ไก่ตี2-2,เรือ1-3,ม้าดีด3-0ลิ่วยูฟ่า


ไก่ตี2-2,เรือ1-3,ม้าดีด3-0ลิ่วยูฟ่า
 
19/12/2008 5:06:34


ไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ดวงแข็งเหลือเชื่อ เมื่อเป็นฝ่ายโดนนำไปก่อนในครึ่งแรกถึง 2-0 แต่ท้ายที่สุดกลับมาตามตีเสมอได้สำเร็จ ส่งผลให้ สเปอร์ส ผ่านเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ ปล่อยให้ทีมเยือนต้องอกหักตกรอบไปแบบเจ็บแสบ ด้าน เรือใบสีฟ้า แมนฯ ซิตี้ เละไม่เป็นท่าเมื่อบุกไปโดน ราซิ่ง ซานตานเดร์ อัดเละ 3-1 แต่ท้ายที่สุดทั้งสองทีมก็กอดคอกันเข้ารอบ




                                                                           ฟุตบอลยูฟ่า คัพ
                                                                              รอบแบ่งกลุ่ม
                                                          
วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม 2551


                                                                                   กลุ่มดี
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (อังกฤษ) 2 - สปาร์ตัก มอสโก (รัสเซีย) 2
 


ไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่สถานการณ์ถือว่ายังได้เปรียบ เปิดสนาม ไวท์ ฮาร์ท เลน รับการมาเยือนของ สปาร์ตัก มอสโก ที่จำเป็นต้องเอาชนะให้ได้หากหวังจะผ่านเข้ารอบ



 เริ่มเกมขึ้นมาเป็นผู้มาเยือนที่มีโอกาสก่อนจากการยิงบริเวณเส้นเขตโทษของ วลาดิสลาฟ รายคอฟ แต่ เอเรสโญ่ โกเมส ยังรับเอาไว้ได้



 สเปอร์ส ตอบโต้ทันควัน เดวิด เบนท์ลี่ย์ ซัดไกล กระนั้นยังไม่ผ่านแนวรับ สปาร์ตัก


 
กลับเป็นลูกทีมของ ไมเคิ่ล เลาดรู๊ป ที่พลิกขึ้นนำไปก่อนในนาทีที่ 23 จากความผิดพลาดในแนวรับของเจ้าถิ่น เมื่อ จิลแบร์โต้ ไม่เข้าใจกับ โกเมส ทำให้ อาร์เต็ม ดีซูบ้า ปาดหน้าเข้ามายิงลอดตัวผู้รักษาประตูชาวบราซิลเข้าไปนิ่มๆ


 
ถัดมา 10 นาที ดีซูบ้า คนเดิม เลี้ยงผ่าน จิลแบร์โต้ ก่อนหลุดขึ้นไปล็อกหลบ โกเมส จากนั้นจึงซัดเข้าตาข่ายโล่งๆ ขึ้นนำเป็น 2-0 แล้ว


 
โดนแบบนี้เข้าไป เจ้าถิ่นเริ่มเร่งเครื่อง นาทีที่ 37 เบล ลุยขึ้นหน้าไปได้ยิงด้วยซ้ายข้างถนัด แต่ สติเป้ เปลติโกซ่า เซฟไว้ได้สบาย


 
ช่วงท้ายครึ่งแรก สเปอร์ส พยายามบุกหนักหวังทวงประตูคืนให้ได้ แต่ยังไม่มีโอกาสจะแจ้งนัก ทำให้จบ 45 นาทีแรกด้วยการตามหลังผู้มาเยือนไปก่อน 0-2


 
เปิดฉากครึ่งหลัง ไก่เดือยทอง เร่งเกมทันที ฟราเซียร์ แคมป์เบลล์ ได้โหม่งเต็มศีรษะในกรอบเขตโทษ แต่ยังติดเซฟของ เปลติโกซ่า



 หลังจากใช้ความพยายามอยู่นาน แฟนบอลใน ไวท์ ฮาร์ท เลน มาได้เฮเสียทีในนาทีที่ 67 เมื่อ อารอน เลนน่อน ที่เพิ่งถูกเปลี่ยนลงมาเป็นสำรอง ลากเลื้อยขึ้นไปทางฝั่งขวา ก่อนเปิดเข้ากลางให้กับ ลูก้า โมดริช แปจังหวะเดียวแบบไม่ต้องจับ บอลตุงตาข่ายอย่างเฉียบขาด ไล่มาเป็น 1-2


 
จากนั้น 7 นาที ทำนบทีมเยือนมาแตกอีกครั้ง คราวนี้เป็น เบล ที่เปิดจากฝั่งซ้ายเข้าไปให้ ทอม ฮัดเดิลสตัน โหม่งเต็มศีรษะ หมดปัญญาที่โกล์ทีมเยือนจะปัดป้องเอาไว้ได้ สกอร์มาเท่ากันที่ 2-2



 ช่วงเวลาที่เหลือเจ้าถิ่นพยายามบุกหนักหวังทำประตูชัยให้ได้ แต่ก็ไม่ทันการณ์ จบเกมจึงเสมอกันไป 2-2 ทำให้ สเปอร์ส ผ่านเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ ปล่อยให้ทีมเยือนต้องอกหักอย่างน่าเสียดาย


