ร่วมอาลัย ไมเคิล แจ๊คสัน รำลึก 3 แข้งแห่งวงการลูกหนัง




        โลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ หลังจากทีวีทุกช่องจับมือกันอย่างมิได้นัดหมายประโคมข่าวการเสียชีวิตของ ไมเคิล แจ็คสัน

        ราชาเพลงป๊อปมีทั้งด้านขาวและด้านดำในตัวเอง เหมือน หยิน-หยาง แต่สุดท้ายเมื่อเขาหมดลมหายใจ.. คนทั่วโลกก็อดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาพร้อมกับนึกถึงแต่สิ่งดีๆที่เขาเคยทำไว้... 

        MJ สร้างตำนานบทใหม่ให้กับโลกนี้ โดยที่ไม่มีใครมาเทียบเทียมเขาได้อีกแล้ว ผลงานที่สร้างมาตั้งแต่ยุค 80' ถึงปัจจุบัน แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเป็น Entertainer ที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งของโลก..

         ในงานประกวดร้องเพลงที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว.. ผมเองก็ได้มีโอกาสร้องเพลงของแจ็คสันด้วย.. ถ้าผมเอ่ยชื่อเพลง Heal The World ออกมา ทุกคนคงรู้จักกันดี..

         นี่คือผลงานที่แจ็กสันฝากเอาไว้.. แม้เขาจะตายจากไป.. พร้อมกับบัตรคอนเสิร์ตที่เป็นโมฆะไปเสียแล้ว.. แต่แฟนๆคงไม่เสียดาย เพราะมันเหมือนกับเป็นการช่วยต่อลมหายใจและเพิ่มพูนกำลังใจให้แจ็คสันในวาระสุดท้าย...

          ราชาเพลงป๊อป.. จากไปอย่างไม่มีใครคาดฝัน.. เช่นเดียวกันกับวันนี้เมื่อ 6 ปีที่แล้ว...

         เชื่อว่าทุกๆคนคงจำนักฟุตบอลที่ชื่อ มาร์ก วิเวียน โฟเอ้ กันได้นะครับ..

         นักฟุตบอลคาเมอรูนรายนี้เติบโตขึ้นมาหลังจากค้าแข้งกับสโมสร คาน่อน ยาอวนเด้ ในบ้านเกิด.. ก่อนจะย้ายมาเริ่มบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ตัวเองบนเวทียุโรปกับล็องส์.. 

         สร้างผลงานอยู่ 4 ปีจึงไปเตะตา ขุนค้อน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด.. และนี่คือช่วงแรกที่คนไทยรู้จักมิดฟิลด์มดงานผิวหมึกรายนี้.. 

         โฟเอ้ เป็นกองกลางชั้นดีคนหนึ่งในยุโรป เขาค้าแข้งกับเวสต์แฮมอยู่ 2 ปีจึงย้ายกลับบ้านไปอยู่กับโอลิมปิก ลียง ซึ่งถูกบันทึกไว้ว่าเป็นสโมสรสุดท้ายในชีวิตที่ถือกรรมสิทธิ์ของเขาอย่างเต็มตัว.. หลังจากนั้นในปี 2002 หรืออีก 2 ปีต่อมา.. โฟเอ้ได้เล่นฟุตบอลเป็นปีสุดท้ายในชีวิตกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้.. 

         เขาเป็นแกนหลักที่ เรือใบสีฟ้า ของเควิน คีแกนขาดไม่ได้ในยุคนั้น.. ก่อนที่ผลงานจะถูกตาต้องใจและเป็นหนึ่งในนักเตะคาเมอรูนที่ได้ไปตะลุยศึก คอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ ที่เป็นสังเวียนสุดท้ายที่เขาจะได้มีโอกาสหายใจ..

         คาเมอรูนเข้ารอบรองชนะเลิศไปเจอกับโคลัมเบีย.. มันคือความหวังอีกครั้งที่เขาจะสร้างชื่อเสียงและความสำเร็จให้กับประเทศเล็กๆอันเป็นบ้านเกิดของเขา.. แต่เมื่อเข้าสู่นาทีที่ 72 ตรงกลางสนาม.. ทุกอย่างในตัวโฟเอ้ก็หมุนติ้ว อ่อนแรง หยุดนิ่ง และมืดสนิท..

