เคราช์เบิ้ล!สิงโตยุคใหม่4-0

"ไล่ยำกรีซหมดลาย"


อังกฤษภายใต้การนำทีมของสตีฟ แม็คลลาเรนสุดจ๊าบหลังเปิดโอลด์แทรฟฟอร์ดไล่ยำกรีซหมดลายแชมป์ยุโรปเละเทะ 4-0 โดยจอห์น เทอร์รี่ทำประตูฉลองกัปตันทีมก่อนที่แลมพาร์ดจะแจมและเป็นปีเตอร์ เคราช์เหมาสองเฮฮาอุ่นเครื่องเรียกความมั่นใจกันถ้วนหน้า

ผลฟุตบอลกระชับมิตร

วันพุธที่ 16 สิงหาคม 2549

อังกฤษ 4-0 กรีซ

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ประตู : 1-0 จอห์น เทอร์รี่ น.15,2-0 แฟรงค์ แลมพาร์ด น.30,3-0 ปีเตอร์ เคราช์ น.35,4-0 ปีเตอร์ เคราช์ น.42


"ดูเชิงกัน 10 นาทีแรก"


เกมผ่านไป 10 นาทีแรก ทั้งสองทีมยังดูชั้นดูเชิงด้วยการเน้นเกมรับให้เหนียวแน่นเอาไว้ก่อน ทำให้จังหวะหวาดเสียวเรียกว่าแถบจะนับครั้งได้

อีก 5 นาทีต่อมา แฟนใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็มาได้เฮ เมื่ออังกฤษ เป็นฝ่ายขึ้นนำ 1-0 จาก เทอร์รี่ กัปตันทีมคนใหม่ ที่โหม่งเปลี่ยนทางจากจังหวะที่ ดาวนิ่ง โขกสวนเข้ามาให้ตุงตาข่าย

ครึ่งชั่วโมงของเกมพอดี อังกฤษมาขยับสกอร์เป็น 2-0 จากจังหวะที่ เดโฟ ไหลเข้าไปให้ แลมพาร์ด ในเขตโทษ มิดฟิลด์เชลซี ยิงด้วยซ้ายไปแฉลบ แอนต์ซาส เปลี่ยนทางเข้าเสาแรกไป


"จบ 45 นาที นำไร้กังวล 4-0"


อีก 5 นาทีต่อมา แนวรับกรีซมาพลาดอีกครั้ง เมื่อปล่อยให้ ดาวนิ่ง เปิดจากทางซ้าย มาให้ แลมพาร์ด ซัดในจังหวะแรก นิโคโปลิดิส ปัดออกมาไม่ดี และเป็น เคราช์ ที่ขโมยซีน ตามซ้ำเข้าไป อังกฤษ นำห่าง 3-0

ก่อนหมดครึ่งแรก 3 นาที ปีเตอร์ เคราช์ มาทำประตูที่สองให้ตัวเอง เมื่อกระโดดโขก ลูกหยอดของ ดาวนิ่ง ที่บรรจงหยอดมาให้ไม่ผิดหวัง จบ 45 นาทีแรก อังกฤษ นำแบบไร้กังวล 4-0

กลับลงมาในครึ่งหลัง แม็คคลาเรน ส่ง คริส เคิร์กแลนด์ ที่ก่อนเกมคุณพ่อได้เดิมพันว่าลูกชายจะได้ลงเล่น ไปเฝ้าเสาแทน โรบินสัน ที่ ครึ่งแรก แทบจะไม่ได้เซฟอยู่แล้ว ส่วน กรีซ เปลี่ยนทีเดียวพร้อมกันถึง 4 คน


"จบเกมถล่มไป 4-0"


นาที 55 อังกฤษรอดการเสียประตูอย่างไม่น่าเชื่อถึง 3 ครั้ง และเป็น เคิร์กแลนด์ ที่มาเซฟปัดออกหลังไปได้ในจังหวะแรก ก่อนที่ แอชลี่ย์ โคล จะสกัดบนเส้นถึงสองครั้งสองครา

นาที 69 อังกฤษ มาใส่ตัวริมเส้นดาวรุ่ง อย่าง ริชาร์ดสัน และ เลนน่อน สองข้างออก และถอด เดโฟ กับ ดาวนิ่ง ออกไปพัก

ก่อนหมดเวลา 6 นาที กรีซ น่าจะได้ประตูปลอบใจ จากจังหวะที่ บาซินาส ซัดจากระยะ 22 หลา แต่ เคิร์กแลนด์ ก็ปฏิเสธด้วยการบินปัดได้อย่างยอดเยี่ยม จบเกม อังกฤษรักษาสกอร์เดิม ด้วยการถล่มไป 4-0


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม


อังกฤษ (4-4-2) :พอล โรบินสัน (คริส เคิร์กแลนด์ น.45),แกรี่ เนวิลล์ (เจมี่ การ์ราเกอร์ น.78),ริโอ เฟอร์ดินานด์,จอห์น เทอร์รี่,แอชลี่ย์ โคล (เวย์น บริดจ์ น.80),สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด (ดาร์เรน เบนท์ น.79),แฟรงค์ แลมพาร์ด,โอเว่น ฮาร์กรีฟส์,สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง (แอร่อน เลนน่อน น.69),เจอร์เมน เดโฟ (คีแรน ริชาร์ดสัน น.69),ปีเตอร์ เคราช์

กรีซ (4-4-2) : แอนโตนิส นิโคโปลิดิส,พาราสเควาส แอนต์ซาส (โซติริส คีร์เกียคอส น.45),ไทรยานอส เดลลาส (จอร์จอส เอนาโตลาคิส น.65),พานากิโอติส ฟรีสซาส (พานาจิโอติส ลากอส น.29),ลูคัส วินทรา,สเตลิออส จิอันนาโคปูลอส (ดิมิตริออส ซาลปิกิดิส น.45),จอร์จิออส คาราโกยูนิส,คอนสแตนตินอส คัตโซยูรานิส,ธีโอโดรอส ซาโกราคิส ( อังเจลอส บาซินาส น.45),จิออร์จิออส ซามาราส (ไอออนนิส เอมานาติดิส น.45),อังเจลอส ชาริสเตอัส

ผู้ตัดสิน : โวล์ฟกัง สตรัค (เยอรมัน)


แหล่งข้อมูล : บอร์ดรวมข่าวกีฬา

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์