รูนีย์ ตัวหลักผีที่ขาดไม่ได้
ASTV ผู้จัดการรายวัน - สมราคาผู้ท้าชิงหมายเลข 1 ที่จะมาพุ่งขึ้นมาเขย่าบัลลังก์ “บิ๊กโฟร์” ในฤดูกาลนี้ หลังจากอัด อาร์เซนอล จนพังพาบเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ทว่าวันอาทิตย์ที่ 20 กันยายนนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี ต้องเจอบททดสอบด่านหินยิ่งกว่าด้วยการบุกรัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ทำศึก ดาร์บีแมตช์ กับ “แชมป์เก่า” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ถือว่าไม่ธรรมดาและคุ้มเม็ดเงินที่ชอปปิ้งไป 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,700 ล้านบาท) เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา กับผลงานชนะ 4 นัดรวดของ แมนฯซิตี โดยเฉพาะเกมล่า
สุดที่ถล่ม อาร์เซนอล 4-2 แถมได้พักเต็มๆ เนื่องจากไม่มีศึกฟุตบอลยุโรปให้โม่แข้ง ต่างกับ แมนฯยู ที่เพิ่งเดินทางไป ตุรกี สอย เบซิคตัส มา 1-0 ในถ้วย ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก
เกมนี้ แมนฯซิตี น่าจะไร้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ดาวยิงจอมซ่า ที่กำลังรอรับโทษแบน หลังก่อเรื่องด้วยการเอาสตั๊ดทิ่มหน้า โรบิน ฟาน เพอร์ซี และไปดีใจยั่วยุกองเชียร์ อาร์เซนอล หากลงไม่ได้จะส่งผลกระทบมากโข เพราะยิงมาทุกนัดรวมแล้ว 4 ประตู ส่วน โรบินโญ ก็ยังบาดเจ็บ ด้าน คาร์ลอส เตเบซ ที่อยากซัดทีมเก่าใจจะขาด ก็ไม่แน่ว่าจะฟิตทัน
ทางด้านเจ้าถิ่น แมนฯยู ไม่มี พอล สโคลส์ ที่โดนใบแดงในเกมชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 3-1 แต่ว่าจะ ดาร์เรน เฟลตเชอร์ ห้องเครื่องจอมขยันคืนทัพ หลังไม่มีชื่อในเกมยุโรปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นอกจากนั้น ยังอยู่กันครบ โดย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน น่าจะปรับเป็นระบบ 4-4-2 ให้ เวย์น รูนีย์ ยืนคู่กับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ อีกครั้ง
แมนฯซิตี เสียหายไร้ บายอร์
ต้องดูว่าเกมวันอาทิตย์นี้ แมนฯยู จะเร่งเครื่องได้ขนาดไหน หลังจากล้ามาในเกมกลางสัปดาห์ ศึก ดาร์บีแมตช์ แมนเชสเตอร์ เจอกันครั้งใดไม่มีคำว่ากร่อย และผลการแข่งขันสามารถออกได้ทั้ง 3 หน้า ซึ่งเมื่อฤดูกาลที่แล้ว “ผีแดง” เอาชนะได้ทั้งเหย้า-เยือน ปีนี้ก็น่าจะเอาชนะ แมนฯซิตี ที่แนวรุกขาดตัวหลักไปหลายต่อหลายคนได้อีกครั้ง
ดร็อกบา คืนทัพ เชลซี
ส่วนอีกคู่ในวันเดียวกัน เชลซี จ่าฝูงที่ชนะรวด 5 นัด จะเปิด สแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำศึก ลอนดอน ดาร์บีแมตช์ กับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ทีมที่เมื่อฤดูกาลที่แล้วทำผลงานยอดเยี่ยมในการเจอกับ “บิ๊กโฟร์” ด้วยการแพ้นัดเดียวเท่านั้น และสามารถบุกมายันเสมอได้ที่นี่ 1-1 ก็ต้องดูว่าในปีนี้จะขลังเหมือนเดิมหรือไม่ แต่ว่าก็เพิ่งเสียท่า แมนฯยู มา 1-3
