มารู้จัก เจ้าฉลามขาว

เจอร์เก้น คลินส์มันน์ ได้รู้จักฟุตบอลครั้งแรกตอนอายุ 8 ขวบ ซึ่งเขาเล่นในทุกตำแหน่งรวมถึง ผู้รักษาประตู ด้วยในช่วงต้นๆนี้ เขายังไม่ได้ค้นพบสัญชาติญาณดาวยิงในตัวของเขา......

ในปี 1978 เมื่อ คลินส์ซี่อายุได้ 17 ปี เขาได้เริ่มต้นชีวิตนักฟุตบอลอาชีพกับสโมสรในบ้านเกิดคือ Stutgart Kickers (สโมสรในดิวิชั่น 2) ในฐานะเด็กฝึกหัด และก็เหมือนเด็กดาวรุ่งทั่วไป คลินส์มันน์ต้องรอโอกาสในการขึ้นทีมชุดใหญ่อยู่ 2-3 ปี ก่อนประกาศศักดากลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญในทีมชุดใหญ่ของสโมสรได้ในปี 1982 พร้อมกับค้นพบความสามารถในการทำประตูในตัวเอง ในฤดูกาล 83-84 เขายิงไปถึง 19 ประตู ในปี 1984 ฟอร์มอันร้อนแรงของคลินส์มันน์ได้ไปเตะตายักษ์ใหญ่ในบุนเดสลีก้าเข้า Vfb Stutgart ได้เซ็นสัญญาเขามาร่วมทีมและในอีก 3 ปีต่อมาเขาก็ถูกเรียกขึ้นไปติดทีมชาติ เขาลงเล่นในทีมชาตินัดแรกในนัดที่เสมอกับบราซิล 1-1 ในเดือนธันวาคมปี 1987.....

การเข้าสู่เล้าไก่อย่างเป็นทางการของ “คลินซี่”

ช่วง ฤดูร้อนปี 1994 หลังจบฟุตบอลโลกที่อเมริกา สเปอร์สได้ทำช็อกโลกด้วยการเซ็นสัญญานักเตะที่ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะระดับโลก คนหนึ่งมาอย่างไม่น่าเชื่อ เจอร์เก้น คลินส์มันน์ ดาวยิงทีมชาติเยอรมันผู้ซึ่งเพิ่งได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของเยอรมัน มาจาก โมนาโก ด้วยค่าตัวเพียง 2 ล้านปอนด์ ซึ่งหนังสือพิมพ์ daily mirror ได้ให้คำจำกัดความการย้ายทีมครั้งนี้ว่า ‘การย้ายทีมที่น่าอัศจรรย์ในรอบทศวรรษ’ คลินส์มันน์ผู้ซึ่งสามารถพูดได้คล่องถึง 4 ภาษา ให้เหตุผลถึงการย้ายเข้ามาสู่ลอนดอนว่าเขาต้องการย้ายมาเล่นในลีกที่เน้นเกม บุกอย่างพรีเมียร์ลีก เพราะการเล่นในฝรั่งเศสเขาไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไรในฤดูกาลที่ผ่านมา เขาทำไปเพียง 10 ประตูเท่านั้น....ในฤดูกาลนั้นเขาได้มาร่วมล่าประตูกับ เท็ดดี้ เชอริ่งแฮม ดาวยิงตัวเก่งของทีมตราไก่ ดาเรน แอนเดอร์ตั้น, นิค บาร์มบี้ และนักเตะใหม่ที่เซ็นสัญญามาในช่วงเวลานั้นดูโอทีมชาติโรมาเนีย ‘อิลี่ ดูมิเตรสคู’ และ ‘จอจี้ โปเปสคู’ .......นับว่าเป็นฤดูกาลที่มีความหวังมากสำหรับทีมตราไก่

