DAJA VU


ดูแววแล้ว ลิเวอร์พูล ของ ราฟา เบนิเตซ คงมาแนวเดิมจากฤดูกาลก่อน คือ ไปได้สวยใน แชมเปี้ยนส์ลีก มากกว่า พรีเมียร์ลีก ปล่อยให้แฟนบอลทำใจไม่ถูกว่าควรดีใจ หรือ เซ็งเป็ดกันแน่

การบุกชนะ เรอัล มาดริด ล่าสุดคือผลงานอันยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัยแต่จะว่าไปมันก็เข้าทางลิเวอร์พูลที่ถนัดเล่นแทคติก ขึงเกมรับแล้วรอจังหวะสวน กดดันทีมชุดขาวจนอึดอัด ทำอะไรไม่เป็นพ่ายแพ้ไปอย่างพลิกล็อคสิ้นดี

แต่ถึงพลิกก็ไม่แปลก เพราะหงส์แดงชอบให้คู่แข่งบุกแล้วโต้ ถ้าไม่พลาดเองง่ายๆ ซะอย่างยังไงก็แพ้ยาก

เกมเจอ เรอัล มาดริด ต่างจากนัดเสมอ แมนฯ ซิตี้ ก่อนหน้านี้ และน่าจะไม่เหมือนบอลลีกวันเสาร์ที่จะบุกเยือน มิดเดิ้ลสโบรช์ สักเท่าไหร่

เดี๋ยวนี้ทีมพรีเมียร์ลีกด้วยกัน รู้วิธีเล่นกับลิเวอร์พูลดี ถ้าตั้งรับปิดพื้นที่แน่นๆ ปล่อยให้หงส์แดงบุกเข้าใส่เอง ลูกทีมของราฟา มักจะอืด ฝืด และค่อยๆ หมดมุข ซึ่งก็คล้ายๆ กับสิ่งที่ลิเวอร์พูลทำกับเรอัล มาดริด นั่นแหละ

มิดเดิ้ลสโบรช์ เป็นทีมเจ้าบ้านก็จริงแต่ผมไม่เชื่อว่ากุนซือ เกเร็ธ เซาท์เกท จะวางหมากให้บุกแลกด้วย โบโร่คงตื๊อไปเรื่อยๆ แล้วรอโอกาสเสียมากกว่า

สุดท้ายจึงขึ้นอยู่กับหงส์แดงเองว่าจะเปลี่ยนเกมได้ไหม ในเมื่อ เฟร์นานโด ตอร์เรส ดันเจ็บข้อเท้า สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ก็เพิ่งหายเดี้ยง จะมีส่วนร่วมได้สักแค่ไหนก็ไม่รู้

ถ้าลิเวอร์พูลต้องการรักษาโอกาสลุ้นแชมป์ ต้องเริ่มทำเบรกชนะติดต่อกันเริ่มจากเกมกับ มิดเดิ้ลสโบรช์ ตามด้วย ซันเดอร์แลนด์ วันอังคาร ก่อนจะบุกไปดวลกับจ่าฝูง แมนฯยูไนเต็ด 14 มีนาคม

ผมน่ะอยากเห็นหงส์แดงบี้กับผีไปนานๆ กว่านี้ และคงเซ็งเหมือนกันถ้าอีก 2-3 สัปดาห์ ราฟา เบนิเตซ ดันออกมายอมรับว่าหมดหวังในพรีเมียร์ลีกแล้ว เบนเข็มไปลุยแชมเปี้ยนส์ลีกเต็มตัว

เรื่องนี้แฟนลิเวอร์พูล คงหวั่นใจอยู่ คนวงนอกก็คิดเหมือนกันแหละครับ ไม่อยากเห็นอะไรซ้ำซาก ไม่อยากให้แมนฯยู เป็นแชมป์ง่ายเกินไป เพราะมันจะกร่อย แถมยังรู้สึกว่า มาตรฐานพรีเมียร์ลีกรวมๆ ไม่ได้สูงขึ้นมากอย่างที่คิด

