ยินดีกับเชลซีด้วยคับเก่งวะ แบบนี้ก็ยิงหงส์กระจายดิ












“สิงห์บลูส์” เชลซี โดน “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตามเสมอ 2-2 เมื่อครบ 90 นาที แต่ดวลจุดโทษอาศัยความนิ่งเอาชนะไป 4-1 ผงาดครองแชมป์ฟุตบอลการกุศล คอมมูนิตี ชิลด์ ประจำปี 2009/10
       
       ศึกฟุตบอล คอมมูนิตี ชิลด์ 2009/10
       แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-2 เชลซี
       (เชลซี ชนะจุดโทษ 4-1 คว้าแชมป์ไปครอง)
       














ดร็อกบา ฝ่าทั้ง ปาร์ค-ริโอ เข้าไปลุ้นทำประตู
       

       เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นำทัพ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดีกรีแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มายังสนามเวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน ทำศึกคอมมูนิตี ชิลด์ กับ “สิงห์บลูส์” เชลซี แชมป์เอเอฟ คัพ ซีซั่นก่อน โดย แมนฯ ยูไนเต็ด ปรับทัพพอสมควร ขณะที่ คาร์โล อันเชลอตติ วางทัพใหญ่ให้ เชลซี หวังพาต้นสังกัดใหม่ผงาดคว้าแชมป์เป็นประเดิมฤดูกาล 2009/10 ซึ่งก่อนเตะทุกคนในสนามยืนปรบมือเป็นการให้เกียรติ เซอร์ บ็อบบี ร็อบสัน ตำนานกุนซือผู้ล่วงลับ














นานี เบิกร่องให้ผีนำก่อน
       เริ่มเกมการแข่งขัน เชลซี เป็นฝ่ายเดินเกมรุกขู่ แมนฯ ยูไนเต็ด ทันที ดิดิเยร์ ดร็อกบา สบโอกาสยิงแต่ เบน ฟอสเตอร์ ยังรับติดหนึบ นาทีที่ 5 “สิงห์บลูส์” น่าจะได้ประตูนำเมื่อ แฟรงค์ แลมพาร์ด เปิดลูกเตะมุมบอลมาตกให้ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช แปบอลกำลังจะเข้าประตูแต่ ปาทริซ เอฟรา โขกเคลียร์จากเส้นกระเด้งคานออกมาหวุดหวิด แต่ห้านาทีถัดมากลายเป็น “ผีแดง” ออกนำ 1-0 หลุยส์ นานี เลี้ยงตัดจากกราบซ้ายก่อนซัดด้วยขวาบอลกระดอนพื้นผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก เสียบตาข่ายอย่างสวยงาม
       
       เกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ดูคึกคักขึ้นมาถนัดตา ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เริ่มประสานงาน เวย์น รูนีย์ ก่อนบอลไปถึงกรอบหกหลา ปาร์ค จี ซอง ได้ตวัดยิงเบาเกินไปติดบล็อก เช็ก นาทีที่ 17 จังหวะชิ่งหนึ่งสองของ เบอร์บาตอฟ กับ ปาร์ค เกือบนำมาซึ่งประตูที่สองของ “ผีแดง” แต่ดาวยิงทีมชาติบัลแกเรียดันดีดบอลไปติด เช็ก ที่ยกมือเดียวขึ้นมาเซฟไว้ได้ หลังจากเสียศูนย์อยู่พักใหญ่ เชลซี ดันเกมขึ้นมาบ้าง ดร็อกบา ยกบอลไปเสาสอง ฟลอรองต์ มาลูดา วอลเลย์ด้วยซ้ายแต่โดนไม่เต็มบอลหลุดกรอบไป
       
       ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เบน ฟอสเตอร์ ซึ่งถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษ ชุดบุกอุ่นแข้ง เนเธอร์แลนด์ กลางสัปดาห์นี้ ออกอาการเหวอให้เห็น จากนั้น “สิงห์บลูส์” โหมเป็นการใหญ่ นิโกลาส์ อเนลกา ได้หลุดเข้าไปยิงแต่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ สอดศีรษะขวิดทิ้งออกหลังหวุดหวิด นาทีที่ 40 อเนลกา ได้โอกาสอีกครั้งยิงด้วยซ้ายจากบริเวณหัวกะโหลกแต่บอลติดไซด์หลุดเสาไป ท้ายครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ได้โอกาสทิ้งท้าย ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ปั่นบอลกำลังจะเสียบสามเหลี่ยมแต่ เช็ก บินปัดทิ้งไป จบ 45 นาทีแรก “ผีแดง” ถือความได้เปรียบ