เจ้าถิ่น เชลซี ลงเล่นเกมยุโรปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเอาชนะ ปอร์โต 1-0 แถมมีข่าวดีเมื่อ โจ โคล มิดฟิลด์จอมเทคนิคฟิตกลับมาเป็นตัวเลือกในแนวรุกอีกราย แต่ก็ต้องคิดหนักหากจะส่งเป็นตัวจริง ถ้าเลือกแผนไดมอนด์ก็อาจจะต้องใช้หน้าตัวเดียว โดยจะได้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ดาวยิงมฤตยูดำ ที่ติดโทษแบนในเกมดังกล่าวจะคืนทัพล่าตาข่ายอีกครั้ง
ไก่ต้องหวังให้ เดโฟ ท็อปฟอร์ม
ฝั่ง สเปอร์ส แพ้ แมนฯยูไนเต็ด มาอย่างเจ็บช้ำทั้งที่ออกสตาร์ทนำไปก่อนตั้งแต่นาทีแรก เพราะการจัดตัวและแก้เกมของ แฮร์รี เรดแนปป์ ผิดพลาด เริ่มตั้งแต่การส่ง ร็อบบี คีน ลงเล่นเป็นปีกซ้าย รวมถึงถอด วิลสัน ปาลาซิออส และส่ง อลัน ฮัตตัน ลงสนาม ถ้าเกมนี้มีข้อบกพร่องให้เป็นอีกกับ เชลซี รับรองหาทางกลับบ้านไม่ถูกอย่างแน่นอน
เกมนี้ สเปอร์ส ก็ยังคงมีปัญหาฝั่งซ้ายเนื่องจาก ลูกา โมดริช พักยาว นิโก ครานชาร์ มิดฟิลด์ตัวใหม่เหมาะจะเล่นเป็นตัวกลางมากกว่า ครั้นจะโยก อารอน เลนนอน ก็จะทำให้เกมรุกฝั่งขวาด้อยลงไป ทางเดียวคือน่าจะปรับระบบเป็น 4-3-3 แต่อีกข่าวไม่รู้ว่าดีหรือร้ายเมื่อ เฮอร์เรลโญ โกเมซ นายด่านมือ 1 จะฟิตลงเฝ้าเสาแทน คาร์โล คูดิชินี
คาดว่า เรดแนปป์ ต้องนอนก่ายหน้าผากกับแผนการเล่นของ สเปอร์ส ที่จะรับมือเจ้าถิ่น แต่ต้องยอมรับว่าการเจอกับ เชลซี ชั่วโมงนี้ถือเป็นงานหนักอึ้งจริงๆ ต้องภาวนาให้ เจอร์เมน เดโฟ และ เลนนอน ท็อปฟอร์มจริงๆ แต่หากเทียบการยืนระยะตลอดทั้งเกม สุดท้ายแล้วชัยชนะน่าจะต้องตกเป็นของ “สิงห์บลูส์” ที่แน่นอนกว่า
ฟันธง ตรงเผง โดย เซียนไก๋
เบิร์นลีย์ เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 2-2
อาร์เซนอล ชนะ วีแกน 3-0
โบลตัน เสมอ สโต๊ก 1-1
ฮัลล์ ชนะ เบอร์มิงแฮม 1-0
วิลลา เสมอ ปอร์ทสมัธ 1-1
เวสต์แฮม แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2
แมนฯยู ชนะ แมนฯซิต 1-0
วูล์ฟส์ ชนะ ฟูแลม 2-1
เอฟเวอร์ตัน ชนะ แบล็กเบิร์น 2-0
เชลซี ชนะ สเปอร์ส 2-1
โปรแกรมฟุตบอล พรีเมียร์ชิป อังกฤษ ช่วงสุดสัปดาห์นี้
วันเสาร์ที่ 19 กันยายน 2552
เบิร์นลีย์ พบ ซันเดอร์แลนด์ เวลา 18.45 น.
อาร์เซนอล พบ วีแกน เวลา 21.00 น.
โบลตัน พบ สโต๊ก เวลา 21.00 น.
ฮัลล์ พบ เบอร์มิงแฮม เวลา 21.00 น.
วิลลา พบ ปอร์ทสมัธ เวลา 21.00 น.
เวสต์ แฮม พบ ลิเวอร์พูล เวลา 23.30 น.
วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน 2552
แมนฯยู พบ แมนฯซิตี เวลา 19.30 น.
วูล์ฟส์ พบ ฟูแลม เวลา 20.00 น.
เอฟเวอร์ตัน พบ แบล็กเบิร์น เวลา 21.00 น.
เชลซี พบ สเปอร์ส เวลา 22.00 น.
| โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 18 กันยายน 2552 17:58 น. |
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
