สกอร์ล็อก! เรือจุ๋มจิ๋ม 1-0 ชนะรวด 3 นัด

 
เกมรุกแมนเชสเตอร์ ซิตี้ยังใช้โอกาสเปลือหลังชนะหวุดหวิด 1-0 จากประตูโทนของเอ็มมานูเอล อเดบายอร์บุกซิวปอร์ทสมัธถึงแฟร็ตตัน พาร์คทำสถิติชนะรวด 3 นัดมี 9 แต้มอยู่อันดับ 4 และเป็นทีมเดียวที่ยังไม่เสียประตูให้ใครส่วนลูกทีมพอล ฮาร์ทอาการหนักแพ้ 4 นัดรวดนอนจมกองบ๊วย

พรีเมียร์ลีก

วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2552


ปอร์ทสมัธ 0-1 แมนฯซิตี้

ประตู : อเดบายอร์ น.30


แมนฯซิตี้ตัวเพียบมากแค่ไหนคิดดูเพราะขนาดโรบินโญ่ยังต้องนั่งสำรองโดยที่มาร์ค ฮิวจส์อยากให้พักแล้วเลือกใช้เคร็ก เบลามมี่แทนส่วนเคเบเซกับอเดบายอร์ยังลงเช่นเดิม

ครึ่งแรก

เรือครองบอลเกมสูสี
เกมช่วงต้นเป็นเรือใบที่ใช้ความเจนจัดของเหล่าซูเปอร์สตาร์เก็บบอลคลึงม้วนตัวเคาะครองเกมไปมามากกว่าโดยที่เจ้าถิ่นยังไม่สามารถพาบอลไปถึงระยะ 25 หลาได้เลย

แต่เล่นมาผ่านนาทีที่ 10 เหมือนปอมปีย์จะเริ่มจับจังหวะได้ดีขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะทีมเวิร์คและบราว์นเปิดยาวจากกลางสนามให้ปิคิยอนแข้งตัวใหม่วิ่งควบหลุดเข้าไปถึงหน้าเขตโทษก่อนตะบันยิงเร็วเพราะเจอกองหลังบีบมาเร็วทำให้ลูกยิงพุ่งชนข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย

เรือเกือบนำ
นาที 15 เรือใบพลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดายจากจังหวะฟรีคิกทางปีกขวาของแบร์รี่เป็นเบอร์โกวิชกระโดดคว้าบอลแล้วหงายหลังแต่ยังถือบอลอยู่แล้วจังหวะเฉื่อยเลสค็อตต์มางัดออกมาผู้ตัดสินไม่เป่าด้วยแต่บอลที่ตกอยู่ตรงหน้าประตูระยะแค่ 3 หลากลับไมมีผู้เล่นทีมเยือนเข้ามาชาร์จเลยถูกเคลียร์ทิ้งทันเวลา

เทรนด์ดูดู้มาแรง
นาที 21 ไอร์แลนด์ปั่นไซด์ก้อยกลางสนามทะลุช่องให้เบลลามี่วิ่งกระชากเข้าเขตโทษโดยที่คาบูลตามไม่ทันแล้วแต่เบโกวิชปรี่วิ่งออกมาด้านข้างก่อนตระครุบบอลติดหนึบจนถีบจักรหน้าขมำ นี่ถ้ากะจังหวะผิดหรือเบลลามี่แตะออกอีกหน่อยจะเป็นลูกที่กำลังฮิตๆกันอยู่ตอนนี้แน่นอน

ผู้กองโขก 1-0
เข็มนาฬิกากระดิกถึงนาที 30 แมนฯซิตี้ก็มาขึ้นนำจนได้จากลูกเตะมุมของแบร์รี่โค้งมาที่ระยะ 6 หลาเป็นอเดบายอร์โถมมาโขกเต็มๆกบาลไร้ตัวขึ้นตั้น


เรือช็อกนำ 2-0 แต่ไลน์แมนไม่ให้
เกมของปอร์ทมัธเหมือนจะดีขึ้นเพราะพยายามเปิดเกมรุกสู้จะเอาประตูตีเสมอแต่นักเตะเสียบอลกันบ่อยมากและก่อนหมดเวลา 5 นาทีเบลลามี่ตบบอลในกรอบให้ไมคาห์ ริดชาร์ดสวิ่งมาแปเผาขนเข้าไปไม่มีเหลือแต่ไลน์แมนกลับยกธงว่าแข้งทีมชาติอังกฤษล้ำหน้าทั้งๆที่ภาพช้าเป็นแบร์รี่ที่ยืนล้ำตรงเสาไกลส่วนริชาร์ดสไม่ล้ำ

