สุดยอดเจ้าพ่อลูกนิ่ง ฟรีคิกมหากาฬ

โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต นายทวารจอมปั่นฟรีคิก





จะเอาแบบหนักหน่วงรุนแรงปานสายฟ้าผ่า, หรือต้องการความโค้งราวกับสายรุ้ง ลองถามตัวคุณเองซิว่า คุณชอบฟรีคิกแบบไหน?


ความเชื่อที่เปลี่ยนไปแล้ว ว่าการทำประตูจากลูกฟรีคิกคือหนึ่งในเสน่ห์ที่ชวนหลงใหลในโลกของฟุตบอล, โดยเฉพาะเมื่อมันถูกสร้างสรรค์โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง


ถามตัวคุณเองซิว่า คุณมาจากโรงเรียนสอนฟุตบอลของ สจ๊วต เพียซ อดีตแบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษ เจ้าของฉายา (ไซโค) หรือเปล่า ถ้าใช่คุณคงเป็นคนที่ชอบ ฟรีคิกที่เต็มไปด้วยความหนักหน่วงรุนแรงของลูกบอลเท่าที่จะเป็นไปได้ หรือถ้าคุณชอบความสวยงามของลูกฟุตบอลที่มีลักษณะโค้งราวกับคันธนูแล้วละก็ คุณต้องชอบ เดวิด เบ็คแฮม เป็นแน่ หรือคุณอาจจะชอบทั้งสองอย่างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เอาล่ะ นั่งลง แล้วจงเพลิดเพลินไปกับ 13 อันดับ จอมสังหารฟรีคิกบรรลือโลกที่ช่วยเติมแต่งเกมลูกหนังให้ดูน่าพิศวงกันเถอะ และแน่นอนถ้าคุณไม่เห็นด้วยกับรายชื่อข้างล่างนี้ จงบอกความคิดของคุณให้เรารู้บ้างก็จะดีไม่น้อย!!



อันดับ 10 โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต
อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติปารากวัยผู้นี้ คือหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่พระเจ้าสร้างขึ้น ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพนักฟุตบอลของเขา มันมากกว่าการที่เขาถูกยกย่องให้เป็นตำนานนักเตะของประเทศ แต่ความภาคภูมิใจของเขาคือความกล้าบ้าบิ่นรวมไปถึงพรสวรรค์ที่มีอยู่ในตัว เป็นเรื่องปกติที่เรามักจะเห็นเขาออกมาจากบริเวณปากประตูของตัวเอง ขึ้นมายังปากประตูของคู่แข่งเพื่อรับหน้าที่สังหารลูกฟรีคิกให้กับทีมอยู่เสมอ หลายประตูด้วยกันที่ถูกสร้างสรรค์โดยเท้าซ้ายข้างถนัด จนติดตราตรึงใจกันมานักต่อนักแล้ว และสิ่งที่น่าเหลือเชื่ออีกอย่างที่คุณอาจยังไม่เคยรู้ก็คือ ครั้งหนึ่งเขาเคยทำประตูได้จากระยะกว่าครึ่งสนามในแดนของตนเองมาแล้ว


 




อันดับ 9. โรแบร์โต้ คาร์ลอส,  สจ๊วต เพียซ
โรแบร์โต้ คาร์ลอส อดีตแบ็กซ้ายหมายเลขหนึ่งของโลกทีมชาติบราซิล เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีชื่อเสียงด้านการสังหารฟรีคิกอีกคนที่เรารู้จักกันดี คาร์ลอส พยายามหาหนทางพลิกแพลงลูกฟรีคิกจากระยะที่ไกลมาก จนวันหนึ่งเมื่อมันได้ผล มันคือความยอดเยี่ยมหาที่ติไม่ได้,  คาร์ลอส เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องการสังหารฟรีคิกเมื่อปี 1997 ในแมตช์ที่ทีมชาติบราซิล พบกับ ฝรั่งเศส จากฟรีคิกระยะร่วม 35 หลา คาร์ลอส บรรจงวางลูกบอลที่จุดเตะ ก่อนที่จะถอยหลังร่วมๆ 10 หลา และวิ่งเข้าไปสับไกด้วยซ้ายอันทรงพลัง บอลหนีกำแพง และกรอบประตูออกไปร่วมๆ 3 หลาบอลทำท่าว่าจะออกหลังแบบไม่ได้ลุ้น แต่สิ่งที่เห็นก็คือมันเหลือเชื่อที่บอลเปลี่ยนทิศทางเลี้ยวกลับเข้าหากรอบประตูกะทันหันและเข้าประตูไปในที่สุด ชนิดที่ ฟาเบียง บาร์กเตซ ไม่ทันได้ขยับตัวด้วยซ้ำ และจากฟรีคิกของ คาร์ลอส ลูกนี้เองมันถูกตั้งชื่อว่า “บานาน่า” คิก ในภายหลัง
http://www.youtube.com/watch?v=crSkWaJqx-Y&NR=1