        แม้จะได้รับการช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วนจากทีมแพทย์ แต่ทุกอย่างสายเกินไปแล้ว.. เหล่าเทวดานางฟ้าได้รับโฟเอ้ไปอยู่ในอ้อมกอด.. เขาเสียชีวิตลงด้วยวัยเพียงแค่ 28 ปี..

         ผมในขณะนั้นอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2.. ได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของโฟเอ้ในขณะที่เข้าค่ายลูกเสือของโรงเรียน.. เพื่อนของผมคนหนึ่งวิ่งหน้าตื่นมาบอก.. แรกๆ ก็ไม่เชื่อ จนกระทั่งมาเห็นข่าวด้วยตัวเองด้วยความเศร้าสลด..

         ผมเห็นแววตาทอันเบิ่งค้างของโฟเอ้ วินาทีนั้น.. ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่เขาคงอยากบอกทุกๆคนว่า.. เขายังไม่อยากจากโลกนี้ไป..

        แต่ทุกสิ่งมันดำเนินไปตามครรลอง.. ไม่มีใครต้านทานความต้องการของพญามัจจุราชได้.. ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหนในโลกก็ตาม.. 

        ยังคงมีนักฟุตบอลที่เสียชีวิตในสนามอีก 2 คน ที่เรายังไม่ควรลืม.. เชื่อว่าคงมีคนไม่มากที่รู้จักชื่อของ มิคลอส เฟเฮอร์ แต่ไม่เป็นไรครับ.. เรามารู้จักเขากัน..

        เฟเฮอร์ เป็นหนุ่มนักฟุตบอลหน้าตาดี คมคาย ชนิดเป็นพระเอกหนังได้ เขาเริ่มต้นชีวิตค้าแข้งกับ กโยริ อีทีโอ ทีมในบ้านเกิด ก่อนย้ายมาค้าแข้งกับเอฟซี ปอร์โต้ ในปี 1998..

         ชีวิตของเฟเฮอร์ไม่เคยห่างไกลจากประเทศโปรตุเกส.. เขาถูกซัลเกรอส และ บราก้า ยืมตัวไปในเวลา 3 ปี.. ก่อนจะถูกเบนฟิก้าดึงตัวมาอย่างถาวรในปี 2002..

         เฟเฮอร์ได้ใช้ชีวิตอยู่บนผืนหญ้าสีเขียวนานกว่าโฟเอ้เพียงแค่ 1 ปี.. แต่เขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องจากโลกนี้ไป.. เพียงแต่เขาจากไปภายใต้รอยยิ้มแห่งความสุข..

         เกมนั้น.. เบนฟิก้าต้องออกไปเยือน วิทอเรีย เอสซี ที่กิลมาไรซ์.. เกมดำเนินไปอย่างสูสี จนกระทั่งผู้จัดการทีมในขณะนั้นอย่างโฆเซ่ อันโตนิโอ คามาโช่ทนไม่ไหว.. ต้องแก้เกมด้วยการเปลี่ยน เฟเฮอร์ ลงสนาม..
 
         และนั่นคือการแก้เกมที่คามาโช่จะต้องจดจำไปตลอดชีวิต.. เฟเฮอร์ซัดประตูขึ้นนำให้กับทีม.. อารมณ์และความเก็บกดทุกอย่างถูกระเบิดออกมาจากหน้าอก เฟเฮอร์ถูกกรรมการชูใบเหลืองหลังจากแสดงความดีใจเกินเหตุ...

        เขายิ้มรับด้วยความยินดีเป็นครั้งสุดท้าย.. เขาล้มลงอย่างมีความสุข.. และนอนราบไปบนพื้นสนาม ไม่ตื่นมาอีกเลย..

        ทุกวันนี้สโมสรเบนฟิก้าได้ทำการยกเลิกหมายเลข 29 ของทีม เพื่อเป็นเกียรติแก่การจากไปของมิคลอส เฟเฮอร์..

        โลกนี้มันช่างโหดร้ายกว่าที่คิด.. สองนักเตะที่จากเราไปยังไม่พอ.. เขายังพรากคนที่ 3 ไปจากพวกเราอีก..

        กรอภาพกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้วเท่านั้น.. นักเตะคนนี้ชื่อว่า อันโตนิโอ ปูเอร์ต้า.. 
        
        ปูเอร์ต้า เป็นแบ็กซ้ายที่ยังหนุ่มแน่น เขาเป็นนักเตะเยาวชนของสโมสร เนอร์ไวอ้อน ก่อนย้ายมาค้าแข้งอาชีพกับเซบีญ่า.. 

        ปูเอร์ต้าติดทีมชาติสเปนชุดใหญ่เพียงแค่นัดเดียวในปี 2006.. และตลอดเวลา 5 ปีในถนนสายฟุตบอลอาชีพ.. ปูเอร์ต้าลงเล่นให้กับเซบีญ่าเพียงทีมเดียวเท่านั้น..

        เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดเมื่อทีมเสื้อลายขาว-แดง ลงสนามพบกัยเกตาเฟ่ในวันที่ 25 สิงหาคม ปี 2007..

        แข้งเกตาเฟ่ ทำบอลออกหลัง.. ผู้รักษาประตูกำลังเริ่มตั้งเตะ.. กล้องได้ส่ายภาพออกไปกลางสนามตามปกติ แต่เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดได้เกิดขึ้น.. ทำให้กล้องต้องหมุนตัวเองกลับไปตรงจุดเกิดเหตุอีกครั้ง..

         ทุกอย่างอยู่ในช่วงชุลมุน.. นักเตะเซบีญ่าและเกตาเฟ่เกือบสิบคนรุมล้อมปูเอร์ต้าที่ไร้สติ.. ทีมแพทย์รีบปรี่เข้ามาช่วยอย่างสุดชีวิต.. แต่ก็ไม่ทันการ..

          ความเศร้าโศกเสียใจ ปกคลุมไปทั่วสเปน.. เซบีญ่าต้นสังกัดประกาศยกเลิกเบอร์ 16 ตลอดกาลเพื่อเป็นเกียรติแก่หนุ่มน้อยที่จากโลกนี้ไปด้วยวัยเพียงแค่ 22..

        ทุกคนต่างอาลัย.. และคิดถึงเด็กหนุ่มผู้ปิดทองหลังพระ.. ผู้ทำประโยชน์ให้กับทีมมาโดยตลอด.. ปูเอร์ต้าลงสนามให้กับเซบีญ่าไปทั้งหมด 95 นัด และยิงไป 9 ประตู.. นักเตะทุกคนสกรีนชื่อปูเอร์ต้าลงเล่นนัดชิง ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ กับเอซี มิลานเมื่อปี 2007.. และทุกวันนี้ แม้จะจากโลกนี้ไป.. แต่ก็คงไม่มีใครลืมแบ็กซ้ายอนาคตไกลคนหนึ่งของโลกคนนี้..

       วันที่ 26 มิถุนายน.. สามนักฟุตบอล.. และหนึ่งนักร้องก้องโลก.. จากโลกนี้ไป..

        ไม่มีราชาเพลงป๊อป.. ไม่มีมิดฟิลด์ผู้แกร่งกล้า.. ไม่มีนักเตะซูเปอร์ซับแห่งเบนฟิก้า.. และไม่มีแบ็กซ้ายผู้เป็นอนาคตแห่งทีมชาติสเปนอีกต่อไป.. 

        คงไม่มีบทกลอนบทไหนที่จะเหมาะสมเพียงพอ.. สำหรับการยกย่องพวกเขาเหล่านี้อีกแล้ว.. เท่ากับงานประพันธ์ที่ สมเด็จกรมพระยาปรมานุชิตชิโนรส ได้แต่งเอาไว้..

พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา..


         ชีวิต ล้วนมีเกิดแก่เจ็บตาย.. ทุกสิ่งย่อมสูญสลายไปตามเถ้าธุลี.. แต่ตำนานและความดี.. จะสถิตอยู่บนโลกใบนี้.. ตลอดไป..

R.I.P. Micheal Jackson

Miklos Feher

Mark-Vivian Foe..

Antonio Puerta..

and.. All footballers who died in the field..


credit : เจี๊ยบ เคเอฟซี lentee




เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์