ส่งแค่นี้!เรือเร่งไม่ขึ้นชนะแต่ร่วงยูฟ่า

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ความหวังหนึ่งเดียวของอังกฤษในเวทียูฟ่า คัพต้องถึงคราวอวสานหลังเบียดเอาชนะฮัมบวร์กเสียว 2-1 โดยตกเป็นฝ่ายตามหลังก่อนเร่งเอาคืนได้เต็มที่สองลูกตกรอบด้วยสกอร์รวม 3-4 แถมริชาร์ด ดันน์มาถูกไล่ออกในช่วงทีมพีคอีกต่างหาก

ยูฟ่า คัพรอบ 8 ทีมสุดท้ายเลกสอง

วันที่ 16 เมษายน 2552


แมนฯซิตี้ 2-1 ฮัมบวร์ก

(รวมผลสองนัดฮัมบวร์กชนะ 4-3)

ประตู : 0-1 เกร์เรโร่ น.12,1-1 เอลาโน่ น.17(จุดโทษ),2-1 ไคเซโด้ น.50


ครึ่งแรก

ไฟท์บังคับสำหรับ"เรือใบ"ที่ต้องเอาชนะให้ได้อย่างน้อย 2-0 หลังชิงแพ้ในนัดแรกก็เป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเข้าหาทันทีแต่เหมือนทีมเยือนจะรู้ทันเลยดันสูงให้มิดฟิลด์คอยบีบตรงกลางแล้วแนวรับรอเช็กล้ำหน้าโรบินโญ่ได้หลายครั้ง

ตอนนี้เกมมันมากเพราะซิตี้โหมเข้าแย่งบอลตั้งแต่หน้าประตูของ"สิงห์เหนือ"จนแฟนบอลร้องระงมด้วยความมันส์แต่บอลของทีมเยือนก็พยายามเล่นช้าเพื่อทำลายเกมของเด็กมาร์ค ฮิวจส์

นาทีที่ 10 เกมรับของเจ้าถิ่นพลาดปล่อยให้โอลิชได้สับไกในกรอบตรงระยะ 7-8 หลาด้านข้างยังดีที่บอลบดออกเสาไกลแบบมีเสียว

งานของซิตี้ลำบากแล้วหลังอีกแค่ 2 นาทีปิโตรป้าเปิดมาจากกรอบฝั่งขวาบอลมาถึงโอลิชที่ยืนหันหลังพิงกับกองหลังแต่ตอนจับบอลทะลุกเลยมาถึงเกเรร์โร่ที่ล้มตัวซัดตามน้ำชิงจังหวะกับดันน์จากระยะ 10 หลาบอลผ่านมือกิฟเว่นเสียบมุมเข้าไป

แต่แล้วเกิดจุดเปลี่ยนเมื่อนาที 17 เอลาโน่ยิงไกลนอกเขตเป็นทรอชอฟสกี้เบี่ยงตัวเบี่ยงหน้าหลบแต่บอลไปถูกแขนจนเสียจุดโทษก่อนที่เอลาโน่จะวิ่งมายิงผ่านมือโรสต์ที่พุ่งถูกทางแต่ไม่ทัน

เกมของทีมเยือนแม้เสียประตูแต่ก็ไม่ได้หวาดหวั่นเลยเพราะยังเล่นแบบสบายใจต่อบอลเนิบๆใช้ความเก๋าสู้

นาที 26 ทรอชอฟสกี้พลิกรับบอลจากเพื่อนก่อนซัดด้วยอีซ้ายนอกกรอบบอลพุ่งแสกใส่กิฟเว่นที่ต้องผวาปัดออกหลัง

ก่อนหมดเวลา 10 นาทีซิตี้เกือบขึ้นนำจากลูกสาดฟรีไกลของเอลาโน่เข้าเขตโทษบอลเลยมาที่กรอบโทษฝั่งซ้ายเป็นโรบินโญ่ที่เอาลงก่อนสับขาหลอกหนีถึงเส้นหลังแล้วตบเข้ามาที่จุดนัดพบระยะ 6 หลาแต่ไคเซโด้เข้าชาร์จเบาก๋องบอลติดเซฟโรสต์ที่มารับจังหวะสองทันเวลา

"เรือใบ"พลาดโอกาสขึ้นนำเหน่งๆอีกครั้งหลัง เอลาโน่วิ่งมาซัดฟรีคิกไกล 25 หลาเต็มข้อบอลพุ่งข้ามกำแพงติดไซด์ชนคานสนั่นหวั่นไหวชนิดที่โรสต์ได้แต่เหลียวดูแล้ว

ครึ่งหลัง

หนามยอกเอาหนามบ่งเพราะ"เรือใบ"ที่ไม่มีทางเลือกต้องเปิดเกมรุกแบบไม่สนใจชีวิตแต่กลายเป็นฮัมบวร์กที่ขึงเกมพาบอลมาป้วนเปี้ยนหน้ากรอบโทษเจ้าถิ่นจนเหมือนสถานการณ์กลับด้านกันมากกว่า