สจ๊วต เพียซ
เมื่อใดก็ตามที่เราเห็น สจ๊วต เพียซ ใส่อารมณ์กับลูกฟุตบอล เรารู้ได้ทันทีว่าหายนะกำลังจะเกิดขึ้น มันเหมือนสงครามโลกครั้งที่ 3 ยังไงหยั่งงั๊น เท้าซ้ายอันทรงพลังของเขา เป็นที่กล่าวขานกันมากที่สุดในเกมเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ปี 1991 ในแมตช์ที่พบกับ สเปอร์ส



อันดับ 8. พอล แกสคอยน์, แมตธิว เลอ ทิสซิเอร์
พอล แกสคอยน์ หรือ “แกสซ่า” คือหนึ่งในผู้เล่นทีมชาติอังกฤษที่มีลีลาการเล่นที่เปี่ยมไปด้วยเวทมนตร์ชื่อของ “แกสซ่า” ถูกจดบันทึกไว้ในประวัตศาสตร์ลูกหนังเมืองผู้ดี กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สนามเวมบลีย์ เมื่อปี 1991 ในแมตช์ที่ สเปอร์ส พบ กับ อาร์เซน่อล ในรอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ ในปีนั้น ผลจบลงที่ สเปอร์ส เอาชนะ อาร์เซน่อลไป 3-1 เป็นลอนดอนดาร์บี้แมตช์ที่แฟนๆ สเปอร์ส จะต้องจดจำไปอีกนาน เพราะนอกจากที่ทีมรักชนะคู่ปรับร่วมเมืองได้แล้ว สิ่งที่ยังติดตาตรึงใจมิอาจลืมก็คือฟรีคิกของ “แกสซ่า” ในเกมวันนั้นที่สุดแสนจะน่าทึ่ง


แมตธิว เลอ ทิสซิเอร์
เป็นที่ทราบกันดีว่าในทศวรรษที่ 90 แมทธิว เลอ ทิสซิเอร์ ศูนย์หน้ามาดละเมียดผู้นี้ คือทุกสิ่งทุกอย่างของสโมสรเซาแธมป์ตัน และมันก็เป็นแบบนั้น เช่นเดียวกับจำนวนประตูนับโหลที่สุดแสนจะมหัศจรรย์อันเกิดจากการเล่นลูก โอเพ่น เพลย์ จนเขาถูกขนานนามให้เป็นพระเจ้าแห่งความตาย เขามักจะทำอะไรให้มันผิดแผกแตกต่างไปจากคนทั่วไป ในปี 1994 แมตช์ที่พบกับ วิมเบิลดัน เลอ ทิสซิเอร์ จงใจที่จะฝ่าฝืนประเพณีทั้งหมดในการที่จะปั่นฟรีคิกจากระยะหวังผลให้ข้ามกำแพง เขากระดกบอลขึ้นจากพื้น แล้วตัดสินใจฮาล์ฟวอลเลย์จากระยะ 25 หลาเข้าประตูไปแบบเหนือจิตนการของมนุษย์ธรรมดาจะมี และจนถึงวันนี้ฟรีคิกลูกนั้นของเขายังอยู่ในความทรงจำ



อันดับ 7.  ปีแอร์ ฟาน ฮอยดองค์
ปีแอร์ ฟาน ฮอยดองค์ ชื่อนี้อาจเคยถูกโจมตี หรือถูกซบประมาทว่าเขาเป็นนักเตะที่เร่ร่อนไปทั่ว, แต่ ฮอยดองค์ ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถที่มีอยู่ในตัวในเรื่องการสังหารฟรีคิก และความหมายของคำว่าฟรีคิกได้เป็นอย่างดี แม้มันอาจดูไม่น่ากลัวถึงขั้นเทพ แต่แฟนๆ เซลติก และ น็อตติ้งแฮม ฟอร์เรส จะยกมือเป็นพยานให้กับเขา ว่าตลอดระยะเวลาที่ ฮอยดองค์ อยู่ที่นั่นมันมีความพิเศษเล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้นเสมอๆ ในแต่ละเกมที่เขาลงสนาม


 


