เรียกเขาว่าพระเจ้า!! ลิโอเนล เมสซี่

เรียกเขาว่าพระเจ้า!! ลิโอเนล เมสซี่




...ตอนที่ 1...

คุณจะทำอย่างไรเมื่อพระเจ้ามอบสิ่งเลวร้ายที่สุดในชีวิตคุณ

เด็กน้อยวัย 11 ปีที่ตัวเล็กกว่าคนอื่น ๆ ในวัยเดียวกันยืนอยู่ข้างสนามบอลแห่งหนึ่ง กำลังมองเพื่อน ๆ ที่เล่นฟุตบอลอย่างสนุกสนานกำลังมีความคิดเช่นนี้อยู่


คุณจะทำอย่างไรเมื่อพระเจ้ากำลังจะพรากสิ่งที่คุณรักที่สุดออกไปจากชีวิตคุณ

คุณพ่อของเด็กคนนั้นยืนอยู่ข้าง ๆ พร้อมบีบมือให้กำลังใจ เมื่อทั้งคู่ได้รับข่าวร้ายว่า สิ่งที่เด็กน้อยชาวอาเจนไตน์รักที่สุดนั้นคือ ฟุตบอล กำลังจะหายไปจากชีวิตเขาไม่ช้าก็เร็ว เฉกเช่นร่างกายของเขานั้น เวลาได้หยุดนิ่งขณะที่คนอื่น ๆ กำลังเติบโตและแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ


คุณจะทำอย่างไรเมื่อพระเจ้าลิขิตให้คุณเป็นคนพิการ

ข่าวร้ายของเด็กน้อยและครอบครัวที่เขาได้รับคือ ความผิดปรกติของฮอร์โมนของเด็กน้อยคนนั้นมีไม่เพียงพอเหมือนคนอื่น ๆ จะทำให้ร่างกายของเขาหยุดการเจริญเติบโตมาตั้งแต่ปีก่อนๆ เป็นเหตุให้เขาจะพิการด้านความสูงและมีส่วนสูงเทียบเท่าเด็กอายุไม่ถึง 10 ขวบไปตลอดชีวิต


ชื่อของเขาคือ ลีโอเนล อันเดรส เมสซี่ บุรุษที่ถูกพระเจ้าทอดทิ้ง


ลิโอเนล เมสซี่ มีต้นกำเนิดจากแคว้นซานตาเฟ่ ของอาร์เจนติน่า เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 5 ขวบกับสโมสรเล็ก ๆ ชื่อ กรานโดลี่ โดยมีพ่อเป็นโค้ชให้แต่เล็ก และพรสวรรค์ที่เมสซี่มี ทำให้พ่อเขาตัดสินใจพาไปหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ของอาร์เจนติน่าในสมัยนั้น นั่นคือสโมสรนีเวลส์ โอลด์ บอยด์ในทีมยุวชน

แม้ว่าเมสซี่จะมีพรสวรรค์ในการเล่นฟุตบอล แต่พัฒนาการด้านร่างกายก็หยุดนิ่งจนเพื่อน ๆ ร่วมรุ่นเติบโตกว่าจนเห็นได้ชัดแม้กระทั่งรุ่นน้องใหม่ ๆ ก็เริ่มสูงใหญ่แซงเขาไปเสียแล้ว เป็นเหตุให้พ่อของเขาพาเมสซี่ไปตรวจหาสาเหตุและผลปรากฏว่าร่างกายของเขาขาดฮอร์โมนในการเจริญเติบโต

และให้ผลสรุปว่าร่างกายของเขาแทบจะไม่เติบโตได้อีก ซึ่งอีกไม่นานชีวิตในฐานะนักฟุตบอลของเมสซี่จะต้องยุติลง พร้อมกับความพิการของเขาจะทำให้ชีวิตที่เสมือนคนธรรมดาทั่วไปของเขาจะลำบากไปอีกชั่วชีวิต

