ข้าคือบิ๊กโฟร์! เรือรัวกระสุนอัดปืนเละ 4-2

 

พิสูจน์ตัวเองในระดับสูงไปได้ขั้นหนึ่งแล้วเมื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้โชว์ความแกร่งเล่นเกมสวนกลับซะอาร์เซน่อลหัวหมุนก่อนถล่มเอาชนะขาดลอย 4-2 โดยอเดบายอร์ยิงทีมเก่าก่อนวิ่งเป็นกิโลไปเยาะเย้ยถึงสแตนด์ปืนทำให้ความสัมพันธ์ร้าวระอุเข้าไปอีก สถิติชนะ 4 นัดรวดมี 12 คะแนนเต็ม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-2 อาร์เซน่อล

ผู้ทำประตู : 1-0 มานูเอล อัลมูเนีย(ทำเข้าประตูตัวเอง) น.20 , 1-1 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ น.63 , 2-1 เคร็ก เบลลามี่ น.70 , 3-1 เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ น.80 , 4-1 ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ น.84 , 4-2 โธมัส โรซิคกี้ น.87

ครึ่งแรก

ปืนขึงเกมแต่เริ่ม

อาร์เซน่อลต่อบอลตามสไตล์ถนัดตั้งแต่นาทีแรกแต่ซิตี้ยังต้านเอาไว้ได้

โห่ปะทะเฮ

แฟนบอลซิตี้กับแฟนบอลอาร์เซน่อลเล่นสงครามเย็นกันบนอัฒจันทร์เมื่อจังหวะที่อเดบายอร์ได้บอลแฟนปืนโห่ใส่ในขณะที่แฟน เรือใบ เฮสู้

อเดสู้เพื่อแฟน(เรือ)

ตอนนี้เรือฝากบอลมาที่อเดที่วินนี้วิ่งลืมตายมีจังหวะวิ่งฉีกจากกราบซ้ายเข้ามาด้านในเบียดผ่านกัลลาส์ได้แต่จังหวะสุดท้ายจ่ายติดกองหลัง ตอนนี้ซิตี้เริ่มหาทางเจาะทางปีกสองข้างแล้ว

ย่ำเพื่อนเก่า

อีกจังหวะที่อเดวิ่งควายหายเมื่อควบมาจากแดนหน้ามาย่ำใส่เชสก์ ฟาเบรกาสที่เพิ่งหายเจ็บข้อเท้าซะเต็มทีนส์ อีกจังหวะถัดมาเป็นแบร์รี่ที่ไปเล่นลูกแถมศอกใส่เดนิลสันแต่ไม่โดนอะไร ตอนนี้เกมเริ่มเดือดแล้ว

กัลลาส์โหม่งคอร์เนอร์พลาด

คุมตัวกันพลาดจริงๆสำหรับซิตี้ที่โผไปประกบเบนท์เนอร์กันหมดจนกัลลาส์ที่ขึ้นมาเติมได้โขกโล่งๆจากบอลเปิดจากโรบินแต่ข้ามคานไป เกือบซะแล้วเรืออาหรับ

ซานญ่ายิงนก

ซิตี้ตั้งรับลึกโดยเชสถ่ายบอลให้เบนท์เนอร์ค่อยๆลากเข้าเขตโทษก่อนปาดคืนให้ซาญ่ายิงข้ามคานไปเยอะ

เรือติดสปีดนำแล้ว 1-0

ไม่น่าจะมีอะไรแต่ก็มีสกอร์ซะแล้วเมื่อ 18. เปิดฟรีคิกเข้ามาให้ริชาร์ดส์กระโดดขึ้นโขกบอลค่อยๆย้อยชนเสาเหลี่ยมในก่อนเด้งโดนอัลมูเนียเข้าประตูไปวึดโชคร้าย เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0

เชสก์ซัดไกลโด่งข้ามคาน

โดนซิตี้โหมเกมใส่อยู่พักใหญ่แต่พอมีโอกาสบุกก็ทำได้แค่หาทางเจาะไกลเมื่อเป็นฟาเบรกาสมีโอกาสตั้งป้อมบริเวณหัวกระโหลกแต่ยิงข้ามคานไปไม่ได้ลุ้น

SWP ลุย !!!

ไรท์ฟิลลิปลุยจริงๆเมื่อได้บอลมาก่อนหาจังหวะสปีดหลบกลิชี่จะแตะเข้ากลางแต่จังหวะสุดท้ายบอลกระเด้งโดนตัวเองออกไม่ได้อะไร

ไอร์แลนด์เงอะงะ

ระทึกด้วยเกมเร็วชุดเล็กๆช่วงท้ายเมื่อเดนิลสันจ่ายพลาดให้ไอร์แลนด์ที่เลี้ยงเลาะเข้าไปในเขตโทษทั้งๆที่มีอเดบายอร์กับไรท์ฟิลลิปส์รออยู่แต่ดันเงอะงะไม่ทำอะไรจนสุดท้ายโดนกองหลังอาร์เซน่อลตัดทิ้ง น่าเสียดายโอกาส จบครึ่งแรกแมนฯซิตี้นำ 1-0

ครึ่งหลัง

แฟร์มาเล่นโขกโด่งอีก

ยังไม่เข้าเป้าเลยซักลูกเมื่อโธมัส แฟร์มาเล่นโขกลูกเปิดฟรีคิกจากกราบซ้ายแต่บอลก็ข้ามคานออกไปอีก

แป้ง รีเทิร์น !!!!