อันดับ 6. ซุนซูเกะ นากามูระ
เจ้าของรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยม เจลีค ปี 2000, รางวัลรองเท้าเงิน ฟีฟ่า คอนเฟเดเรตชั่นส์ คัพ ปี 2003, ผู้เล่นยอดเยี่ยมของฟุตบอล เอเชียน คัพ ปี 2004, ผู้เล่นยอดเยี่ยมของสกอตติช พรีเมียร์ลีก ปี 2007, นักเตะเอเชียหนึ่งเดียวของลิตส์ นากามูระ คือผู้เล่นชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ทำประตูได้ใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และถือเป็นผู้เล่นคนที่ 2 ของเอเชียที่ทำได้, นากามูระ ถือเป็นผู้เล่นซ้ายพรสวรรค์ไม่ต่างจากแข้งซูเปอร์สตาร์คนอื่นๆ ด้วยสไตล์การเล่นพลิ้วไหวผสมผสานกับความชาญฉลาดในการผ่านบอล ทำให้ชื่อของเขาเป็นที่ต้องการของหลายทีมในยุโรป โดยเฉพาะลูกตั้งเตะที่หวังผลได้ และถือเป็นเครื่องหมายการค้าของเขา,  ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มกับ แมนฯยู เมื่อปี 2006 เขาคือผู้ปั่นฟรีคิกผ่านมือเอ็ดวิน ฟาร์น เดอร์ ซาร์ ได้ทั้งเหย้าและเยือน


 


อันดับ 5. อันเดรีย ปิร์โล่
นี่คือหนึ่งในมิลฟิลด์ตัวกลางที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลก ไม่ใช่เพราะเขาอยู่กับยอดทีมแห่งอิตาลีอย่าง เอซี มิลาน และก็ไม่ใช่เพราะทีมชาติอิตาลีคือแชมป์โลกทีมปัจจุบัน แต่เป็นเพราะฝีเท้าที่เข้าขั้นเวิลด์คลาสต่างหากที่ทำให้ ปิร์โล คว้ารางวัลมาแล้วมากกมาย กล่าวกันว่า อิตาลี เป็นแชมป์โลกได้ไม่ใช่เพราะ มาร์เซลโล่ ลิปปี้, ลูก้า โทนี่ หรือ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ ผู้เล่นยอดเยี่ยมของทัวร์นาเม้นท์ดังกล่าวเพียงอย่างเดียว แต่กับฟอร์มที่โดดเด่นไม่แพ้กันของ ปิร์โล่ ก็มีส่วนสำคัญไม่น้อย ด้วยสไตล์การเล่นที่ง่ายๆ แต่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ บวกกับความแน่นอนในการผ่านบอลทั้งสั้นยาว และการยิงฟรีคิกที่ยากที่จะเดาทิศทาง



อันดับ 4. ดิเอโก้ มาราโดน่า
เทพบุตร และ ซาตาน ของวงการลูกหนังที่ผู้คนทั่วโลกมิอาจลืมเลือน ดิเอโก้ มาราโดน่า คือนักเตะที่ดีที่สุดที่โลกเคยมี และเป็นนักเตะในตำนานของประเทศอาร์เจนติน่า การทำประตูที่น่าทึ่ง 2 ประตูในศึกฟุตบอลโลกปี 1986 ในแมตช์ที่ทีมชาติอาร์เจนติน่า พบกับทีมชาติอังกฤษ คือสิ่งที่บอกความเป็นตัวตนอย่างชัดเจนที่สุดในอาชีพนักเตะของเขา แต่น้อยคนนักที่จะรู้ดีถึงความสามารถอีกอย่างของ มาราโดน่า นั่นก็คือการสังหารฟรีคิก ที่นักเตะรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขาในสมัยนั้น จะรู้ดีว่าเขาคือตัวสังหารฟรีคิกที่อันตรายที่สุด ด้วยเอกลักษณ์ที่เป็นตัวของตัวเองก็คือ เขาจะยืนห่างจากลูกบอลเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น



อันดับ 3. จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่
มาถึงอันดับ 3 กันแล้ว, จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ เพลย์เมคเกอร์ ชาวบราซิเลี่ยนผู้ที่ถูกจารึกชื่อให้เป็นผู้สร้างสรรค์ฟรีคิกที่ดีที่สุดคนหนึ่ง ในโลกฟุตบอลสมัยใหม่ ทันทีที่แสงไฟของฟุตบอลรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สว่างขึ้นลูกยิงอันน่าทึ่งของเขาจะปรากฏสู่สายตาแก่ทุกคนอยู่เสมอ ในปี 2006 ลียง ถูกยกให้เป็นทีมที่มีเกมรุกดีที่สุดในยุโรป และกว่า 45% ของจำนวนประตูที่ ลียง ทำได้ มันมาจากฟรีคิกของ จูนินโญ่ ด้วยฟุตบอลที่มีลักษณะส่าย และเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วขณะลอยอยู่กลางอากาศจนไม่อาจคาดเดาทิศทางของลูกได้ คือเอกลักษณ์เฉพาะ ที่หาใครลอกเลียนแบบได้ กว่า 40 ประตูคือสถิติที่ จูนินโญ่ ทำประตูได้จากลูกนิ่งให้กับ โอลิมปิก ลียง