ฤดูกาลแห่งความทรงจำบนเกาะอังกฤษ

คลิ้นส์มัน น์ เมื่อย้ายมาใหม่ๆก็ต้องเผชิญกับคำครหาจากสื่อมวลชลอังกฤษว่าเป็น “จอมพุ่งล้ม” เพื่อเอาฟรีคิกและจุดโทษ คลินส์มันน์ต้องพยายามใช้ความสามารถที่มีอยู่ในตัวเขาเพื่อเอาชนะคำครหา เหล่านี้ ซึ่งเขามีความมุ่งมั่นว่าต้องทำได้แน่นอน และในช่วงเดือนแรกคำครหาที่มีอยู่ในตัวเขาก็หมดไปเมื่อเขาซัด 6 ประตู จาก 6 เกม ในพรีเมียร์ลีก คว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นเดือนแรกที่เขาเข้ามาร่วมทีมเท่านั้น ทำให้เขาสามารถเข้ามาอยู่ในใจแฟนบอลทีมตราไก่ได้อย่างรวดเร็ว แต่จะเป็นเพราะสัญชาติญาณที่มีอยู่ในตัวเขาหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้หรืออาจจะ ประชดสื่อ ทันทีที่เขายิงประตูแรกให้ทีมในการลงสนามนัดแรก ที่พบกับ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ เขาแสดงท่าดีใจด้วยการพุ่งหลาวไปกับพื้น (ซึ่งกลายเป็นท่าดีใจที่คลาสสิคจนมาถึงทุกวันนี้) พร้อมเพื่อนร่วมทีมทุกคน ในส่วนของชีวิตส่วนตัวของเขาในอังกฤษ เขาเป็นคนที่ค่อนข้างติดดินมาก ในวันซ้อมวันแรกที่สนามซ้อมของสโมสรเพื่อนร่วมทีมทุกคนต่างรอคอยสตาร์ระดับ โลกที่เพิ่งเข้ามาร่วมทีมอย่างใจจดใจจ่อ ทุกคนต่างขับรถสปอร์ตรุ่นใหม่ราคาแพง แต่คลิ้นสมันน์กลับมาถึงสนามซ้อมด้วยรถเต่าราคาถูกๆ .....

ในฤดูกาล นั้นถึงแม้ว่าในแนวรุกของสเปอร์สจะร้อนแรงแต่แนวรับกับเป็นจุดอ่อนที่คอยฉุด ทีมไม่ให้มีอันดับที่ดีเท่าไร ซึ่งจากจุดนี้เป็นผลให้ ออสซี่ อาดิเลส ถูกปลดจากตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน ผู้จัดการทีมที่เข้ามาแทนก็คือ เจอรี่ ฟรานซิส ซึ่ง เจอรี่ ได้มาทำให้แนวรับของสเปอร์สแข็งแกร่งขึ้นขณะที่ คลินส์มันน์ กับ เชอริ่งแฮม ก็ช่วยกันยิงประตูกันอย่างต่อเนื่องจนทำให้ท้ายที่สุดสเปอร์สจบฤดูกาลนั้น ด้วยอันดับ 7 ซึ่งนับเป็นอันดับที่ดีที่สุดตั้งแต่ตั้งพรีเมียร์ลีกมา (จนถึงทุกวันนี้) และพาทีมเข้าสู่รอบ semi-final ใน FA-Cup ถึงแม้ว่าจะทำประตูได้ด้วยในนัดนั้นแต่ก็พ่ายต่อ เอฟเวอร์ตัน ไป จบฤดูกาลนั้น คลินส์มันน์ ซัดไปถึง 29 ประตูในทุกถ้วย ฟอร์มอันร้อนแรงของเขาทำให้เขาได้รับเลือกให้เป็น ‘นักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำปีของอังกฤษ’ แต่นั่นก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้สเปอร์สได้ไปเล่นฟุตบอลสโมสรยุโรป และก็เป็นปัจจัยที่ทำให้คลินส์มันน์ได้ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม บาเยิร์น มิวนิคในบ้านเกิด ทิ้งไว้แต่ฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมของเขากับสเปอร์ส ถึงแม้ว่าเขาจะย้ายไปร่วมทีมที่เขาไปประสบความสำเร็จอย่าง บาเยิร์น มา 2 ปี แล้วจากนั้นเขาก็ย้ายไปร่วมทีม ซามพ์โดเรีย ในอิตาลี ซึ่งเป็นการกลับไปอิตาลีเป็นครั้งที่สอง หลังจากที่เคยค้าแข้งกับ อินเตอร์ มาครั้งหนึ่ง แต่ที่ ลา ซามพ์ เขาไม่ค่อยได้รับโอกาสเท่าไรในวัย 34 ปี ในขณะเดียวกันที่ สเปอร์ส สถานการณ์ในขณะนั้นเลวร้ายสุดๆ เสี่ยงต่อการตกชั้นเป็นครั้งแรก ภายใต้การคุมทีมของ คริสเตียน โกรส ชาวสวิตเซอร์แลนด์ สโมสรได้ตัดสินใจยืมตัวคลิ้นส์มันน์มาจาก ลา ซามพ์ ด้วยสัญญา 6 เดือน...เขาย้ายมาร่วมทีมในเดือนธันวาคม ปี 1997 ซึ่งไฮไลท์ประจำฤดูกาลเกิดขึ้นเมื่อสเปอร์สต้องการชนะวิมเบิลดันเพื่อ การันตีความอยู่รอด นัดนั้น คลินส์มันน์ ยิงถึง 4 ประตู ในชัยชนะ 6-2 ทำให้สเปอร์สรอดจากการตกชั้นอย่างหวุดหวิด พอจบฤดูกาลนั้น คลินส์มันน์ ได้แขวนสตั๊ดหลังจากจบศึกฟุตบอลโลกที่ฝรั่งเศส ปี 98 เขาได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า .....”ผมรู้สึกถึงมีความสัมพันธ์ที่ผมมีต่อแฟนบอลอังกฤษเป็นอย่างดี โดยเฉพาะแฟนสเปอร์ส ที่เป็นแฟนบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุดในบันดาสโมสรต่างๆที่ผมเคยเล่นให้ ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตของผมเกิดขึ้นที่ลอนดอนที่ซึ่งผมมีความ สุขมาก”