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม


ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ : เอเรสโญ่ โกเมส; จิลแบร์โต้, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, คริส กุนเทอร์, เกเร็ธ เบล; เดวิด เบนท์ลี่ย์, ดีดิเย่ร์ โซโกร่า, ทอม ฮัดเดิลสตัน, เจมี่ โอฮาร่า; ลูก้า โมดริช; ฟราเซียร์ แคมป์เบลล์


สปาร์ตัก มอสโก : สติเป้ เปลติโกซ่า; มาร์ติน ยิราเน็ค, มาลิค ฟาธิ, โรมัน ชิชคิน, ฮวน โรดริเกซ; เซอร์เก โควัลซิอุช, เซอร์เก พาร์ชิฟลุค, อาร์เทอร์ มาโลยาน, วลาดิสลาฟ รายคอฟ; อีวาน ซาเอ็นโก้, อาร์เต็ม ดีซูบ้า


                                                                                  กลุ่มเอ
ราซิ่ง (สเปน) 3 - แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ) 1


 ราซิ่ง ซานตานเดร์ เปิดบ้านรับมือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยสถานการณ์ของเจ้าถิ่นต้องการชัยชนะเพื่อแซง ชาลเก้ เข้ารอบต่อไป แต่ก็ต้องดูผลคู่ระหว่าง เปแอสเช กับ ทเวนเต้ ประกอบกันด้วย ขณะที่ทีมเยือนจากอังกฤษลอยลำเข้ารอบไปแล้ว


 
สภาพทีม ราซิ่ง ส่งแนวรุกลงเต็มพิกัดทั้ง ออสการ์ เซร์ราโน่, เปโดร มูนิติส, โจนาธาน เปไรร่า, โมฮาเหม็ด ชิเต้ ส่วนทีมเยือน แมนฯ ซิตี้ ปรับทัพเล็กน้อยให้โอกาส เชด อีแวนส์ ลงเล่นแนวรุกร่วมกับ โรบินโญ่ และ ดาริอุส วาสเซลล์


 
เริ่มเกมขึ้นมา ราซิ่ง ยังเล่นแบบดูเชิง แต่พอถึงนาทีที่ 20 ก็เริ่มใส่เกมรุกเต็มตัว จนมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ออสการ์ เซร์ราโน่ เปิดบอลจากริมเส้นเข้ามาหน้าประตู แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ตบบอลไม่ดีไปเข้าทางปืน โจนาธาน เปไรร่า สังหารนิ่มๆ เข้าไปไม่เหลือ


 
ถัดจากนั้น 3 นาที เจ้าบ้านเกือบได้ประตูที่สองตามมาติดๆ โจนาธาน เปไรร่า คนเดิม กดเรียดในเขตโทษ แต่ ชไมเคิ่ล ตะปบเอาไว้ได้


 
นาทีที่ 30 ราซิ่ง มาได้ประตูหนีห่าง 2-0 ออสการ์ เซร์ราโน่ ทำชิ่งเร็วกับ โจนาธาน เปไรร่า แล้ว เซร์ราโน่ ก็สังหารผ่าน ชไมเคิ่ล เข้าไปไม่พลาด จบครึ่งแรก ราซิ่ง นำ 2-0


 
ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ เก็บ โรบินโญ่ ออกไปพัก แล้วส่ง สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ลงไปเล่นแทน


 
แต่เกมรุกของ ราซิ่ง ก็ยังจัดจ้านกว่ามาก และมาได้ประตูทิ้งห่างไปเป็น 3-0 ในนาทีที่ 54 เปโดร มูนิติส โยนบอลลึกไปให้ อิวาน มาร์กาโน่ โหม่งตั้งกลับมาให้ ฆวน บาเลร่า กระทุ้งจ่อๆ เข้าไปไม่เหลือ


 
นาทีที่ 61 โจนาธาน เปไรร่า กองหน้าราซิ่ง เกือบบวกประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้ได้ แต่ก็ยิงพลาดเป้าไป


 
แต่แมนฯซิตี้ก็มาได้ประตูตีไข่แตก 3-1 ในนาทีที่ 90 จาก เฟลิเป้ ไซเซโด้


 
จบเกม ราซิ่ง ซานตานเดร์ ถล่ม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เละเทะ 3-1 ผ่านเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม


ราซิ่ง : ฟาบิโอ โกลตอร์ติ, ฆวน บาเลร่า, เอเซเกล การาย, เซซ่าร์ นาบาส, อิวาน มาร์กาโน่, กอนซาโล่ โกลซ่า, ปีเตอร์ ลุกแซ็ง, ออสการ์ เซร์ราโน่, เปโดร มูนิติส, โจนาธาน เปไรร่า, โมฮาเหม็ด ชิเต้


สำรอง : มาริโอ กูเอสต้า, ฆวนโฆ่, ฆอร์เก้ กอนซัลเวส, ปาโบล ปินิยอส, คริสเตียน, เมห์ดี้ ลาเชน, เอดู เบเดีย