อันดับ 2. เดวิด เบ็คแฮม, ซินิซ่า มิไฮจ์โลวิช
เมื่อชาติต้องการเขามากที่สุดในช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตาย ทีมชาติอังกฤษ ของ เบ็คแฮม ลงเล่นเกมสุดท้ายของฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกปี 2002 กับกรีซ อังกฤษต้องการหนึ่งประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเพื่อแรกกับการได้ตั๋วไปเตะรอบสุดท้ายที่ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ และแล้ว เบ็คแฮม ก็โกงความตายให้กับอังกฤษได้สำเร็จ เขาบรรจงปั่นฟรีคิกลูกนั้นท่ามกลางความกดดัน และความหวังของคนทั้งประเทศ พาทีมชาติอังกฤษทะยานผ่านเข้าไปเตะฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2002 ได้สำเร็จ มันเหมือนพระเจ้าจะลิขิตเอาไว้ล่วงหน้า เพราะท่ามกลางสถานการณ์ที่บีบคั้น มันมักจะสร้างวีรบุรุษอยู่เสมอ


ซินิซ่า มิไฮจ์โลวิช
ภาพเหตุการณ์ที่คุณมักจะเห็นอยู่เสมอๆ ในโลกของฟุตบอลอย่างหนึ่งก็คือ เมื่อทีมของคุณตัดสินใจขายซูเปอร์สตาร์ในทีมให้กับทีมคู่แข่ง และในซีซั่นต่อมาเรามักจะได้เห็นเขาเหล่านั้นกลับมาทำประตูทีมเก่าอยู่เสมอๆ มิไฮจ์โลวิช คือหนึ่งในนั้น แฟนๆ ของทีมซามพ์โดเรีย คงยังจำกันได้ ในปี 1998 มิไฮจ์โลวิช ซึ่งในขณะนั้นกลับมายังซามพ์โดเรีย ถิ่นเก่า แต่คราวนี้เขากลับมาในฐานะนักเตะของ ลาซิโอ เขาสามารถทำแฮททริกได้ในเกมวันนั้น ที่แปลกก็คือโดยตำแหน่ง มิไฮจ์โลวิช คือผู้เล่นในตำแหน่งกองหลัง แต่ที่แปลกไปกว่านั้นและหาดูได้ยากมากก็คือ 3 ประตูที่เกิดขึ้น มันเกิดมาจากผลงานการสร้างสรรค์ลูกฟรีคิกของแบ็กอดีตทีมชาติเซอร์เบียร์ ผู้นี้ทั้ง 3 ประตู ซึ่งมันไม่ได้ฟลุค 27 ประตูจากลูกฟรีคิกในกัลโช่ เซเรีย อา จนบัดนี้ยังไม่มีใครมาทำลายสถิตินั้นได้



อันดับ 1.อเลสซานโดร เดล ปิร์เอโร่
นี่คือผู้เล่นที่จะไม่อยู่ในลิสต์ของเราไม่ได้เลย, เดล ปิเอโร่ คือผู้ที่มีสถิติการสังหารฟรีคิกเป็นผลสำเร็จมากที่สุด กล่าวกันว่าหากคุณทำฟาวล์ในระยะทำการของเขาแล้ว คุณจะไม่ไปผะวงกับลูกฟุตบอลเลยว่าจะตั้งตรงจุดหรือไม่ ถูกกินแดนมากน้อยแค่ไหน แต่สิ่งแรกที่คุณจะทำคือมองดูซิว่า เดล อยู่ในสนามหรือเปล่า เพราะจะว่าไปแล้วมันเหมือนทีมคุณกำลังเสียจุดโทษยังไงหยั่งงั๊น โดยเฉพาะนอกกรอบเขตโทษเยื้องไปทางซ้ายมือเล็กน้อยแล้วล่ะก็ไม่ว่ายูเวนตุส จะไปเตะที่สนามใดก็ตาม มันจะถูกตั้งชื่อว่า เดอะ เดล ปีเอโร่ โซน ไปโดยปริยาย
http://www.youtube.com/watch?v=YGebxDnwV7s


 ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก www.hotleague.com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์