ยังไงก็เป็นประตู

ไคยัง งง ดู ภาพประกอบ

ว่ากันว่าช่วงที่ บีบหัวใจ ที่สุดของเกมฟุตบอลก็คือ การดวลจุดโทษ กันเนี่ยแหละ

บางคนถึงกับต้องเบือนหน้าหนี หรือไม่ก็มาลุ้นผลตอนยิงเสร็จกันไปเลย เพราะไม่อยากจะเสี่ยงต่ออาการ หัวใจวาย อย่างที่มีข่าวอยู่บ่อยๆ

แต่สำหรับคนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะต้องทำหน้าที่เป็นคนยิงจุดโทษเสียเอง ก็ทำได้แค่ภาวนาให้ลูกยิงของตัวเองผ่านมือของผู้รักษาประตูคู่แข่งไปให้ได้ เพราะจังหวะอย่างนี้ ยังไงก็ต้องลุ้นกัน 50-50 ด้วยกันทั้งสองฝ่าย

ว่าแล้ว เหล่านักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัย ลิเวอร์พูล จอห์น มัวร์ส ของอังกฤษ จึงศึกษาในเรื่องนี้อย่างจริงจังว่าจะมีลูกยิงแบบไหนบ้างที่คู่แข่งหมดสิทธิรับแน่ๆ หลังจากเคยมีผลวิจัยจากสถาบันอื่นออกมาก่อนหน้านี้ว่าถ้ายิงให้แรง กว้าง แต่ต่ำ ผลที่ได้ก็จะเป็นประตูเหมือนกัน

หลังจากศึกษาเทปการยิงกันอย่างหน้าดำคร่ำเคร่งเป็นเวลาหลายชั่วโมง ทั้งจากภาพมุมสูงและจากการตั้งกล้องไว้หลังตาข่ายประตู ในที่สุดนักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยดังกล่าวก็หาคำตอบจนได้ โดยระบุว่า ถ้ายิงด้วยความเร็ว 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขึ้นไป ไม่มีทางที่นายทวารของทีมคู่แข่งจะหยุดลูกเอาไว้ได้แน่

แต่ถ้าให้ลงลึกรายละเอียดมากกว่านี้ นักเตะคนนั้นจะต้องวิ่งจากเส้น 18 หลา 4-5 ก้าว และวางเท้าทำมุม 20-30 องศาด้วย ก่อนจะยิงบอลออกจากเท้าไป

พูดแล้วก็ดูเหมือนจะง่าย แต่อันที่จริงก็ยังมีข้อแม้อีกอย่าง นั่นคือต้องยิงเสยไปเสียบที่มุมบนของตาข่าย โดยที่ระยะห่างของลูกจะต้องอยู่ห่างจากคาน 50 เซนติเมตร และอยู่ห่างจากเสา 50 เซนติเมตรด้วย

งานนี้ ถ้าทำได้ครบทุกเงื่อนไขแล้วละก็ นักวิจัยเขายืนยันมาหนักแน่นว่าลูกบอลจะต้องเข้าไปตุงตาข่ายแบบ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม ชนิดที่นักเตะคนไหนก็หมดสิทธิอ้าง

ก้อเปนการเร่นอย่างมีหลักการ


ที่มา มติชน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์