แลมพ์ เบียดกับ อีแวนส์
       ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง “คาร์เลตโต” มีการปรับหมากให้ เชลซี ด้วยการส่ง โฮเซ โบซิงวา แบ็กขวาจอมบุกลงมาเล่นแทน อิวาโนวิช และทีมก็ตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จในนาทีที่ 52 เมื่อ มาลูดา ได้บอลทางกราบซ้ายกระดกด้วยขวาโด่ง ดร็อกบา ขึ้นโหม่งแต่ ฟอสเตอร์ ชกได้ก่อนทว่าบอลมาเข้าทางให้ ริคาร์โด คาร์วัลโญ พุ่งโหม่งตุงตาข่าย หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ท่านเซอร์ ต้องถอน นานี ที่มีอาการบาดเจ็บไหล่ข้างซ้ายออกมาพร้อมกับส่ง อันโตนิโอ วาเลนเซีย ไปสร้างสรรค์เกมแทน
       
       จากนั้น “สิงห์บลูส์” ปรับแดนกลางสู้ใส่ มิชาเอล บัลลัค มาค้ำแทน จอห์น โอบี มิเกล ถึงนาทีที่ 70 เชลซี พลิกกลับมานำ 2-1 จากจังหวะที่ เอฟรา บุกขึ้นไปแล้วโดน บัลลัค ดักด้วยท่อนแขนจนล้มคว่ำ คริส ฟอย ผู้ตัดสินปล่อยให้เล่นต่อเป็น เชลซี ต่อบอลขึ้นมา ดร็อกบา หลุดขึ้นมาทางซ้ายก่อนไหลออกขวาให้ แฟรงค์ แลมพาร์ วิ่งเข้ามาซัดเต็มแรง ฟอสเตอร์ ปัดได้แต่บอลยังแรงพอที่จะกระแทกเสาเลยเส้นประตูเข้าไป
       
       เข้าสู่ช่วง 15 นาทีท้าย เฟอร์กี ส่งสำรองลงอีก 4 รายทั้ง ฟาบิโอ ดา ซิลวา, ไรอัน กิกส์, พอล สโคลส์ และ ไมเคิล โอเวน แต่เป็น เชลซี เกือบทิ้งห่างหาก ฟอสเตอร์ ไม่เซฟลูกยิงของ ดร็อกบา เอาไว้ เกมชักจะเดือดเมื่อ เอฟรา พุ่งเข้าเสียบเอาคืน บัลลัค ทำให้ ฟอย ต้องชักใบเหลืองให้แบ็ก “ผีแดง” ท้ายเกม แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามดันเกมรุกขึ้นไปจนกระทั่งช่วงทดเจ็บ กิกส์ ทิ่มให้ รูนีย์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปส่องเสียบเสา ครบ 90 นาทีเสมอกัน 2-2 ต้องดวลถึงฎีกาเตะจุดโทษกัน ปรากฏว่า “สิงห์บลูส์” นิ่งกว่าชนะไป 4-1 โดย แมนฯ ยูไนเต็ด พลาดทั้ง กิกส์ และ เอฟรา ยิงติดเซฟ เช็ก
       
       รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
       แมนฯ ยูไนเต็ด
: เบน ฟอสเตอร์ , จอห์น โอเชีย , จอนนี อีแวนส์ , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , ปาทริซ เอฟรา , ปาร์ค จี ซอง , ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ , ไมเคิล คาร์ริค , หลุยส์ นานี , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ , เวย์น รูนีย์
       
       เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , ริคาร์โด คาร์วัลโญ , จอห์น เทอร์รี , แอชลีย์ โคล , จอห์น โอบี มิเกล , มิชาเอล เอสเซียง , แฟรงค์ แลมพาร์ด , ฟลอรองต์ มาลูดา , ดิดิเยร์ ดร็อกบา , นิโกลาส์ อเนลกา




เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์