10 ไฮไลต์เด็ด วงการลูกหนังผู้ดี 2008



คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ก่อนจะเปิดศักราชใหม่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หนังสือพิมพ์ เดลี่ เทเลกราฟ ของอังกฤษได้รวบรวมไฮไลต์เด็ดๆ ของการแข่งขันกีฬาต่างๆ เอาไว้อย่างต่อเนื่อง รวมถึง ฟุตบอล กีฬาสุดฮิตในแดนผู้ดีด้วย ซึ่งไฮไลต์ทั้ง 10 ที่คัดสรรมาน่าจะโดนใจคอบอลบ้านเราอยู่ไม่น้อย

@ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยอดนักเตะ

ปีกทีมชาติโปรตุเกสแห่งทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือเป็นไฮไลต์ที่ปฏิเสธไม่ได้ในเวทีลูกหนังอังกฤษ เมื่อทำผลงานสุดยอดจาก 42 ประตูที่ทำให้ต้นสังกัด จนเป็นข่าวว่ารีล มาดริด ยักษ์ใหญ่ของสเปน ต้องการได้ตัวไปร่วมทีมด้วยในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา จึงไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ที่จะได้รับเสียงโหวตท่วมท้นให้คว้ารางวัล "บัลลง ดอร์" จากนิตยสาร ฟร้องซ์ ฟุตบอล ของฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันมอบให้กับนักเตะยอดเยี่ยมของโลกไปครอง

@ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์คว้าแชมป์ลีกคัพ (24 กุมภาพันธ์)

หลังจากที่ ฆวนเด้ รามอส กุนซือชาวสเปนเข้ามาทำทีมได้แค่เดือนเดียว ก็นำทีมดังของลอนดอนหยิบแชมป์ลีกคัพมาครอง จากที่เป็นฝ่ายตามหลังเชลซีคู่แข่งในรอบชิงชนะเลิศ กลับมาพลิกชนะ 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่หลังจากนั้นแค่ 7 เดือน สเปอร์สก็ทำผลงานย่ำแย่จนรั้งท้ายตาราง เป็นเหตุให้รามอสถูกเด้งจากเก้าอี้กุนซือในที่สุด

(บน) แมตช์ชิงชนะเลิศลีกคัพที่สเปอร์สคว้าแชมป์ (ล่าง) โรนัลโด้ และนานี่ ฉลองแชมป์กับถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก



@ ปอร์ทสมัธซิวแชมป์เอฟเอคัพ (17 พฤษภาคม)

นับตั้งแต่ที่ เอฟเวอร์ตัน คว้าแชมป์ลีกคัพในปี 1995 ก็ไม่มีสโมสรใดนอกเหนือจาก "บิ๊กโฟร์" (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, เชลซี, อาร์เซน่อล) คว้าแชมป์รายการนี้ได้อีกเลย จนกระทั่งปอร์ทสมัธมาทำได้สำเร็จ โดยเฉือนชนะคาร์ดิฟฟ์ 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศ

@ นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - เชลซี (21 พฤษภาคม)

ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ ที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อเดือนพฤษภาคม เป็นการพบกันเองของ 2 ทีมยักษ์ใหญ่จากอังกฤษ ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ซึ่งเกมต้องยืดเยื้อถึงการดวลจุดโทษ หลังจากเสมอกัน 1-1 โดยประตูที่เกิดขึ้นใน 90 นาที มาจากโรนัลโด้ (แมนฯยู) และแฟร้งก์ แลมพาร์ด (เชลซี) ก่อนที่ เอ๊ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายทวารของแมนฯยูจะเป็นฮีโร่เซฟลูกโทษให้ทีมชนะไป 6-5 นับเป็นแชมป์หนที่ 2 ของกุนซือ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ด้วย

@ โจเซ่ มูรินโญ่คัมแบ๊ค (2 มิถุนายน)

หลังจากที่ โจเซ่ มูรินโญ่ อำลาตำแหน่งผู้จัดการทีมเชลซีแบบช็อคความรู้สึกของนักเตะและแฟนบอล เมื่อวันที่ 20 กันยายน ปีที่แล้ว กุนซือชาวโปรตุเกสว่างงานเพียง 9 เดือน ก่อนจะคัมแบ๊คมาคุมทีมอีกครั้ง แต่เลือกไปทำงานในลีกอิตาลีกับอินเตอร์ มิลานแทน และยังไม่ทิ้งลายยอดกุนซือ เมื่อนำทีมรั้งอันดับ 1 ของตารางกัลโช่ เซเรียอา อยู่ในขณะนี้