แมนฯ ซิตี้ : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, ปาโบล ซาบาเลต้า, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, ทาล เบน-ฮาอิม, ฆาเบียร์ การ์รีโด้, เกลสัน แฟร์นันเดส, ดีทมาร์ ฮามันน์, เอลาโน่, ดาริอุส วาสเซลล์, โรบินโญ่, เชด อีแวนส์


สำรอง : โจ ฮาร์ท, เนดุม โอนูโอฮา, ไมเคิ่ล บอลล์, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, ชาลุม โลแกน, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, เฟลิเป้ ไซเซโด้


                                                                                   กลุ่มซี
สตุ๊ตการ์ท (เยอรมัน) 3 - สตองดาร์ ลีแอช (เบลเยียม) 0
 
ม้าขาว สตุ๊ตการ์ท ที่ยังคงต้องเอาชนะให้ได้เพื่อการันตีการผ่านเข้ารอบ เปิดสนาม เมอร์เซเดส-เบนซ์-อารีน่า รับการมาเยือนของ สตองดาร์ ลีแอช ทีมจ่าฝูงของกลุ่มจากเบลเยียม


 
เปิดฉากเพียง 5 นาที เจ้าถิ่นก็ขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว เมื่อ ซามี่ เคดิร่า ซัดเต็มเท้าขวาตรงบริเวณจุดโทษ หมดสิทธิ์ที่ โรรี่ส์ อรากอน จะปัดป้องเอาไว้ได้


 
สตุ๊ตการ์ท ยังคงดาหน้าบุกหวังทำประตูทิ้งห่าง โดยมีโอกาสอีกจาก มาร์ติน ลานิก ในนาทีที่ 25 คราวนี้นายทวารผู้มาเยือนไม่พลาดเซฟได้สบาย


 
ท้ายครึ่งแรก ลานิก ได้จังหวะหลุดขึ้นไปซัดอีกครั้ง แต่ยังคงไม่ผ่านมือ อรากอน เช่นเดิม จบ 45 นาทีแรกจึงเป็นเจ้าบ้านที่ขึ้นนำไปก่อน 1-0


 
เริ่มครึ่งหลังเพียง 4 นาที ม้าขาว มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ มาริโอ โกเมซ บรรจงผ่านบอลให้กับ โรแบร์โต้ ฮิลแบร์ต ที่เติมขึ้นมาซัดด้วยขวา บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม


 
ซามี่ เคดิร่า มาได้โอกาสยิงถึง 2 ครั้ง 2 ครา แต่บอลยังไม่เข้าเป้าหมาย ทำให้สกอร์ยังคงเท่าเดิม


 
อย่างไรก็ตาม เจ้าถิ่นมาได้ประตูปิดท้ายอีกในนาทีที่ 72 จาก คาเคา ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง จบเกมจึงเป็น สตุ๊ตการ์ท ที่เอาชนะไป 3-0 พร้อมกับควงกันผ่านเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม


สตุ๊ตการ์ท : เยนส์ เลห์มันน์; มาติเยอ เดลปิแอร์, อาร์เธอร์ โบกา, แซร์ดาร์ ทาสซี่; โธมัส ฮิตเซิ่ลส์แปร์เกอร์, ซามี่ เคดิร่า, โรแบร์โต้ ฮิลแบร์ต, มาร์ติน ลานิก, คริสเตียน ทราสช์; ชิเปรียน มาริก้า, มาริโอ โกเมซ


สตองดาร์ ลีแอช : โรรี่ส์ อรากอน; อดาม่า ซาร์, โอกูชี่ ออนเยวู, ลานดรี้ มูเลโม่, เรจินัล โกรัวซ์; วิลเฟร็ด ดัลมัต, สตีเว่น เดโฟร์, อเซล วิตเซล; อิกอร์ เด กามาร์โก้, มิลาน โจวาโนวิช, เดอูดอนเน่ เอ็มโบกานี่


สรุปผลยูฟ่า คัพ รอบแบ่งกลุ่ม
กลุ่มเอ


ราซิ่ง ซานตานเดร์ (สเปน) ชนะ แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ) 3-1


ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ฝรั่งเศส) ชนะ เอฟซี ทเวนเต้ (เนเธอร์แลนด์) 4-0  
กลุ่มบี


เบนฟิก้า (โปรตุเกส) แพ้ เมตาลิสต์ (ยูเครน)   0-1


โอลิมเปียกอส (กรีซ) ชนะ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน (เยอรมัน)   4-0
กลุ่มซี


ซามพ์โดเรีย (อิตาลี) ชนะ เซบีย่า (สเปน) 1-0


สตุ๊ตการ์ท (เยอรมัน) ชนะ สตองดาร์ ลีแอช (เบลเยียม)  3-0
กลุ่มดี


สเปอร์ส (อังกฤษ) เสมอ สปาร์ตัค มอสโก (รัสเซีย)    2-2


เอ็นอีซี ไนจ์เมเก้น (ฮอลแลนด์) ชนะ อูดิเนเซ่ (อิตาลี)  2-0

ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย  siamsport


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์