แดงเดือดปะทุ!ผีปะทะแข้งหงส์คืนนี้


แดงเดือดปะทุ!ผีปะทะแข้งหงส์คืนนี้


ศึก แดงเดือด คืนนี้ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงมีการปรับทัพเล็กน้อยเพื่อความสด ในการเปิดบ้านรับการมาเยือนของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่ต้องการกลับสู้เส้นทางลุ้นแชมป์เป็นอย่างยิ่ง คืนนี้จะระอุแค่ไหน ไปติดตามความพร้อมทั้งสองทีมก่อนเริ่มเกมครับ




ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 14 มีนาคม 2552
แมนฯ ยูไนเต็ด (1) - ลิเวอร์พูล (3)
เวลา : (19.45 น.) ทรูสปอร์ต 1 (59)

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ ปีศาจแดง เตรียมปรับทัพเล็กน้อยเพื่อความสด หลังผ่านเกมใหญ่ที่เอาชนะ อินเตอร์ มิลาน 2-0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แนวรุกยังคงใช้สามประสาน คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์ และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ขณะที่ คาร์ลอส เตเวซ ก็มีโอกาสสอดแทรกลงสนามเช่นกัน

ส่วนแดนกลางน่าจะพัก พอล สโคลส์ กับ ไรอัน กิ๊กส์ สองตัวเก๋า และส่ง พาร์ค ชี-ซอง กับ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ลงไปเติมความสดแทน

ขณะที่แนวรับ แกรี่ เนวิลล์, เวส บราวน์ และ ราฟาเอล ดา ซิลวา ยังบาดเจ็บอยู่ทั้งหมด ทำให้หน้าตาแผงหลังยังคงเหมือนเดิม

ระบบการเล่น 4-4-2 เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้ จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า แดนกลางมี พาร์ค ชี-ซอง, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ส่วนคู่หน้า เวย์น รูนี่ย์ ยืนคู่ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

ด้าน ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือ หงส์แดง เพิ่งนำทีมโชว์ฟอร์มเฉียบเช่นกัน ด้วยการเปิดรัง แอนฟิลด์ ถล่ม เรอัล มาดริด 4-0 ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ เรียกความเชื่อมั่นให้นักเตะก่อนเกมนี้ได้เป็นอย่างดี

สภาพทีมยังจะได้ อัลเบิร์ต ริเอร่า ปีกซ้ายสแปนิช พ้นโทษแบนจากเกมยุโรปกลับสู่ทีม แต่ในราย ยอสซี่ เบนายูน ยังคงเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ไม่พร้อมช่วยทีมในเกมนี้ เช่นเดียวกับ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ ที่ยังคงเจ็บหลังอยู่

อย่างไรก็ตาม บรรดาตัวหลักอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม และ เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกมาพักในช่วงท้ายเกมกับ มาดริด พร้อมเป็นตัวหลักในเกมนี้ทั้งคู่

ระบบการเล่น 4-2-3-1 โฆเซ่ มานูเอล เรน่า ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้งาน อัลบาโร่ อาร์เบลัว, มาร์ติน สเคอร์เทล, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ฟาบิโอ ออเรลิโอ แดนกลางมี ชาบี อลอนโซ่ กับ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ เป็นตัวรับ ส่วนตัวรุกมี เดิร์ค เค้าท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, อัลเบิร์ต ริเอร่า หน้าเป้าเป็นหน้าที่ของ เฟร์นานโด ตอร์เรส

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-4-2) : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า, พาร์ค ชี-ซอง, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : โฆเซ่ มานูเอล เรน่า, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, มาร์ติน สเคอร์เทล, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, ชาบี อลอนโซ่, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, เดิร์ค เค้าท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, อัลเบิร์ต ริเอร่า, เฟร์นานโด ตอร์เรส

ผู้ตัดสิน : อลัน ไวลี่ย์

เฮด-ทู-เฮด

*มีนักเตะถูกไล่ออก 3 รายจาก 4 เกมพรีเมียร์ลีกหลังสุดที่พบกัน โดยเป็น เนมันย่า วิดิช และพอล สโคลส์(แมนฯ ยูไนเต็ด) และฮาเวียร์ มาสเคราโน่(ลิเวอร์พูล)

*ลิเวอร์พูลไม่ชนะที่โอลด์แทร็ฟฟอร์ดตั้งแต่บุกชนะ 1-0 เมื่อ 24 เมษายน 2004 จากจุดโทษในครึ่งเวลาหลังของแดนนี่ เมอร์ฟี่

*ทีมจากเมอร์ซี่ไซด์เอาชนะแบบไป-กลับเหนือแมนฯ ยูไนเต็ดแค่ 2 ครั้งในพรีเมียร์ลีก โดยเป็นฤดูกาล 2000-01 และ2001-02


เหย้า และเยือน

*ในลีก : แมนฯ ยูไนเต็ดชนะ 58, ลิเวอร์พูลชนะ 50 และเสมอ 43

*เฉพาะพรีเมียร์ลีก :  แมนฯ ยูไนเต็ดชนะ 18, ลิเวอร์พูลชนะ 8 และเสมอ 7
 ในบ้านแมนฯ ยูไนเต็ด

*ในลีก :  แมนฯ ยูไนเต็ดชนะ 36, ลิเวอร์พูลชนะ 14 และเสมอ 25
 
*เฉพาะพรีเมียร์ลีก :  แมนฯ ยูไนเต็ดชนะ 9, ลิเวอร์พูลชนะ 3 และเสมอ 4


แมนฯ ยูไนเต็ด

*ชนะ 4 นัดรวด แต่ไม่ชนะนัดเดียวจาก 16 นัดหลังสุดในทุกๆ รายการ โดยแพ้แค่ 1 จาก 31 นัด

