10ผู้ท้าชิงนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี



พรีเมียร์ลีกงวดเข้ามาทุกขณะ ใกล้จะรู้กันแล้วว่าใครจะเข้าป้ายและใครจะอกหัก เกมการแข่งขันยาวนานกว่า 8 เดือน มักจะมีผู้เล่นไม่กี่คนที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นน่าจับตา เราไปดูกันว่านักเตะ 10 รายที่มีลุ้นจะก้าวขึ้นไปคว้ารางวัลเกียรติยศPFAนี้มีใครกันบ้าง



10.ไรอัน กิ๊กส์ (แมนฯยูไนเต็ด)
สิ่งที่ทำให้เราแปลกใจสุดๆก็คือ ด้วยวัยใกล้ลงโรงขนาดนี้ ไรอัน กิ๊กส์กลับยังลงเตะได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ปีก่อนๆจะมีเสียงโห่บ้างประปรายจากความพยายามจะเล่นให้ได้เหมือนครั้งยังเอ๊าะๆทั้งๆที่รู้ว่ามันฝืนสังขารเกินไป มาปีนี้ กิ๊กส์ปรับตัวเองมาเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางซึ่งไม่ต้องพึ่งพาความคล่องแคล่วมากมายเหมือนตำแหน่งแจ้งเกิดของเจ้าตัว ปัญหาคือ แม้จะเล่นได้ดีด้วยวัยมากขนาดนี้ แต่ก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมจะขนาดจะคว้ารางวัลไปนอนกอดได้ง่ายๆ





9.เลดลีย์ คิง (สเปอร์ส)
ด้วยปัญหาร่างกายสุดยุ่ย คิงลงเตะหนึ่งนัดพักหนึ่งนัดสลับไปมาแบบนี้ตลอด เข่าของคิงบวมตุ่ยทุกครั้งหลังจบเกม เป็นเหตุให้มีโอกาสลงฝึกซ้อมน้อยกว่าชาวบ้านชาวเมืองเค้า แต่ทุกครั้งที่ฟิตพอ คิงจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเสมอ และคิงก็ลงเล่นอย่างแข็งแกร่งพาทีมหนีการกระเสือกกระสนจากช่วงต้นซีซั่นจนตอนนี้แอบมามีลุ้นโควต้าฟุตบอลยุโรปกับเค้าเล็กๆ ฟอร์มสุดแกร่งในช่วงหลังพาคิงไปติดทีมชาติอังกฤษอีกครั้ง แต่หัวเข่าของเขาไม่อนุญาตให้ลงเตะมากไปกว่าที่เป็นอยู่ คิงถอนตัวจากทีมชาติเรียบร้อย แต่ทั้งแฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ และ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ต่างรู้ดีว่า คิงคือกองหลังที่ดีที่สุดคนหนึ่งในอังกฤษวินาทีนี้ ว่าแต่จะดีพอถึงขั้นคว้ารางวัลเลยรึเปล่านั้นอาจจะยังยากไปหน่อย
 




8.แอชลีย์ ยัง (แอสตัน วิลล่า)
นี่ถ้ารางวัลนี้มีการแจกกันในช่วงครึ่งแรกของซีซั่น ชื่อของแอชลีย์ ยังจะต้องเป็นเต็งหนึ่งอย่างแน่นอน ด้วยการออกสตาร์ทอย่างร้อนแรงพาวิลล่าขึ้นมาเขย่าบัลลังก์บิ๊กโฟร์ และได้ก้าวขึ้นไปรับใช้ทีมชาติอังกฤษมาแล้ว ก่อนที่ความกดดันและความอ่อนล้าจะเล่นงานจนฟอร์มไม่ฮอตเหมือนช่วงต้นฤดูกาล แต่ก็ยังพอเหลือเวลาให้เรียกฟอร์มได้อีก 8-9 นัด เริ่มต้นที่วี้กหน้าทีมจะได้ลงโม่แข้งกับแชมป์เก่า ไปดูกันว่าแอชลีย์ ยังจะกลับมาเป็นตัวเต็งที่จะคว้ารางวัลนี้ไปได้รึเปล่า




7.ชาบี อลองโซ่ (ลิเวอร์พูล)
นี่ถ้าแบร์รี่ได้มาสวมชุดลิเวอร์พูลจริงๆ ป่านนี้อลองโซ่คงไปเล่นในเซเรียอาเรียบร้อยแล้ว ปีก่อนอลองโซ่ช้าเกินไปสำหรับเกมในพรีเมียร์ลีกแต่เปี่ยมประโยชน์ในเกมยุโรปที่ไม่โดนเร่งจังหวะมากนัก มาปีนี้อลองโซ่เร็วขึ้น เอาตัวรอดได้ดีขึ้น จนเป็นที่มาของการเรียกใบแดงจากคู่แข่งได้ถึง 4 รายอย่างที่เราจดจำกันได้ดี ด้วยเท้าชั่งทองในทั้งการจ่ายสั้นจ่ายยาว หรือแม้แต่การยิงไกลกว่าครึ่งสนามที่ทำให้ลิเวอร์พูลมีเกมโต้กลับและจังหวะลักไก่ที่น่ากลัวที่สุดในลีก ด้วยฟอร์มปิดทองหลังพระจนโดดเด่นขนาดนี้ ไม่แปลกหากหนุ่มสเปนรายนี้จะแอบๆมีลุ้นคว้ารางวัลนิดหน่อย