เมสซี่และครอบครัวซึ่งรู้ข่าวก็เสียใจมาก โดยเฉพาะเจ้าหนูวัย 11 ปีคนนี้รับรู้ได้ด้วยตนเองว่า เขาไม่สามารถเล่นฟุตบอลที่เป็นที่รักของเขาได้อีกในไม่ช้า


ท่ามกลางความสิ้นหวัง เขานั่งหน้าโทรทัศน์พร้อมเครื่องวีดีโอที่เล่นเทปอันหนึ่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า เทปม้วนที่เล่นอยู่นั้น เมสซี่ได้จากพ่อ และตอนนี้มันคือสิ่งที่จุดประกายชีวิตใหม่ให้เขาอย่างไม่รู้ตัว


วีดีโอดังกล่าวเป็นวีดีโอการเล่นฟุตบอลของชายคนหนึ่ง ที่ตัวเล็กกว่าคนในสนามนั้นทั้งหมด แต่ด้วยความสูงเพียง 167 เซนติเมตร เขากลับลากลูกฟุตบอลตะลุยผ่านคนที่ความสูงเหนือเขาคนแล้วคนเล่า ไม่มีใครหยุดเขาได้เลย แม้กระทั่งชายร่างใหญ่โตถึง 6 คนก็โดนเขาวิ่งผ่านพร้อมลูกฟุตบอลและส่งลุกฟุตบอลลูกนั้นเข้าก้นตะข่ายในที่สุด ใช่แล้วชายคนที่เมสซี่กำลังดูอยู่เขาคือเทพเจ้าฟุตบอลของอาร์เจนติน่าและของโลก ดีเอโก้ มาราโดน่า


มาราโดน่าพาทีมอาร์เจนติน่าคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 1986 ด้วยลีลา พลังและเทคนิคที่น่าตื่นตะลึงจึงถูกยกย่องว่าเป็นเทพบุตรลูกหนังคนที่2 ต่อจากเปเล่ จึงไม่แปลกที่นักฟุตบอลรุ่นเยาวน์จะใฝ่ฝันล้วนอยากจะเป็น หนึ่งในนั้นก็คือเมสซี่ เพียงแต่ว่าตัวเขาที่พระเจ้าไม่เข้าข้าง จะมีโอกาสเป็นดังเช่นมาราโดน่าหรือไม่ และหนทางเดียวที่จะช่วยลิโอเนล เมสซี่มีอนาคตอย่างนักฟุตบอลและมีวิถีชีวิตเสมือนคนธรรมดาต่อไปได้ก็คือการรักษาอันต่อเนื่องด้วยการฉีดฮอร์โมน ซึ่งตกราคาเฉลี่ยเดือนหนึ่ง ๆ ราว 750 ยูโรหรือราว 35,000 บาท แม้ครอบครัวของเมสซี่จะไม่ได้ยากจนข้นแค้น แต่ก็ไม่มีเงินมากพอที่จะช่วยเมสซี่ได้ พ่อของเมสซี่จึงพยายามทำทุกวิถีทางด้วยการต่อรองกับสโมสรใหญ่ ๆ ที่สนใจฝีเท้าของเมสซี่ แม้กระทั่งทึมริเวอร์เพลท ยักษ์ใหญ่ของสโมสรอาร์เจนติน่า แต่การแบกรับราคารักษาที่สูงลิบลิ่วกับเด็กวัย 10 กว่าปีที่ยังไม่พิสูจน์อะไรเลยก็ย่อมไม่มีทางรับเงื่อนไขอยู่แล้ว หนทางนักฟุตบอลกับชีวิตอันปรกติของเมสซี่จึงยังคงมืดมนต่อไป และจะตีบตันไปเรื่อย ๆ เมื่อเวลาล่วงเลยผ่าน