วินาทีที่อาร์เซน่อลรอคอยเมื่อโธมัส โรซิคกี้มิดฟิลด์แป้งจี่ได้ฤกษ์ออกจากโรงพยาบาลลงสนามซักทีในนาทีที่ 53 ก่อนมีโอกาสซัดไกลจากนอกกรอบแฉลบหลุดออกไป โมเมนตั้มเด็กปืนกำลังจะกลับมาแล้ว

กัลลาส์ปากแตก

อาร์เซน่อลได้ลุ้นจังๆครั้งแรกของเกมเมื่ออาร์เซน่อลเปิดลูกเตะมุมเข้ามาและเป็นกัลลาส์ที่พุ่งล้มตัวลงโหม่งแต่ตรงตัวกิฟเว่นที่ทุบออกไปโดยเป็นเลสค็อตต์ที่เข้ามาเตะสกัดในจังหวะนั้นพอดีจนกัลลาส์ปากเบี้ยวกันไปเลยทีเดียว

แฟร์มาเล่นใส่เต็มข้อถูกเซฟ

เจาะไม่เข้าจนต้องเป็นกองหลังอย่างแฟร์มาเล่นที่ขึ้นมาซัดเต็มข้อแต่โดนกิฟเว่นทุบออกไปและฟาน เพอร์ซี่จะมาซ้ำต่ออีกดอกแต่ล็อกไปล็อกมาจนสุดท้ายเสียท่าให้กองหลังไม่ได้ยิงกันไป

ซิตี้สวนกลับน่ากลัว

เกมเริ่มมันแล้วเมื่ออาร์เซน่อลบุกเพลินแต่โดนซิตี้สวนกลับโดยเบลลามี่ได้หลุดเข้ามาและมีไอร์แลนด์เข้ามาเติมทางด้านขวาแต่จ่ายเผื่อเกินไปจนเสียจังหวะกิลิชี่ตัดไว้ได้ แต่ไอร์แลนด์อุตส่าห์ไปแย่งกลับมาก่อนจ่ายเน้นๆให้เบลเลอร์สวิ่งเข้าแปแต่ตรงตัวอัลมูเนีย

โรบินตีเจ๊าสะใจโก๋

หลังจากพยายามมานานในที่สุดอาร์เซน่อลตีเสมอจนได้เมื่อเป็นโรซิคกี้ที่รับบอลจากซานญ่าก่อนจ่ายเข้ากลางให้ฟาน เพอร์ซี่พลิกหลบเลสค็อตต์โคตรสวยก่อนยิงด้วขวาข้างไม่ถนัดเรียดเสียบเสาสองหมดจด เสมอกันแล้ว 1-1

ปืนได้ใจเร่งเกมใหญ่หวังแซงนำ

พอยิงนำแล้วเป็นอาร์เซน่อลที่รุกคืบหวังแซงนำให้ได้โดยสตาร์เด่นอยู่ที่ฟาน เพอร์ซี่กับโรซิคกี้ที่ทำชิ่งกันมันแต่สุดท้ายยังจบสกอร์ไม่ลง เวนเกอร์คิดถูกจริงๆเปลี่ยนโรซิคกี้ลงมาเกมดีขึ้นทันตาเห็นทันที

เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด

อัดกันเองอีกแล้วเมื่อฟาน เพอร์ซี่เข้าสไลด์อเดบายอร์คู่หูเก่าแต่กองหน้าร่างโย่งวิ่งหลบได้แต่จงใจย่ำใส่หน้า RVP จนโชกเลือดทีเดียว ต้องออกจากสนามไปปฐมพยาบาล

ปืนจืดอีกรอบเบลเลอร์สซัดตุง 2-1

อาร์เซน่อลกำลังจะมาแต่ซิตี้แซงนำอีกแล้วเมื่อเป็นริชาร์ดส์ที่หลอกล่ออเล็กซ์ ซงหัวหมุนก่อนจ่ายให้เบลลามี่ที่ยืนอยู่กลางเขตโทษซัดเสียบมุมเพอร์เฟคต์ เรือใบ นำอีกครั้ง 2-1

อเดของโคตรแรง
เอาช้างก็หยุดไม่อยู่สำหรับอเดบายอร์เมื่อค่อยๆเลาะจากริมเขตโทษด้านข้างแล้วแตะหลอกเอบูเอ้ , เบนท์เนอร์ และกัลลาส์ 3 คนรวดก่อนปาดเข้ากลางให้ฌอน-ไรท์ ฟิลลิปส์ ยิงเฉี่ยวเสาไปอย่างน่าเสียดาย