ครึ่งหลัง

ปอมปีย์โงหัวไม่ขึ้น
เกมของปอมปีย์แทบไม่มีอะไรเลยโดยตลอดทั้งครึ่งแรกกิฟเว่นไม่ได้เซฟแม้แต่ครั้งเดียวและนาที 52 เกือบโดนลูกสองจากจังหวะฟรีคิกตรงริมกรอบโทษฝั่งซ้ายของเบลลามี่ที่ปั่นยัดเข้ามาตรงระยะ 6-7 หลาแต่คาบูลก้มหัวโขกให้มันข้านคานออกหลัง นี่ถ้าผิดเหลี่ยมก็ตุงตัวเองแน่ ไม่รู้โหม่งออกได้ไงท่านี้

บายอร์โชว์
จากนั้นไม่นานเรือใบน่าจะได้ลูก 2 หลังอเบดายอร์โชว์ทักษะแตะบอลลอดขาคาบูลกระชากหลุดไปตรงมุมแคบแถวเส้นหลังก่อนเลือกแปยิงแต่เบโกวิชล้มตัวปัดสองมือออกมาได้

เรือเสียวเกือบโดน 1-1
สกอร์ยิ่งอยู่ที่ 1-0 นานเท่าไหร่ปอร์ทสมัธเหมือนมีกำลังใจมากขึ้นเท่านั้นและนาที 78 อูทาก้าได้บอลตรงริมกรอบโทษฝั่งขวาก่อนสลัดหนีตัวประกบแล้วลากเข้าซ้ายก่อนส่องเต็มๆบอลหลุดออกเสาไกลชนิดที่กิฟเว่นพุ่งสุดมือไม่ทันแล้ว

นูเจนท์ทำช็อก
ก่อนหมดเวลา 2 นาทีเจ้าถิ่นพลาดโอกาสตีเสมอสุดช็อกจากจังหวะที่บราว์นเปิดย้อยเข้าเขตโทษเป็นนูเจนท์ที่เพิ่งถูกเปลี่ยนลงสนามพักอกจนซาบาเลต้าหลงตำแหน่งได้วางเท้ายิงเหน่งๆแค่ 7 หลาแต่ดันไปล่กยิงไม่เต็มกดลงพื้นชนตัวกิฟเว่นหน้าตาเฉย มุมเปิดกว้างเยอะแยะ

เวบบ์ใจแข็งไม่ให้ 2 จุดโทษเรือ
ท้ายเกมเรือใบพลาดได้สองจุดโทษไม่ว่าจะจากจังหวะฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ถูกเตะจากด้านหลังตอนเลี้ยงเลาะริมเส้นหรือช่วงทดเจ็บที่เตเบซถูกคาบูลชนล้มกลิ้งแต่สุดท้ายเอาชนะหวุดหวิด 1-0 ขยึบขึ้นมาอยู่อันดับ 4 มี 9 แต้มเต็มส่วนปอมปีย์แพ้ 4 นัดรวดจมบ๊วยแล้ว

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ปอร์ทสมัธ :
อาสเมียร์ เบโกวิช 6.5,อันโธนี่ วานเด้น บอร์เร่ 6.5,ยูเนส คาบูล 6.5,อารอน โมโคเอน่า 6,นาเดียร์ เบลฮัดจ์ 6.5,เฮย์เด้น มัลลินส์ 5.5,ไมเคิ่ล บราว์น 6,ริชาร์ด ฮิวจส์(นูเจนท์ น.87),ทอมมี่ สมิธ 6(อูทาก้า น.68,6.5),เฟเดริค ปิคิยอน 6.5(คานู น.73,6),นิโก้ ครันชาร์ 5.5

แมนฯซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น 6.5,ไมคาห์ ริชาร์ดส์ 7(ซาบาเลต้า น.60,6),โคโล่ ตูเร่ 7,โจเลออน เลสค็อตต์ 7,เวย์น บริดจ์ 6.5,ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ 6,สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ 6.5(เด ยอง น.76,6),แกเรธ แบร์รี่ 7,เคร็ก เบลลามี่ 7,เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 7.5 *,คาร์ลอส เตเบซ 6

























 

ขอบคุณข่าวจาก lentee.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์