิลด์แบบ อลองโซ่, ฮาเวียร์ มาสเชราโน่ อาจจะพัฒนาเรื่องการจ่ายบอล แต่เป็นประเภทได้มาแล้วส่งไป ไม่ค่อยรู้จักดึงเกม หรือเก็บไว้กับตัว ลูคัส เลว่า ก็ดีแค่ขยัน ช่วยไล่ ช่วยปิดพื้นที่

ขณะที่ สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ยังเหมือนเดิม คือถนัดบุกตะลุยไปข้างหน้าลูกเดียว

แดนกลางของลิเวอร์พูลจึงไม่ค่อยนิ่ง ไม่ค่อยเหนียวแน่น วันไหนโดนเร่ง โดนบี้ถี่ๆ มักจะพลาดง่ายๆ และครองเกมไม่อยู่

แต่คู่แข่งอย่าง ฟิออเรนติน่าก็ไม่เหมือน เชลซี ที่จะเจอกันอาทิตย์นี้

ด้วยความที่เตะบ่อยจนรู้ไส้รู้พุง เชลซีย่อมมีความเกรงใจ และระแวดระวังลิเวอร์พูล เรื่องที่จะลงมาเร่งเครื่อง บุกกระหน่ำแบบไม่ลืมหูลืมตาจึงไม่น่าเป็นไปได้

บอล "หงส์แดง-สิงห์น้ำเงิน" มักเป็นเกมชิงจังหวะกัน

ยิ่งเจอกันตอนต้นฤดูกาล แถมคะแนนสูสีห่างกันแค่ 3 แต้มอย่างนี้ ยิ่งต้องรัดกุมเป็นพิเศษ

ลิเวอร์พูลซึ่งโดน ราฟา เบนิเตซ เฉ่งไปเยอะน่าจะทำผลงานได้ดีกว่านัดกลางสัปดาห์ และแม้ว่าเกมบุกจะเด่นกว่าเกมรับ ก็เชื่อว่า ราฟา คงไม่ยอมแลกด้วย แต่อาศัยลูกฉาบฉวย หวังให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส สร้างจุดเปลี่ยนจากโอกาสไม่กี่ครั้งมากกว่า

ปีก่อนหงส์แดง เอาชนะเชลซีในลีกทั้งในบ้าน-นอกบ้าน เพราะสามารถทำลายเกมแดนกลางเชลซีได้เยี่ยม และสู้ด้วยแท็คติค แต่ที่โดน"เอาคืน"ในแชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมก็เพราะเสี่ยงเปิดหน้าแลก ตรงนี้คงเป็นบทเรียนชั้นดี ที่ราฟา คงไม่ยอมพลาดอีก

แน่นอนว่า ไฮไลต์ ที่แฟนๆ จับตามองคือ ตอร์เรสจะออกฤทธิ์อีกไหม "เอลนินโญ่" ซัดไปแล้ว 8 ประตู สัปดาห์ก่อนที่กระหน่ำแฮตทริคใส่ ฮัลล์ ก็ฟอร์มแจ่ม ทั้งเฉียบขาด ทั้งเหนือชั้น

มาเจอกองหลังเชลซี ที่มี จอห์น เทอร์รี่ กับ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ตอร์เรส อาจซ่าไม่ได้เท่าเดิม แต่ก็ยังน่าจะมีบทบาทพอสมควร

กองหน้าอย่างเขาไม่ใช่ว่าฉลาด หรือเทคนิคล้ำอย่างเดียว มุมของความเป็นนักสู้เอาตัวรอดเก่ง แทคติคลูกเล่นที่ใช้ชิงความได้เปรียบกับกองหลังก็ตุนไว้เหลือเฟือ

ถ้าไม่โดดเดี่ยวเกินไป ตอร์เรสยังมีสิทธิ "ปล่อยของ" อยู่นะครับ

โปรแกรมแข่งพรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 3 ต.ค. วูล์ฟ-ปอร์ทสมัธ, เบิร์นลีย์-เบอร์มิงแฮม, ฮัลล์-วีแกน, โบลตัน-สเปอร์ส, แมนฯยู-ซันเดอร์แลนด์ วันอาทิตย์ที่ 4 ต.ค. อาร์เซน่อล-แบล๊คเบิร์น, เอฟเวอร์ตัน-สโต๊ก, เวสต์แฮม-ฟูแล่ม, เชลซี-ลิเวอร์พูล วันจันทร์ที่ 5 ต.ค. แอสตัน วิลล่า-แมนฯซิตี้

โปรแกรมถ่ายทอดสดทางทรูวิชั่นส์

คืนวันเสาร์ที่ 3 ต.ค. เวลา 21.00 น. โบลตัน-สเปอร์ส(ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59, คลับเอ็ม ช่อง 106, คลับเอ ช่อง 110), เบิร์นลีย์-เบอร์มิงแฮม(ทรูสปอร์ต 5 ช่อง 63), ฮัลล์-วีแกน(ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61, คลับแอล ช่อง 107), วูล์ฟ-ปอร์ทสมัธ(ทรูสปอร์ต เอ็กซ์ตร้า 1 ช่อง 66, คลับซี ช่อง 109) เวลา 22.30 น. แฮร์ธ่า เบอร์ลิน-ฮัมบูร์ก(ทรูสปอร์ต 2 ช่อง 60) เวลา 23.30 น. แมนฯยู-ซันเดอร์แลนด์(ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61, คลับเอ็ม ช่อง 106) เวลา 23.45 น. อินเตอร์-อูดิเนเซ่(ทรูสปอร์ต 5 ช่อง 63) เวลา 01.00 น. บาร์เซโลน่า-อัลเมเรีย(ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59)

คืนวันอาทิตย์ที่ 4 ต.ค. เวลา 19.30 น. อาร์เซน่อล-แบล๊คเบิร์น(ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59, คลับเอ ช่อง 110) เวลา 20.00 น. ลาซิโอ-ฟิออเรนติน่า(ทรูสปอร์ต เอ็กซ์ตร้า 1 ช่อง 66), โรม่า-นาโปลี(ทรูสปอร์ต เอ็กซ์ตร้า 2 ช่อง 67) เวลา 21.00 น. เอฟเวอร์ตัน-สโต๊ก(ทรูสปอร์ต 5 ช่อง 63, คลับเอ็ม ช่อง 106), เวสต์แฮม-ฟูแล่ม(ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61) เวลา 22.00 น. เชลซี-ลิเวอร์พูล(ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59, คลับแอล ช่อง 107) เวลา 00.00 น. ราซิ่ง-บาเลนเซีย(ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59) เวลา 02.00 น. เซบีญ่า-รีล มาดริด(ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59) คืนวันจันทร์ที่ 5 ต.ค. เวลา 02.00 น. แอสตัน วิลล่า-แมนฯซิตี้(ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59, คลับซี ช่อง 109)

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์