*ชนะรวด 11 นัดในพรีเมียร์ลีกในเกมพบกับ สโต๊ค(เยือน), มิดเดิ้ลสโบรช์(เหย้า), เชลซี(เหย้า), วีแกน(เหย้า), โบลตันฯ(เยือน), เวสต์บรอม(เยือน), เอฟเวอร์ตัน(เหย้า), เวสต์แฮม(เยือน), ฟูแล่ม(เหย้า), แบล็คเบิร์น(เหย้า) และนิวคาสเซิ่ล(เยือน)

*หากพวกเขาชนะเดียวในเกมนี้จะทำสถิติดีที่สุดใหม่ในพรีเมียร์ลีกของพวกเขาด้วยการชนะ 12 นัดรวด และไล่ตามสถิติตลอดกาลของอาร์เซน่อลที่ 13 นัด

*ไม่แพ้ติดต่อกัน 16 นัดในลีก โดยชนะ 14 และเสมอ 2 ตั้งแต่บุกไปแพ้อาร์เซน่อลเมื่อ 8 พ.ย. ซึ่งเป็นครั้งเดียวจาก 23 นัดหลังสุดในลีกสูงสุด

*เก็บได้มากกว่าช่วงเดียวกันของฤดูกาลที่แล้ว 4 แต้ม และต่ำกว่าฤดูกาลก่อนหน้านั้น 1 แต้ม ซึ่งพวกเขาได้แชมป์ลีกทั้งสองซีซั่น

*ยิงได้อย่างน้อย 1 ลูกจาก 11 เกมลีกหลังสุด และยิงไม่ได้แค่ 1 จาก 14 นัดในเกมเจ๊าสเปอร์สเมื่อ 13 ธ.ค. และยิงไม่ได้แค่ 2 นัดตลอดฤดูกาลโดยอีกเกมคือการเยือนแอสตัน วิลล่า เมื่อ 22 พ.ย. 
 
*ลุ้นชนะ 13 นัดรวดในลีก โดยพวกเขาไม่แพ้ 18 นัดรวดในโรงละครแห่งความฝันติดต่อกันตลอดปี โดยชนะ 17 และเสมอ 1(ต่อนิวคาสเซิ่ลเมื่อ 17 ส.ค.) ตั้งแต่พ่าย แมนฯ ซิตี้ เมื่อ 10 ก.พ. 2008 ซึ่งเป็นความพ่ายแพ้นัดเดียวจาก 32 นัดหลังในบ้าน

*ต้องการแค่ประตูเดียวจะเป็นสโมสรแรกที่ยิงในรังได้ครบ 700 ลูกในพรีเมียร์ลีก

*ชนะ บิ๊กโฟร์ ได้เพียงเกมเดียวในฤดูกาลนี้ โดยเป็นเกมชนะเชลซี 3-0 ซึ่งนอกจากนั้นพวกเขาแพ้เกมเยือนลิเวอร์พูล และอาร์เซน่อล รวมถึงอีกนัดที่เสมอเชลซีนอกบ้าน

*ยังมีเกมหนักในรังกับ แอสตัน วิลล่า ในวันที่ 5 เมษายน


ลิเวอร์พูล

*ความพ่ายแพ้ต่อมิดเดิ้ลสโบรช์ในเกมเยือนนัดล่าสุดเมื่อ 28 ก.พ. เป็นแค่หนึ่งในสองจาก 35 เกมพรีเมียร์ลีกเท่านั้น

*เก็บได้ 58 แต้มจาก 28 เกมที่กว่าฤดูกาลที่แล้ว 5 แต้ม และยังดีที่ที่สุดตั้งแต่เล่นในพรีเมียร์ลีก โดยครั้งล่าสุดที่ดีกว่านี้คือฤดูกาล 1990-91 ที่ทีมเก็บได้ 60 แต้ม และได้รองแชมป์ในปีนั้น

*แพ้แค่ 1 จาก 14 เกมลีกที่พวกเขายิงได้ก่อนโดยเป็นเกมเยือนสเปอร์ส

*11 จาก 45 ประตูในลีกเกิดขึ้นในช่วง 10 นาทีสุดท้าย 

*ชนะถึง 5 จาก 9 นัดที่เสียประตูให้คู่แข่งไปก่อน และแพ้ครั้งเดียวในเกมเยือนมิดเดิ้ลสโบรช์

*ยังไม่แพ้ทีมครึ่งบนของตาราง

*ไม่แพ้เลยต่อทีม บิ๊กโฟร์ ในฤดูกาลนี้โดยชนะเชลซีแบบไป-กลับ, ชนะแมนฯ ยูไนเต็ดในรัง และเสมอในเกมเยือนอาร์เซน่อล

*ไม่แพ้ในเกมนอร์ธ-เวสต์ ลีก ดาร์บี้ ตั้งแต่พ่ายในโปรแกรมนี้ 0-3 เมื่อ 23 มีนาคมปีที่แล้ว และชนะ 10เสมอ 3 จาก 13 นัดหลังติดต่อกันในการพบทีมท้องที่เดียวกันเกมลีกสูงสุด

*เกมนัดนี้จะเป็นเกมเหย้าก่อนรับมือแอสตัน วิลล่า ในวันที่ 22 มีนาคม

ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย  siamsport


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์