ปีศาจกระหายแชมป์


หลังจากคว้าถ้วยคาร์ลิ่งคัพเป็นแชมป์เมเจอร์รายการที่ 2 ในปีนี้ ก็มีคำถามตามมาทันทีว่า แมนฯยูไนเต็ด จะโกยซักกี่แชมป์กันแน่

มองตามความเป็นจริง ปีศาจแดงมีโอกาสแปดสิบเปอร์เซ็นต์กับพรีเมียร์ลีก ส่วนเอฟเอคัพ กับ แชมเปี้ยนส์ลีกก็สูงเกินครึ่งทั้งคู่ ถ้าไม่มีอุบัติเหตุร้ายแรงจริงๆ ก็อาจจะฟันเพิ่มได้อีกสองถ้วยเป็นอย่างต่ำ

ตรงนี้ดูจากฟอร์มกับความเป็นไปได้ ของจริงก็แล้วแต่ว่าแมนฯยูจะเน้นจะผ่อนเกมไหน หรือมีอะไรเกิดขึ้นในแต่ละเกม เพราะมันไม่มีทางได้อย่างใจไปซะหมดหรอก

จุดที่เป็นข้อได้เปรียบคือ ปีศาจแดงสามารถโรเทชั่นโดยคุณภาพไม่ตก เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จึงจัดทีมแบบผ่อนหนักผ่อนเบา กระจายงานกันไป ทำให้นักเตะไม่ค่อยช้ำ ยิ่งกว่านั้นเมื่อดูความฟิตเฉลี่ยของผู้เล่นก็เห็นชัดว่าค่อนข้างเหนือกว่าทีมอื่น
ขนาดเกมคาร์ลิ่งคัพกับสเปอร์สหวดกัน 120 นาทีเต็ม ลูกน้องเซอร์อเล็กซ์ยังวิ่งปร๋อ สปีดการเล่นไม่มีตก มองสภาพแล้วน่าจะยืนระยะลุ้นอีก 3 แชมป์ที่เหลือได้สบายๆ

ผมไม่รู้หรอกว่าแมนฯยูไนเต็ดทำได้ยังไง รู้แต่ว่าทีมอื่นยังตามไม่ทัน ไม่ว่าวัดกันจากวิธีการบริหาร การทำงานของสตาฟฟ์โค้ช หรือคุณภาพของนักเตะซึ่งเทียบกันแล้วปีศาจแดงยังหาตัวแข่งไม่เจอ ที่ใกล้สุดอาจเป็น เชลซี ส่วน ลิเวอร์พูล ยังต้องสังคายนากันอีกเยอะ

หงส์แดงอัพเกรดขึ้นมาในฤดูกาลนี้ก็จริง แต่ยังขาดอะไรอีกหลายอย่างที่ไม่พร้อมจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก

ไล่มาตั้งแต่เจ้าของทีม ทอม ฮิคส์-จอร์จ จิลเล็ตต์ ซึ่งเหมือนฝันร้ายของแฟนๆ สองคนนี้นอกจากรวยไม่จริงและไม่จริงใจกับสโมสร ยังทำตัวเป็นข่าวป่วนทีมจนขาดสมาธิ หาความนิ่งกับความสงบสุขไม่เจอ

ราฟา เบนิเตซ....คงไม่ต้องพูดอะไรมากแล้วมั้ง เอาเป็นว่าราฟาก็ทำพลาดหลายอย่าง ทิ้งนโยบายการเลือกนักเตะ การจัดทีม ผู้เล่นลิเวอร์พูลที่มีอยู่มองภาพรวมก็เห็นว่ายังไม่ดีพอ โดยเฉพาะเกมรุกซึ่งมีออปชั่นน้อยไปจริงๆ

ถ้าหงส์แดงคว่ำ พลาดทุกแชมป์ หรือไม่ได้แม้แต่ที่สองในลีก ผมอยากเห็นการปฏิวัติใหญ่ในแอนฟิลด์เสียที

ลิเวอร์พูลต้องคิดถึงการแข่งขันกับแมนฯยูและทำตัวเองให้ขึ้นไปอยู่ในระดับนั้น ใครหรืออะไรที่เป็นปัญหาก็ควรหลีกทางไปซะ

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์