การหวนคืนถิ่นของฮีโร่ของเรา

ช่วงกลางฤดูกาล 2002-2003 ทางสเปอร์สได้จัดฟุตบอลแมทช์การกุศลเพื่อหาเงินเข้ากองทุน Tottenham Tribute Trust ซึ่งจุดประสงค์ของกองทุนนี้ตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือและให้เงินแก่นักเตะเก่าๆ ของสเปอร์สที่ตกระกำลำบาก ฟุตบอลนัดนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2002 เป็นการแข่งขันระหว่างทีมรวมดาราสเปอร์ส กับ DC United จากอเมริกา ฟุตบอลนัดนี้แฟนทีมตราไก่ที่เข้าไปชมต้องการที่จะไปชมขวัญใจในอดีตของพวกเขา ลงเล่นด้วยเคียงข้างกัน นั่นนับเป็นความสุขใจประการหนึ่งเลยทีเดียว และแน่นอน เจอร์เก้น คลิ้นสมันน์ ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมเล่นในแมทช์การกุศลในแมทช์นี้หลังจากอำลาทีมไปเมื่อ 5 ปีก่อน ในนัดนี้เขาจะได้ลงเล่นจับคู่กับพาร์ทเนอร์เก่าของเขาที่ช่วยกันล่าประตูใน ฤดูกาล 1994-1995 เท็ดดี้ เชอร์ริ่งแฮม รวมถึงสุดยอดเพลย์เมกเกอร์อดีตทีมชาติ อังกฤษ ‘อ้วนซ่า’ พอล แกสคอยน์ และ ปีกชาวฝรั่งเศสเจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของอังกฤษ ดาวิด ชิโนล่า รวมถึง คริส ว็อดเดิล ก็มาร่วมด้วย ยังมีดาวรุ่งและนักเตะปัจจุบันร่วมทีมอีก แต่เสียดายที่ เกล็น ฮอดเดิล ได้รับบาดเจ็บกระทันหัน ทำให้ต้องถอนตัวไป แมทช์ในคืนนั้นจบลงด้วยชัยชนะของ DC United 1-0 แต่เหนืออื่นใดแฟนสเปอร์สไม่ได้สนใจผลการแข่งขันเท่าไร เพราะในค่ำคืนอันชื่นมื่นนี้พวกเขาได้พบกับนักเตะที่เป็นตำนานของสโมสรลง เล่นด้วยกัน และรวมถึงขบวนพาเรดของยอดนักเตะในอดีตเท่าที่จะมาร่วมงานได้ และหนึ่งในนั้นก็มีผู้จัดการทีมที่เป็นตำนานของสเปอร์สตลอดกาล “บิล นิโคลสัน”

รายชื่อนักเตะในวันนั้น :
ครึ่งแรก : (4-4-2) เคลเลอร์, มาร์นีย์ , เพอร์รี่ , โดเฮอร์ตี้ , บันเจฟเซวิซ , โปเยต์ , แกสคอยน์ , ฟรอยด์ , ชิโนล่า , เชอริ่งแฮม , คลินส์มันน์
ครึ่งหลัง : (4-4-2) เฮิชเฟลด์ , คาร์ , ร.เฮนรี่ , คัลเดอร์วู๊ด (ส.เคลลี่ แทน น.76) , มาร์นีย์ ( พ.อัลเลน แทน น.76) , ว็อดเดิล , แกสคอยน์ (บล็งเดล แทน น.50) , ส.คลีเมนซ์ , ชิโนล่า (เอทเธอริงตัน แทน น.57), เชอริ่งแฮม (เรบรอฟ แทน น.50) , คลินส์มันน์ (ค.อัลเลน แทน น.65)
<><>

Personal information
Date of birth 30 July 1964 (1964-07-30) (age 44)
Place of birth Göppingen, West Germany
Height 1.82 m
Playing position Striker




เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์