แต่ดูเหมือนลิโอเนล เมสซี่ยังไม่ถูกพระเจ้าทอดทิ้งเสียทีเดียว เมื่อการ์เลส ราซัค ผอ.กีฬาทีมบาร์เซโลน่าแห่งสเปนมีโอกาสได้มาเห็นเจ้าหนูตัวเล็กที่เลี้ยงบอลฝ่าเด็กหนุ่มตัวใหญ่ ๆ คนแล้วคนเล่าด้วยเทคนิคที่มาจากพรสวรรค์ล้วน ๆ ทำให้ประทับใจอย่างยิ่ง ทำให้เรซัคและสโมสรบาร์เซโลน่าก็ไม่ลังเลที่จะเดิมพันกับพรสวรรค์อันนั้นของเมสซี่กับค่าใช้จ่ายที่จะรักษาเจ้าหนูคนนี้ เมสซี่และครอบครัวจึงเดินทางไปสเปนเพื่อเดิมพันกับความหวังและความฝันอีกครั้งหนึ่ง


ร่างกายของเมสซี่มีการพัฒนาการด้านการเจริญเติบโตหลังจากฉีดฮอร์โมนรักษาเป็นประจำ แม้ว่าตัวเขายังมีส่วนสูงที่ไม่มากเมื่อเทียบกับนักเตะรายอื่น ๆ แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้ชื่อของเขาเข้าไปในทำเนียบนักเตะที่ทุกคนต้องจดจำเอาไว้อีกไม่นานได้ เมื่อเมสซี่พัฒนาอย่างโดดเด่นในเรื่องฟุตบอล ก้าวเข้าสู่ทีมบาร์เซโลน่า เบและยิงประตูถล่มทลาย 37 ประตูใน 30 นัด ซึ่งทำให้แฟรงค์ ไรจ์การ์ดเทรนเนอร์ดัตช์ของทีมบาร์เซโลน่าชุดใหญ่ชื่นชมจนต้องดึงมาเล่นในชุดใหญ่ในปลายซีซั่น 2004/2005 และไม่นานนักทึ่เมสซี่สร้างประวัติศาสตร์ผู้เล่นอายุน้อยที่สุดของบาร์ซ่าสมัยนั้นด้วยวัยเพียง 17 ปี 10 เดือน 7 วันด้วยลูกชิปข้ามหัวผู้รักษาประตูทีมอัลบาเซเต้ แต่ชื่อของลิโอเนล เมสซี่เริ่มโจษจันมากขึ้นหลังจากที่ได้รับเลือกเป็นทีมชาติเยาวชนอาร์เจนติน่า U-20 และแข่งรายการฟุตบอลชิงแชมป์เยาวชนโลกที่เนเธอร์แลนด์ ทุกคนที่ชมในสนามและโทรทัศน์ อินเตอร์เนตต่าง ๆ โดนมนต์เสน่ห์ฟุตบอลของเมสซี่ไปตาม ๆ กัน เมสซี่พาทีมอาร์เจน U-20 คว้าแชมป์เยาวชนโลก พร้อมด้วยรางวัลดาวซัลโว 6 ประตูและ MVP และนาทีนี้เองฉายา “นิวมาราโดน่า” ก็ถูกเรียกขานขึ้นครั้งแรกกับตัวของเมสซี่เอง


หลังจากยุคมาราโดน่าผ่านไป มีผู้เล่นหลายคนถูกกล่าวขานว่า”นิวมาราโดน่า” ไม่ว่าจะเป็น อาเรียล ออร์เตก้า, มาเซโล่ กายาร์โด้, พาโบล ไอมาร์, อันเดรส ดาเลสซานโดร, ฮาเบียร์ ซาบิโอล่า หรือคาร์ลอส เตเบซ และเมื่อชื่อเมสซี่ถูกเข้าชิง”นิวมาราโดน่า” ทุกคนต่างก็คิดว่าก็เป็นผู้เล่นชาวอาร์เจนติน่าที่มีอนาคตที่ดีอีกคนเพิ่มขึ้นมาเท่านั้น แต่ไม่มีใครในตอนนั้นรู้เลยว่า “ลิโอเนล เมสซี่”กำลังจะสร้างประวัติการณ์อันยิ่งใหญ่ให้กับชาวโลก เด็กน้อยผู้ซึ่งเคยถูกพระเจ้าทอดทิ้ง กำลังจะกลายเป็นพระเจ้าแห่งฟุตบอลให้กับใครอีกหลายคนที่โดนพระเจ้าแห่งโชคชะตาทอดทิ้งเช่นเดียวกับเขาเมื่อก่อน


