แพ้เพื่อแชมป์


ความหวังของ ลิเวอร์พูล ในแชมเปี้ยนส์ลีกคงริบหรี่แล้ว หลังจากแพ้ เชลซี คาบ้านในรอบ 8 ทีมนัดแรกด้วยรูปเกมที่สู้ไม่ได้ และสมควรแพ้จริงๆ

แฟนหงส์แดงย่อมผิดหวังแน่ แต่ผมกลับมั่นใจว่า ถ้าหมดภาระจากบอลยุโรปไปจะส่งผลดีต่อโอกาสลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกมากกว่า

ขนาดของทีมลิเวอร์พูลชุดนี้ยังไม่ใหญ่พอสำหรับการเป็นดับเบิ้ลแชมป์ เพราะ ราฟา เบนิเตซ ไม่มีตัวเลือกมากในเกมรุก การตัดถ้วยใดถ้วยหนึ่งออกไปซะจึงไม่น่าเสียหายอะไร แถมยังเหมาะสมกับภาพจริงของทีมดีเสียอีก

สกอร์ 1-3 ในแอนฟิลด์ อาจมองว่ายังพอมีการกลับได้ในนัดที่สอง แต่ราฟาก็คงรู้แก่ใจแหละว่า ยากชะมัด อังคารหน้าหงส์แดงคงไปเยือนเชลซีด้วยสปิริตของมืออาชีพ และสู้เต็มที่ แต่ตัวผู้เล่นอาจไม่ใช่ชุดที่ดีที่สุด ซึ่งแฟนบอลก็คงเข้าใจ

ลิเวอร์พูลควรเบนเป้ามาเน้นล่าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ แมนฯยู เต็มตัว โดยมองไปที่การเก็บ 3 แต้มในนัดเจอ แบล๊คเบิร์น วันเสาร์นี้

หงส์แดงแข่งก่อนถ้าชนะก่อนก็แซงขึ้นจ่าฝูงชั่วคราว เหมือนสัปดาห์ที่แล้วและจะโยนความกดดันไปทดสอบแมนฯยูไนเต็ดอีกครั้ง

ปีศาจแดงมีคิวบุกรังแมวดำ ซันเดอร์แลนด์ หลังคู่ "ลิเวอร์พูล-แบล๊คเบิร์น" ถึงตอนนั้น ผลจากเกมคู่แรกคงเป็นเงื่อนไขสำคัญที่กระทบต่อมาเป็นลูกโซ่ตามฟอร์ม

ถ้าหงส์แดงชนะได้ นอกจากดีกับโอกาสลุ้นแชมป์ยังดีต่อความมั่นใจของตัวเอง ถึงลิเวอร์พูลจะเป็นทีมที่หนักแน่นและเป็นจอมคัมแบ๊คแต่การแพ้เชลซีก็ควรมีผลแข่งสวยๆ มาช่วยลบริ้วรอยเหมือนกันนะครับ

เป้าหมายตอนนี้คือ ชนะให้หมดใน 7 นัดที่เหลือ ถ้าจะทำได้ทีมของราฟา เบนิเตซ ต้องปึ้กในทุกๆ ด้าน แม้กระทั่งเกมเจอแบล๊คเบิร์นซึ่งดูเผินๆ ไม่น่ามีปัญหา เอาเข้าจริงก็อาจไม่ง่ายด้วยเหมือนกัน

กุหลาบไฟได้ใหญ่ ได้ลูกหนักและความแข็งแกร่ง ลิเวอร์พูลเข้าปะทะทื่อๆ ตรงๆ ไม่ไหว ต้องเร็ว คม ชิงจังหวะเข้าทำก่อน ทีเด็ดทีขาดก็ต้องเต็มร้อย

แบล๊คเบิร์นอาจจะพลิกชนะสเปอร์สมา แต่กลางกับหลังยังช้า ไม่น่าต้านความคล่องตัวของพวก ตอร์เรส, เจอร์ราร์ด, เบนายูน ได้นะครับ

ส่วนแมนฯยูไนเต็ดที่จะไปเยือนซันเดอร์แลนด์ ความยาก-ง่ายใกล้เคียงกับหงส์แดงนั่นแหละ

ถ้ามันจะง่ายก็คือ ลูกน้องเซอร์อเล็กซ์เล่นเข้าฟอร์ม เกมรุกโชะเชะฉีกกองหลังแมวกระจาย มาตรฐานแมนฯยูเหนือกว่าบานเบอะ ไม่ว่าเจอกันที่ไหน ยังไงๆ ก็กินขาด