6.แบร๊ด ฟรีเดล (แอสตัน วิลล่า)
ลืมชื่อ ฟาน เดอร์ ซาร์ ไปได้เลย เพราะผู้รักษาประตูคนเดียวที่มีชื่อลุ้นรางวัลกับเขา ต้องรายนี้เท่านั้น แม้เกมล่าสุดจะพลาดท่าโดนใบแดง แต่ก็อุทธรณ์ผ่านเรียบร้อยไปแล้ว ฟรีเดลต้องลงทำหน้าที่ป้องกันประตูให้วิลล่าที่แผงหลังปวกเปียกกว่าปีก่อนมากๆ ด้วยการที่กองหลังที่เก่งที่สุดในทีมอย่างมาร์ติน เลาร์เซ่นยังเจ็บยาว การที่ต้องใช้มิดฟิดล์ตัวรับมายืนแบ็คขวา และเอาแบ็คขวาไปเล่นเป็นแบ็คซ้าย โอ้ย ถ้าไม่แน่จริง วิลล่าคงโดนล่อพรุนไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดไปนานแล้ว อย่าพูดว่าเก่งจริงคงไม่โดนลิเวอร์พูลอัดไป 5-0 หรอก (อย่าลืมว่าไม่ได้เล่นเต็มเกม เพราะโดนใบแดง) เพราะขนาดฟาน เดอร์ ซาร์ ที่ว่าแน่ก็ยังโดนลิเวอร์พูลยิงจนอิ่มแปล้ไป 4 เม็ดไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ก็อย่างที่ทราบกันดีครับ รางวัลนี้คงยากที่จะมีผู้รักษาประตูคนไหนคว้าไปได้

 



5.มิเกล อาร์เตต้า (เอฟเวอร์ตัน)
ทิม เคฮิลล์ ได้เครดิตไปเยอะจากการที่มักทำประตูได้บ่อยๆในเวลาที่ทีมต้องการ แต่ต้องยอมรับว่าอาร์เตต้าคนนี้นี่แหละที่รักษาทรงการเล่นของทีมและสร้างสรรค์การเข้าทำในแทบทุกจุดของเกม ยังคงเป็นที่น่าสงสัยมากๆว่าเดวิด มอยส์ใช้คาถาอะไรไปหลอกซื้ออาร์เตต้ามาจากเรอัล โซเซียดาดได้ในราคาเพียง 2 ล้านปอนด์ ดาวเตะสเปนผู้นี้คือเด็กปั้นของบาซ่ายุคเดียวพิมพ์เดียวกันกับ ชาบี เอร์นันเดซ และ เชสก์ ฟาเบรกาส เขาคือหนึ่งในเทพนอกบิ๊กโฟร์ที่ช่วยยกระดับในพรีเมียร์ลีกมีความน่าสนใจมากกว่าแค่ดูทีมใหญ่ๆแย่งแชมป์กัน ดูสีหน้าของเดวิด มอยส์ในวันที่ทราบข่าวว่าอาร์เตต้าต้องพักยาวทั้งซีซั่นดูได้ว่า อาร์เตต้ามีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อทีมเอฟเวอร์ตันขนาดไหน
 




4.โรบิ้น ฟาน เพอร์ซี่ (อาร์เซน่อล)
แม้จะยิงนกตกปลาบ่อยไปนิดจนได้รับฉายาน่ารักน่าชังว่า “Persie Bird” แต่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าในช่วงเวลาที่ทีมอาร์เซน่อลพร้อมใจกันเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ก็มีเจ้าโรบิ้นคนนี้นี่แหละทั้งยิงทั้งจ่ายให้ทีม ช่วยให้ทีมไม่หลุดไปไกลกว่านี้ จนวินาทีนี้ก็กลับมาอยู่ในกลุ่มท็อปโฟร์ได้อีกครั้ง ด้วยปัญหาร่างกายที่ทำให้ได้ลงเล่นน้อยเหลือเกินในปีก่อน มาปีนี้เพอร์ซี่ฟิตปั๋ง ลงไปหวดลูกหนังในเกมลีกมาแล้ว 24 เกมถ้วน ยิงไป 9 ประตู จ่ายไป 10 ลูก ที่น่าสนใจคือแกเล่นยิงชนคานคนเดียว 7 ครั้ง นี่ถ้าทั้ง 7 ลูกเปลี่ยนมาตุงตาข่ายแทน เพอร์ซี่เบิร์ดของเราจะนำเป็นอันดับหนึ่งในอันดับดาวซัลโวทันที ด้วยพลังตีนระเบิดที่ทำได้ทั้งยิงทั้งจ่ายฉุดกระชากอาร์เซน่อลมาไกลได้ขนาดนี้ ไม่แปลกที่หนุ่มดัตช์วัยเบญจเพศจะมีลุ้นรางวัลกับเค้าบ้างเล็กน้อย