โรนัลโด้ และนานี่ ฉลองแชมป์กับถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก



@ สเปนผงาดแชมป์ยูโร 2008

สเปนมีผลงานที่ยอดเยี่ยมเหนือคำบรรยายชนะทุกเกมในรอบแรกของฟุตบอลยูโร 2008 และยังเขี่ยทีมแชมป์โลก อิตาลี ตกรอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนจะสอนเชิงทีมคนหนุ่มรัสเซีย 3-0 ในรอบรองชนะเลิศ แม้ว่า เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงลิเวอร์พูลที่โชว์ฟอร์มร้อนแรงในเกมพรีเมียร์ลีกจะทำได้แค่ประตูเดียว
แต่ก็ดีพอให้สเปนดับฝันเยอรมนี 1-0 คว้าแชมป์ยูโรไปครอง ซึ่งถือเป็นความสำเร็จในรายการใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบ 44 ปี

@ แฮตทริคของธีโอ วัลค็อตต์ (10 กันยายน)

แม้ว่าโครเอเชียจะมีสถิติสวยหรูไม่แพ้ในบ้านให้ทีมใด อีกทั้งยังเคยเอาชนะอังกฤษมาได้ 2 นัด ในรอบคัดเลือก ยูโร 2008 ที่อยู่ร่วมกลุ่มเดียวกัน แต่ ธีโอ วัลค็อตต์ ดาวยิงวัย 19 ปี ก็ช่วยให้แฟนบอลอังกฤษลบความผิดหวังที่ผ่านมาได้ เมื่อเหมาทำคนเดียว 3 ประตู ในเกมคัดเลือกฟุตบอลโลกที่ชนะ 4-1 และยังเป็นนักเตะอังกฤษอายุน้อยที่สุดที่ทำแฮตทริคให้ทีมอังกฤษได้ด้วย

@ ฮัลล์ ซิตี้ เล็กแต่ชื่อ

ด้วยความที่เป็นทีมเล็กๆ แต่ฉีกทุกกฎเกณฑ์ ทำให้ ฮัลล์ ซิตี้ ผงาดขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกได้ ซึ่งประตูที่ดีน วินดาส ทำได้การแข่งขันเพลย์ออฟรอบชิงชนะเลิศของลีกแชมเปี้ยนชิพ
ทำให้ทีมสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดได้เป็นครั้งแรก และยังทำในสิ่งที่คนอื่นคาดไม่ถึงได้อีก ด้วยการบุกไปชนะอาร์เซน่อล 2-1 ถึงถิ่นเอมิเรสต์ สเตเดียม และรั้งอยู่อันดับ 6 ของตารางในขณะนี้

@ อาร์เซน่อล เสมอ ท็อตแนมฮ็อตสเปอร์ 4-4 (29 ตุลาคม)

เกมลอนดอนดาร์บี้แมตช์ ระหว่าง 2 ทีมดังลงเอยด้วยผลเสมอ ทั้งที่อาร์เซน่อลขึ้นนำก่อนถึง 3-1 แต่สเปอร์สก็ไม่ถอดใจตีตื้นขึ้นมาได้ ก่อนที่ แอร์รอน เลนน่อน จะทำประตูตีเสมอ 4-4 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาที 90+3 ให้ทีมแบ่งแต้มได้สำเร็จ

@ เยอรมนี แพ้ อังกฤษ 1-2 (19 พฤศจิกายน)

หลังจากที่อังกฤษแพ้คู่ปรับเยอรมนีในหลายๆ ทัวร์นาเมนต์ ก็ถึงคราวที่ทีมสิงโตจะคำรามออกเสียที แม้จะเป็นเกมกระชับมิตรที่ ฟาบิโอ คาเปลโล่ โค้ชทีมชาติอังกฤษต้องขาดนักเตะตัวหลักไปหลายคน แต่ก็บุกไปชนะเยอรมนีได้ถึงที่กรุงเบอร์ลิน 2-1 ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานที่สุดยอดของกุนซืออิตาเลียน เพราะในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก อังกฤษก็ชนะมา 4 นัดรวด

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์