กัลลาส์ได้ยิงไกล

ซิตี้ยังคงแพ็คเกมรับแน่นหนาจนอาร์เซน่อลเจาะไม่ได้เป็นกัลลาส์ที่ตัดสินใจซัดไกลจากนอกกรอบอีกครั้งแต่ก็เหมือนเดิม ข้ามคานไม่ได้ลุ้น

อเด 3-1 วิ่งข้ามสนามเยาะเย้ยแฟนปืน

จุดชนวนความแค้นกับแฟนปืนเพิ่มไปอีกเมื่อเป็นไรท์ ฟิลลิปส์ที่ได้โอกาสเปิดเข้ามา เป็นแฟร์มาเล่นที่หลุดตำแหน่งก่อนเป็นอเดบายอร์โขกโล่งๆ ตุงตาข่ายแต่สะใจเว่อร์จนวิ่งโร่ห้าร้อยเมตรอ้อมไปหาแฟนอาร์เซน่อลที่อยู่คนละฟากของสนามแสดงท่าทีเยาะเย้ยสุดขีด กรรมการเห็นว่าตั้งใจยั่วยุให้เกมเดือดเลยให้ใบเหลืองไป

อเดสกัดบอลจากเส้นประตู

จากลูกเตะมุมอาร์เซน่อลมีโอกาสอีกครั้งเมื่อโยนลูกเตะมุมเข้ามาเลสค็อตต์โขกสกัดแต่กลายเป็นตั้งให้ดิยาบี้ยิงแต่เป็นบายอร์ที่สกัดออกจากเส้นได้สุดยอด จังหวะถัดมาปืนโตโยนไปอีกครั้งแล้วบอลไปโดนแขนแบร์รี่แต่กรรมการเฉย

ปืนเละสนิท SWP บวกอีกลูก
ไม่น่าเชื่อว่าอาร์เซน่อลจะเละขนาดนี้เมื่อวันนี้ซิตี้สวนกลับได้เสียทุกลูกเป็นเบลลามี่ที่จ่ายทะลุออกขวาให้ไรท์ ฟิลลิปส์ชิพสวนตัวอัลมูเนียไปง่ายๆ 4-1 แล้ว

แป้งยิงไล่ 2-4

พอนำห่างซิตี้เริ่มคลายเกมรับจนฟาเบรกาสได้ช่องจ่ายให้โรซิคกี้หลุดเข้าไปซัดโล่งๆ ตามมาห่างๆเป็น 2-4 แต่เหลือแค่ไม่กี่นาที

โรบินซัดชนเสาอีก

ตอนนี้แฟนปืนลุ้นกันน้ำหดเมื่ออาร์เซน่อลพับสนามบุกเป็นฟาน เพอร์ซี่ได้ยิงซ้ายถนัดแต่ชนเสาดังปัง ไม่งั้นเกมสนุกแน่

โรบินยิงเฉี่ยวอีก

ตอนนี้หลังซิตี้ระส่ำระสายแต่เป็นอาร์เซน่อลที่ทำไม่ได้เองเมื่อเป็นเอดูอาร์โด้มีโอกาสปาดเข้ากลางแต่ฟาน เพอร์ซี่ยิงเฉี่ยวเสาออกไปอีก เข้าสู่ช่วงทดเวลาแล้ว

ปืนบุกแหลกแต่ทำไม่ได้อีก

อาร์เซน่อลโหมบุกสุดชีวิตโดยเบนท์เนอร์ได้โอกาสยิงสองครั้งแต่ไม่ผ่านเชย์ กิฟเว่นจบเกมเป็นซิตี้ที่ประกาศศักดาเอาชนะไปได้ 4-2 พกสถิติชนะรวด 100 % มี 12 คะแนนจาก 4 แต้มเกาะกลุ่มนำต่อไป



รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น , ไมก้าห์ ริชาร์ดส์ , โจลีออน เลสค็อตต์ , โคโล ตูเร่ , เวย์น บริดจ์ , ฌอน-ไรท์ ฟิลลิปส์ , แกเร็ธ แบร์รี่ , ไนเจล เดอ ยอง , สตีเฟ่น ไอร์แลนด์(มาร์ติน เปตรอฟ น.71) , เคร็ก เบลลามี่ , เอ็มมานูเอล อเดบายอร์

อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย , บาคารี่ ซานญ่า , (เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ น.76) , วิลเลี่ยม กัลลาส์ , โธมัส แฟร์มาเล่น , กาแอล กลิชี่ , อเล็กซานเดอร์ ซง ,(เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา น.76) , เชสก์ ฟาเบรกาส , เดนิลสัน(โธมัส โรซิคกี้ น.53) , นิคลาส เบนท์เนอร์ , โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ , อาบู ดิยาบี้













































 
                         ขอบคุณข่าวจาก lentee.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์