แต่อย่างหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ปีศาจแดง ยังเป็นเจ้าพ่อบอลอังกฤษ ที่ได้ทั้ง การตลาดและความสำเร็จ แถมพัฒนาไปถึงขั้นแทบไม่มีความแตกต่างระหว่างตัวจริง-ตัวสำรองหากตัดสินกันตรงผลงานเพียวๆ

สัปดาห์นี้ แมนฯยู งดเตะบอลลีกเพราะมีคิวชิงคาร์ลิ่งคัพกับ สเปอร์ส ในวันอาทิตย์

บอกตามตรงว่า ถึงเป็นนัดชิงชนะเลิศ ผมก็ยังไม่เชื่อว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะจัดชุดสุดปึ้กลงไปสู้ เนื่องจากจำเป็นต้องเฉลี่ยงานกันทำ ผ่อนหนักผ่อนเบาไปตามโปรแกรมเตะที่ชุกเหลือหลาย

แต่ก็อย่างที่บอก แมนฯยู ชุดไหนมันก็ยังร้ายกาจวันยังค่ำ โดยเฉพาะเรื่องสปีดความเร็ว กับความแน่นอน ที่เหนือกว่า แชมป์เก่า สเปอร์ส

นี่เป็นอีกเรื่องที่เหมือน DAJA VU ซ้ำๆ ชินตา และคงไม่มีอะไรใหม่อีกเหมือนกัน

โปรแกรมแข่งพรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 28 ก.พ. เอฟเวอร์ตัน-เวสต์บรอมวิช, อาร์เซน่อล-ฟูแล่ม, เชลซี-วีแกน, มิดเดิ้ลสโบรช์-ลิเวอร์พูล วันอาทิตย์ที่ 1 มี.ค. ฮัลล์-แบล๊คเบิร์น, เวสต์แฮม-แมนฯ ซิตี้, โบลตัน-นิวคาสเซิล, แอสตัน วิลล่า-สโต๊ก และนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลลีกคัพ(คาร์ลิ่งคัพ)
แมนฯยู-สเปอร์ส

โปรแกรมถ่ายทอดสดทางทรูวิชั่นส์+ฟรีทีวี

คืนวันเสาร์ที่ 28 ก.พ. เวลา 19.45 น. เอฟเวอร์ตัน-เวสต์บรอมวิช(ทรูสปอร์ต 1, คลับซี, คลับเอ) เวลา 22.00 น. อาร์เซน่อล-ฟูแล่ม(ทรูสปอร์ต 5, คลับเอ), เชลซี-วีแกน(ทรูสปอร์ต 3, คลับซี), มิดเดิ้ลสโบรช์-ลิเวอร์พูล(ทรูสปอร์ต 1, คลับแอล) เวลา 00.00 น. ลาซิโอ-โบโลญญ่า(ทรูสปอร์ต 3) เวลา 02.00 น. บิลเบา-เซบีญ่า(ทรูสปอร์ต 1) เวลา 02.30 น. ยูเวนตุส-นาโปลี(ทรูสปอร์ต 3) เวลา 04.00 น. เอสปันญ่อล-รีล มาดริด(ทรูสปอร์ต 1) คืนวันอาทิตย์ที่ 1 มี.ค. เวลา 19.30 น. ฮัลล์-แบล๊คเบิร์น(ทรูสปอร์ต 5, คลับแอล), เวสต์แฮม-แมนฯซิตี้(ทรูสปอร์ต 3, คลับซี, คลับเอ) เวลา 20.00 น. โบลตัน-นิวคาสเซิล(ทรูสปอร์ต 1, คลับเอ็ม) เวลา 22.00 น. แมนฯยู-สเปอร์ส(ฟรีทีวีช่อง 7), แอสตัน วิลล่า-สโต๊ก(ทรูสปอร์ต 1, คลับแอล, คลับซี) เวลา 01.00 น. แอต.มาดริด-บาร์เซโลน่า(ทรูสปอร์ต 1) เวลา 02.30 น. อินเตอร์-โรม่า(ทรูสปอร์ต 3) เวลา 03.00 น. เบติส-บียาร์รีล(ทรูสปอร์ต 1)

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์