กองแช่งแยกย้าย!เชลซีเป๋เสมอค้อน1-1

      บรรดากองแช่งหมดหน้าที่แยกย้ายเข้านอนหลังส่งใจให้เวสต์แฮมจนสำริจผลเมื่อบุกมายันเสมอเชลซีถึงสแตมฟอร์ด บริดจ์ 1-1 โดยที่เป็นฝ่ายยิงขึ้นนำไปก่อนด้วยทำให้สัปดาห์นี้บิ๊กโฟว์ควงแขนกันเสมอและต้องมานั่งนับหนึ่งกันใหม่ในสัปดาห์นี้

บรรยายเกมโดยดาขาเดฟ

เชลซี 1-1 เวสต์แฮม

สนาม :สแตมฟอร์ด บริดจ์

ประตู :0-1 เคร็ก เบลลามี่ น.33,1-1 นิโกล่าส์ อเนลก้า น.51

       หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่จัดทัพใหญ่หน้าเดิมโดยมีนิโกลาส์ อเลก้าดาวซัลโวยืนหอกเดี่ยวในขณะที่แดนกลางแน่นปึ๊กทั้งบัลลัค,แลมพาร์ดและเดโก้ด้านจิอันฟรังโก้ โซล่ามาแบบไม่มีกลัวส่งเบลลามี่คู่คาร์ลตัน โคลเด็กเก่าที่ควงแขนมาพร้อมกับสก็อตต์ ปาร์คเกอร์อีกด้วย

       เปิดฉากเริ่มเกมมา 7 นาที เชลซีมีโอกาสส่องก่อนเมื่อโจ โคลเลี้ยงตัดจากขวาข้ากลางแล้วทำชิ่งกับแลมพาร์ด จนโจ โคลหลุดเข้าไปยิง 6 หลาทางขวา แต่ปาร์คเกอร์ยังตามมาบล็อกได้หวุดหวิด 

       นาที 15 เชลซีมีโอกาสกะซวกประตูจะจะอีกครั้งเมื่อแลมพาร์ดสาดลูกฟรีคิกทางซ้ายมาที่เสาสองให้อเล็กซ์ขึ้นโหม่งแค่ 3 หลา แต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

        จากนั้นเชลซีคุมสถาการณ์ไว้ได้หมด พับสนามบุกใส่ทีมเยือน ขณะที่เวสต์แฮมแทบไม่มีโอกาสตอบโต้เลย กระทั่งนาที 32 โบซิงวาลากบอลตัดเข้ากลางแล้วกระหน่ำยิงเต็มเหนี่ยว 25 หลาทางขวา บอลหลุดเสาแรกไปนิดเดียวเท่านั้น

       ทว่านาที 33 เวสต์แฮมกลับกะซวกประตูขึ้นนำเจ้าถิ่นแบบช็อกใจแฟนบอลเชลซี เมื่ออิลุนก้าทุ่มบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายให้โนเบิลพาบอลตะลุยไปที่เส้นหลัง ก่อนจะตบย้อนเข้ากลางไปให้เบลลามี่พักอกหนึ่งจังหวะ แล้วยิงยัดเสาแรก 8 หลาเข้าไปตุงตาข่ายอย่างเด็ดขาด เวสต์แฮมทะยานนำ 1-0

       เชลซีที่บุกมากอยู่แล้ว แต่เมื่อโดนยิงนำไปก่อน ยิงบุกเป็นบ้าเป็นหลังเข้าไปอีก นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก อเนลก้ามีโอกาสสับไก 18 หลาบอลพุ่งแฉลบดาเวนพอร์ท แต่กรีนก็ยังขยับมารับติดมือไว้ได้ จบครึ่งแรก เวสต์แฮมยังนำอยู่ 1-0

       ออกสตาร์ตครึ่งหลัง เชลซีรีบส่งดร็อกบาลงมาแก้เกมทันที กระทั่งนาที 51 ก็สามารถเบิกประตูตีเจ๊าได้สำเร็จจากจังหวะที่ประสานงานกันอย่างรู้ใจ โดยมิเกลแทงให้ดร็อกบาชิ่งต่อบอลให้แลมพาร์ดทันที จากนั้นแลมพาร์ดเบิ้ลบอลหน้าเขตโทษให้อเนลก้าหลุดเข้าไปยิงทางขวา 10 หลาสวนตัวกรีนเข้าไปตุงตาข่าย เชลซีไล่ตีเสมอ 1-1

       แต่ 2 นาทีต่อมา ขุนค้อนเกือบยิงหนีได้อีกรอบ เมื่อคาร์ลตัน โคลชิงเหลี่ยมบอลกับอเล็กซ์ที่หน้าเขตโทษจนแย่งได้ ก่อนจะหมุนตัวยิงแต่บอลพุ่งหลุดเสาไป