แต่คำถามคือ สภาพแมนฯยูตอนนี้ได้แค่ไหน ในเมื่อกรอบก็กรอบ ตัวก็เจ็บอยู่เรื่อยๆ เกมรับที่ต้องปรับใหม่ก็ดันเสียประตูง่ายอีก

ผมไม่ข้องใจเกมรุกหรอก ถึง ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ ฟิตไม่ทัน เวย์น รูนี่ย์ ก็ยังเชื่อมือได้ กองหลังต่างหากที่อาจเป็นปัญหาเพราะนอกจาก ริโอ เฟอร์ดินานด์ ไม่สมบูรณ์ จอนนี่ เอแวนส์ ตัวเสริมชั้นดียังเพิ่งเดี้ยงไปหมาดๆ อีกคน

ปีศาจแดงเริ่มล้า ยิ่งช่วงหลังๆ ชักไม่ค่อยชนะ เล่นพลาดนิดพลาดหน่อย มันก็ยิ่งเหนื่อยใจ แล้วไหนจะมีงานหนักในแชมเปี้ยนส์ลีกกับเอฟเอคัพ จ่อคิวรออยู่อีกล่ะ

ประเด็นที่น่ากลัวก็คือ แมนฯยูทำอะไรเกินตัวไปหรือเปล่า?

โปรแกรมแข่งพรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 11 เมษายน ลิเวอร์พูล - แบล๊คเบิร์น, เชลซี - โบลตัน, มิดเดิ้ลสโบรช์ - ฮัลล์, ปอร์ทสมัธ - เวสต์บรอมวิช, ซันเดอร์แลนด์ - แมนฯยูไนเต็ด, สเปอร์ส - เวสต์แฮม, วีแกน - อาร์เซน่อล, สโต๊ก - นิวคาสเซิล วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน แอสตัน วิลล่า - เอฟเวอร์ตัน, แมนฯ ซิตี้ - ฟูแล่ม

โปรแกรมถ่ายทอดสดทางทรูวิชั่นส์

คืนวันเสาร์ที่ 11 เมษายน เวลา 18.45 น. ลิเวอร์พูล-แบล๊คเบิร์น (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59, คลับแอล ช่อง 107) เวลา 20.00 น. อินเตอร์ มิลาน-ปาแลร์โม่ (ทรูวิชั่นส์ 99) ลาซิโอ-โรม่า (ทรูสปอร์ต 2 ช่อง 60) เวลา 21.00 น. เชลซี-โบลตัน (ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61, คลับซี ช่อง 109), มิดเดิ้ลสโบรช์-ฮัลล์ (ทรูสปอร์ต เอ็กซ์ตร้า 2 ช่อง 67), ปอร์ทสมัธ-เวสต์บรอมวิช (ทรูสปอร์ต 4 ช่อง 62), ซันเดอร์แลนด์-แมนฯยูไนเต็ด (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59, คลับเอ็ม ช่อง 106), สเปอร์ส-เวสต์แฮม (ทรูสปอร์ตเอ็กซ์ตร้า 1 ช่อง 66, คลับแอล ช่อง 107), วีแกน-อาร์เซน่อล (ทรูสปอร์ต 5 ช่อง 63, คลับเอ ช่อง 110) เวลา 23.30 น. สโต๊ก-นิวคาสเซิล (ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61, คลับเอ็ม ช่อง 106, คลับแอล ช่อง 107) เวลา 01.00 น. บาร์เซโลน่า-อูเอลบา (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59) เวลา 01.30 น. เจนัว-ยูเวนตุส(ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61) เวลา 03.00 น. บียาร์รีล-มาลาก้า(ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59) คืนวันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน เวลา 20.00 น. แอสตัน วิลล่า-เอฟเวอร์ตัน (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59, คลับซี ช่อง 109, คลับเอ ช่อง 110) เวลา 22.00 น. รีล มาดริด-รีล บายาโดลิด (ทรูสปอร์ต 5 ช่อง 63) เวลา 22.10 น. แมนฯซิตี้-ฟูแล่ม (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59, คลับเอ ช่อง 110) เวลา 02.00 น. คอรุนญ่า-แอตเลติโก้ มาดริด (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59)

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์