วงการลูกหนังเมืองไทยผ่านจุดสูงสุด และต่ำสุด จนทำให้แฟนๆ บอลรู้และเข้าใจดีว่า ทิศทางของฟุตบอลไทยมันจะไปได้ไกลแค่ไหนกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง
ปัจจุบันถือว่า วงการฟุตบอลไทย โดยเฉพาะ "ฟุตบอลอาชีพ" กำลังเดินมาถูกทาง และถูกเวลา เพราะนับตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นเพียง "โปรวิลเชี่ยลลีก"
ก็ดูเหมือนลุ่มๆ ดอนๆ
แต่หากมองย้อนหลังกลับไปก็มีนักเตะหลายคน ที่มีโอกาสไปค้าแข้งในต่างแดน ในยุคที่ฟุตบอลลีกในเมืองไทยยังไม่เกิด
ไม่ว่าจะเป็น วิทยา เลาหกุล, ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน, วรวรรณ ชิตะวณิช, สมชาย ทรัพย์เพิ่ม, นที ทองสุขแก้ว, อรรถพล บุษปาคม,วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์ หรือแม้กระทั่ง พงศธร เทียบทอง
ซึ่งยุคนั้นต้องถือเป็นผลผลิตของ "กุนซือเทวดา" ประวิทย์ ไชยสาม ที่ล่วงลับไปแล้วก็ว่าได้
แต่หลังจากนั้น ก็ดูเหมือนว่าสมาคมฟุตบอลฯ ก็พยายามที่จะปลุกกระแส เพื่อต้องการทำให้บอลไทยก้าวไปไกลกว่าที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะกับ 2 เป้าหมายสำคัญคือ ไปเล่นรอบสุดท้าย ฟุตบอลโอลิมปิก และ ฟุตบอลโลก
จากวันนั้น จนถึงวันนี้ ก็เป็นได้แค่เพียง "ฝันค้าง" เท่านั้นเอง
แม้หลายครั้งจะลงทุนจ้างโค้ชชั้นดี
ซึ่งช่วงแรกๆ ก็นิยมใช้บริการโค้ชชาวเยอรมันเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น โบการ์ด ซีเซ่, ปีเตอร์ สตู๊บเบ้, เดตมาร์ คราเมอร์, ซิกกี้ เฮลด์ และสลับด้วยโค้ช "แซมบ้า" บราซิล คาร์ลอส โรเบอร์โต้ คาร์วัลโญ่
โดยเฉพาะรายหลังทำผลงานดีที่สุดก็คือ ทีมฟุตบอลไทยเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 11
หลังจาก "คาร์ลอส" หมดสัญญาสมาคมลูกหนังก็ต้องหันกลับมาใช้บริการโค้ชไทยอยู่ช่วงระยะหนึ่ง จนไปไม่รอดก็ต้องกลับไปใช้โค้ชนอกเช่นเดิม
ซึ่งชุดหลังเป็นการใช้โค้ชจาก "เมืองผู้ดี" อังกฤษเป็นหลักไล่มาตั้งแต่ ปีเตอร์ วิธ, ปีเตอร์ รีด
และล่าสุดหากไม่มีอะไรผิดพลาด "ไบรอัน ร็อบสัน" อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ อดีตนักเตะกำลังสำคัญของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมขวัญใจแฟนบอลเมืองไทย
จุดนี้ต้องยอมรับ "กึ๋น" นายกสมาคมลูกหนังไทย "บังยี" วรวีร์ มะกูดี ว่า วางแผนทางการตลาด และปลุกกระแสวงการฟุตบอลได้ดีทีเดียว
แม้อนาคตอันใกล้ผลงานของ "ร็อบสัน" จะทำได้ดีแค่ไหนกับการบริหารทีมชาติไทย อันนี้เวลาคงจะเป็นเครื่องพิสูจน์
แต่ที่แน่ๆ อย่างน้อย ชื่อชั้น และความเป็น "ไบรอัน ร็อบสัน" ก็คงจะสร้างสีสันให้กับทีมชาติไทยมากทีเดียว
ส่วนจะบวกหรือลบ ไม่นานคงรู้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