แต่แล้วเล่นมา 5 นาที"เรือใบ"กลับมาพลิกขึ้นนำหน้าตาเฉยเมื่อไอร์แนด์ได้บอลหน้าเขตโทษแล้วทำท่าจะผ่านออกทางกรอบขวาที่มีริชาร์ดสเติมขึ้นมาก่อนหลอกจ่ายเลียดหักข้อแบบไม่ต้องมองเข้าในเขตตรงๆให้ไคเซโด้ซึ่งบัวเต็งดันไปเข้าพรวดจนลื่นล้มแถมมาล็อกหนีกราฟการ์ดก่อนยิงด้วยอีซ้ายผ่านมือโรสต์เข้าไป

ตอนนี้"เรือใบ"เหมือนได้ลมโบกขึงเกมอยู่ข้างเดียวอย่างเมามันจนฮัมบวร์กต้องหันมาทำฟาว์ลกันแล้ว

ซิตี้ซวยสุดๆเมื่อเอลาโน่ที่วันนี้ตั้งเตะต้องยกนิ้วให้ปั่นฟรีคิก 25 หลาบอลไซด์ข้ามกำแพงก่อนมาชนเสาอย่างน่าเสียดายเพราะโรสต์ย่อตัวสารภาพบาปไปแล้ว

จากจังหวะเตะมุมเร็วเอลาโน่เปิดมาที่เสาแรกเป็นโรสต์ผวาปัดเพราะบอลมาเร็วแต่ไคเซโด้มาซ้ำ 3-4 หลาข้ามคานสุดช็อก

ทีมเยือนไม่ยอมงอมืองอเท้าง่ายๆและนาที เกือบตีเสมอหลังโอลิชทำชิ่งกับยาโรลิมหน้าเขตโทษก่อนจะมาถึงโอลิชที่พลิกตัวหมุนยิงด้วยอีซ้ายบอลพุ่งข้ามหัวกิฟเว่นข้ามคานแบบน่าเข้าจริงๆ

อีกไม่ถึงนาที"เรือใบ"น่าจะเปลี่ยนสกอร์เป็น 3-1 หลังเพื่อนปาดบอลยาวข้ามหัวกองหลังให้โรบินโญ่วิ่งสอดหนีล้ำหน้าแล้วพักอกลงเข้าเขตโทษแต่โรสต์ปรี่ออกมาเร็วที่ให้บล็อกลูกยิงเส้นยาแดงผ่าแปด

อย่างไรก็ตามเกมที่กำลังไหลลื่นของเจ้าถิ่นก็มาสะดุดจนได้หลังริชาร์ด ดันน์ถูกใบเหลืองที่สองจากการไปขวางเปตริชที่จิ้มบอลทะลุหนีตรงกรอบโทษฝั่งซ้าย ผู้ตัดสินไม่ลังเลเลยเพราะครึ่งแรกฟาว์ลหนักๆเยอะมากจนต้องเตือนว่าต่อไปนี้ห้ามฟาว์ลอีกแล้ว

เกมกลับด้านกลายเป็นของ"สิงห์เหนือ"ไปเลยเพราะตัวเหนือกว่าและสามารถดึงช้าไม่ต้องรีบเพราะสกอร์รวมนำอยู่ 4-3

เกมเกือบจบเห่หลังแยนเซ่นโชว์เทพได้บอลตรงปีกซ้ายก่อนแตะอ้อมตัวริชาร์ดสก่อนปาดมาเสาแรกให้โอลิชวิ่งมาวางเท้าแปเผาขนแต่กิฟเว่นล้มตัวปัดออกหลังนิดเดียว

ท้ายเกมมาร์ค ฮิวจส์เจอแฟนบอลโห่หลังเปลี่ยนเอาเอลาโน่ที่เล่นดีออกแล้วให้สเตอร์ริดจ์ลงมาแทน

นาที 85 เจ้าถิ่นน่าจะได้ประตูที่รอคอยหลังริชาร์ดสทำชิ่ง 1-2 กับโรบินโญ่ที่กระดกข้ามหัวกองหลังให้แข้งผิวสีหลุดเข้าเขตโทษแต่ตอนยิงดันแปข้ามคานออกไปน่าเกลียดจริงๆ

ช่วงทดเจ็บซิตี้โหมบุกหนักแต่ตัวน้อยกว่าจึงชนะ 2-1 ตกรอบยูฟ่า คัพโดยที่ฮัมบวร์กซึ่งยังล้างอาถรรพ์บุกมาชนะทีมในอังกฤษไม่ได้ต่อไปเช่นเดิมจะเข้าไปตัดเชือกกับแวร์เดอร์ เบรเมนคู่แค้นในบุนเดสลีกาต่อไป


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

แมนฯซิตี้ :
กิฟเว่น 7,ริชาร์ดส 7,โอนูฮา 6,ดันน์ 3,บริดจ์ 6,ซาบาเลต้า 6(เฟร์นานเดซ น.77,5),กอมปานี 7,ไอร์แลนด์ 7.5,เอลาโน่ 8 *(สเตอร์ริดจ์ น. 84),โรบินโญ่ 7,ไคเซโด้ 6

ฮัมบวร์ก : โรสต์ 6,บัวเต็ง 7,กราฟการ์ด 6,ไมธีเซ่น 6,แยนเซ่น 6,ปิโตรป้า 6.5,ยาโรลิม 7,โอโก้ 5,ทรอชอฟสกี้ 6(เปตริช น.73),กูร์เรโร่ 6,โอลิช 7.5












































เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์