3.เบรเด้ ฮังเกลันด์ (ฟูแล่ม)
เป็นชื่อที่ชวนฉงนเล็กน้อย แต่ยักษ์ปักหลั่นชาวนอร์เวย์รายนี้ลงเล่นให้ทีมเจ้าสัวน้อยได้อย่างแข็งแกร่งเหลือเชื่อ วันนี้เมื่อปีก่อนฟูแล่มอยู่รองบ๊วยด้วยผลงานเสียไปถึง 49 ประตู แต่วันนี้ทีมอยู่อันดับ 9 ของตาราง และเสียไปเพียง 26 ลูกจาก 30 นัด ทีมที่เกมรุกฝืดๆเช่นนี้ (30นัดยิงได้แค่30ประตู เฉลี่ยเกมละ 1 ประตู) มามีชื่อลุ้นไปเตะฟุตบอลยุโรปกับทีมอื่นเขาได้ ก็ต้องเป็นเพราะมีเกมรับที่เหนียวแน่นเฉียบขาดนั่นเอง และในแผงหลัง 4 คนนั้น ก็มีเจ้ายักษ์ฮังเกลันด์ที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นกว่าใครเพื่อน ยิ่ง 6 นัดล่าสุด เสียไปเพียงสองประตูเท่านั้น ทีมอย่างอาร์เซน่อลหรือแมนฯยูไนเต็ดยังไม่มีปัญญายิงฟูแล่มได้เลยในการเจอกันล่าสุด ถ้าฟูแล่มจบซีซั่นด้วยอันดับสวยๆ อย่าแปลกใจที่ปีนี้จะมีรายการพลิกล็อคในตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี





2.เนมานย่า วิดิช (แมนฯยูไนเต็ด)
แม้ผลงานในเกมเจอลิเวอร์พูลทั้งสองนัดจะไม่เป็นสับปะรด จนโดนใบแดงแบบไปกลับให้ช้ำใจเล่น แต่ปราการหลังเจ้าของฉายา “เดอะเซอร์บิเนเตอร์” คือนักเตะที่ฟอร์มเด่นและเล่นได้เข้าตามากที่สุดในทีมปิศาจแดง ทั้งๆที่แมนฯยูไนเต็ดมีผู้เล่นในแนวรุกระดับโลกมากมาย แต่เซนเตอร์ฮาล์ฟหน้าตาโรคจิตผู้นี้กลับขโมยความโดดเด่นมาไว้ในตัวเพียงผู้เดียว โดยเฉพาะผลงานมาสเตอร์พีซที่พาทีมไม่เสียประตูติดต่อกันยาวนานถึง 14 นัดถ้วน แม้ใบแดงสองใบนั้นจะยังติดตรึงในสายตา และแม้รางวัลPFAจะแจกยากแจกเย็นให้กับผู้เล่นในตำแหน่งกองหลัง แต่ถ้าแชมป์เก่ารักษาแชมป์ไว้ได้อย่างสวยงาม วิดิชเตรียมตัดสูทไปรับรางวัลได้เลย เชื่อผม





1.สตีเว่น เจอร์ราร์ด (ลิเวอร์พูล)
วินาทีนี้ไม่มีใครกล้าเถียงแน่นอนว่ากัปตันทีมลิเวอร์พูลคนนี้คือเต็งหนึ่งที่จะคว้ารางวัลเกียรติยศนี้ไปครอบครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากลิเวอร์พูลทำเรื่องเหลือเชื่อได้สำเร็จด้วยการกระชากแชมป์พรีเมียร์ลีกมานอนกอดได้สำเร็จ ด้วยฟอร์มการเล่นสุดร้อนแรงเกือบทั้งฤดูกาล เจอร์ราร์ดเป็นทุกอย่างที่ลิเวอร์พูลต้องการ เป็นผู้นำทั้งในและนอกสนาม เป็นแรงกระตุ้นเร้าให้เพื่อนร่วมทีมและเหล่ากองเชียร์ เป็นพลังขับเคลื่อนทีมทั้งในยามวิ่งฉิวและในยามเครื่องขัดข้อง เป็นผู้เปลี่ยนโฉมหน้าเกมการแข่งขันได้นับครั้งไม่ถ้วน เจอร์ราร์ดมีคุณสมบัติครบถ้วนเท่าที่ยอดนักเตะคนนึงพึงมี ถ้าเล่นได้ขนาดนี้จนจบซีซั่น จะไม่ได้รางวัลก็ให้มันรู้ไปสิวะ (แต่ลุ้นเยี่ยวเหนียวกับวิดิชหน่อยนะ)









ที่มา GUIDEBALL.COM

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์