TO BE CONTINUED


เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ ของลิโอเนล เมสซี่กับดีเอโก้ มาราโดน่า

- มาราโดน่าเคยเล่นสโมสรบาร์เซโลน่ามาก่อนเช่นเดียวกับเจ้าหนูลิโอเนล เมสซี่

- ลิโอเนล เมสซี่ได้เข้าทีมสโมสรนีเวลส์ โอลด์ บอยด์ในทีมยุวชน ซึ่งมาราโดน่าเองก็เคยอยู่สโมสรนี้ก่อนหน้าเมสซี่ไม่นาน

- มาราโดน่าและเมสซี่เคยได้ลงเล่นทีมเยาวชนอาร์เจนติน่า U-20 และทั้งคู่ก็เคยคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยม MVP มาเสียด้วย

- แม้มีนิวมาราโดน่าเกิดขึ้นมากมาย แต่มีเพียงลิโอเนล เมสซี่ที่มาราโดน่าการันตีด้วยตัวเองว่าเป็นผู้สืบทอดตัวจริงเสียงจริง

- เมื่อทั้งคู่มายืนเทียบกัน มาราโดน่าและเมสซี่มีความสูงเท่ากันที่ 169 เซนติเมตร แต่นั่นก็นับรวมกับผมที่ฟูของมาราโดน่าไปครึ่งนิ้วด้วยนะ

- สไตล์การเล่นของทั้งคู่เสมือนกันมาก ๆ [ซึ่งอันนี้ไม่บอกก็คงรู้] และทั้งคู่ถนัดเท้าซ้ายเป็นหลักด้วย แต่ภายหลังเมสซี่ใช้ขาขวาได้ดีและเชื่อกันว่าดีกว่ามาราโดน่าแล้วหลังจากช่วงหลังยิงประตูด้วยเท้าขวาบ่อยครั้งขึ้น

- มาราโดน่าเลี้ยงผ่านผู้เล่นอังกฤษ 6 คนแล้วยิงประตู เช่นเดียวกับเมสซี่ลากผ่านผู้เล่นทีมเคตาเฟ่ 6 คนแล้วยิงประตูโดยใช้ระยะทางกลางสนามเหมือนกันและเวลาแทบจะเท่ากัน แตกต่างตรงที่มาราโดน่าใช้เท้าซ้ายยิงแต่เมสซี่ใช้เท้าขวายิง

- มาราโดน่าเคยทำประตูโดยใช้มือมาแล้ว เช่นเดียวกับเมสซี่ก็ทำได้ในสมัยนี้ด้วยการกระโดดปัดให้เห็นกันโต้ง ๆ เหมือนกันเลย แถมยังนับเป็นประตูอีก เอ้า

- มาราโดน่าไม่เคยยอมรับว่าตัวเองใช้มือทำประตูในบอลโลก บอกเพียงว่ามันเกิดขึ้นจากการผสมผสานระหว่างหัวของมาราโดน่านิดหน่อยและมือของพระเจ้า และก็มาสารภาพความจริงด้วยปากของตนเองในปี 2005 ว่าใช้มือจริง และพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้งเพื่อการันตีความเหมือนของเมสซี่คล้ายตนเองว่า เราทั้งคู่เคยทำประตูโดยใช้มือเหมือนกันด้วย

- ทั้งคู่สนิทกันมากราวกับพ่อ-ลูก แต่นั่นก่อนที่มาราโดน่าจะได้ลูกเขยเป็นกุน อาเกวโร่ของสโมสรแอตแลนติโก มาดริด คู่ปรับร่วมลีกกับบาร์เซโลน่า


Hwang



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์