       เชลซีปูพรมบุกต่อเนื่อง อเนลก้าโหม่งตั้งให้แลมพาร์ดวิ่งมาวอลเลย์ที่เส้นเขตโทษแต่บอลยังไปเข้ามือกรีน นาที 56 จากนั้นแลมพาร์ดได้ส่องไกลอีกครั้งระยะ 30 หลา กรีนถึงกับซองแตก แต่ก็ไม่มีตัวซ้ำ ทำให้กรีนเก็บตกจังหวะสองได้ นาที 65

        จากนั้นเจ้าถิ่นไม่มีผ่อนบุกชนิดที่ไม่ให้เวสต์แฮมได้ลืมตาอ้าปาก นาที 68 แลมพาร์ดบอมบ์ลูกเตะมุมทางขวาให้ดร็อกบาวอลเลย์แบบไม่ต้องจับ 10 หลายัดเสาแรก แต่กรีนยังซูเปอร์เซฟปัดได้อีกครั้ง พอถึงนาที 76 กาลูที่เพิ่งลงสนามมาหวดยิง 18 หลาทางซ้ายแต่กรีนยังป้องกันได้ไม่พลาด

        ท้ายเกมเชลซีลุยแหลก นาที 80 แลมพาร์ดเปิดลูกเตะมุมทางซ้าย กรีนออกไปชกแต่บอลย้อยจะเข้าประตูตัวเอง ทว่าปาร์คเกอร์ที่ยืนคุมเส้นก็โหม่งสกัดไปชนคานพ้นอันตรายไปได้ ไม่กี่อึดใจต่อมาแลมพาร์ดครอสลูกเตะมุมทางขวา อเล็กซ์ถลามาโหม่งที่เสาแรกแต่กรีนยังบินปัดได้อีกครั้ง

        นาที 87 แลมพาร์ดซัดฟรีคิกไกล 25 หลาบอลพุ่งวาบเข้ากรอบแต่กรีนขยับรับเข้าซองแบบได้เสียว

       ทดเจ็บเวสต์แฮมเกือบช็อกได้ประตูชัยเมื่อเบห์รามี่ไหลเข้าช่องให้คาร์ลตัน โคลวิ่งเบียดไปกับอเล็กซ์จนฝ่ายหลังล้มลงแต่หอกผิวสีดันไปยิงไม่เต็มแรงเข้ามือเช็กอย่างน่าเสียดาย

       ช่วงเวลาที่เหลือเชลซีหมดแก๊กเข้าเจาะเวสต์แฮมที่นอกจากจะลงไปรับกันแน่นแล้วยังชวนทะเลาะวิ่งไล่ทุกตัวจบเกมเสมอกันไป 1-1 และทำให้ลูกทีมบิ๊กฟิลไม่ชนะในบ้านมาหนึ่งเดือนครึ่งเข้าให้แล้วโดยเกมสุดท้ายที่ชนะคือถล่มซันเดอร์แลนด์ 5-0 เมื่อวันที่ 1 พย. และชวดโอกาสแซงลิเวอร์พูลอย่างน่าเสียดาย


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม/คะแนนความสามารถ

เชลซี :ปีเตอร์ เช็ก 6.5,โจเซ่ โบซิงวา 6,จอห์น เทอร์รี่ 6.5,อเล็กซ์ 6,แอชลี่ย์ โคล 6.5,จอห์น โอบิ มิเกล 6.5(ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ น.79),เดโก้ 5.5,มิชาเอล บัลลัค 6(ดิดิเยร์ ดร็อกบา น.46,6.5),แฟรงค์ แลมพาร์ด 7,โจ โคล 6.5(ซาโลมง กาลู น.74),นิโกล่าส์ อเนลก้า 6.5

สำรองไม่ได้ลงสนาม :เอ็นริเก้ ฮิลาริโอ,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช,เวย์น บริดจ์,เปาโล แฟร์ไรร่า

ใบเหลือง :จอห์น โอบิ มิเกล น.21,มิชาเอล บัลลัค น.35,แอชลี่ย์ โคล น.36

เวสต์แฮม:โรเบิร์ต กรี 7น,ลูคัส นีลล์ 5,แมทธิว อัพสัน 7,คาลั่ม ดาเวนพอร์ท 6.5,เฮริต้า อิลุนก้า 6.5,แจ๊ค คอลิสัน 6.5(หลุยส์ บัว มอร์เต้ น.87),สกอตต์ ปาร์คเกอร์ 7.5 *,มาร์ก โนเบิล 7(เฮย์เด้น มัลลินส์ น.72,6),วาลอน เบห์รามี่ 7,เคร็ก เบลลามี่ 7,คาร์ลตัน โคล 6.5

สำรองไม่ได้ลงสนาม :แยน ลาสตุฟก้า,หลุยส์ บัว มอร์เต้,ฌูเลียน โฟแบร์,ดิเอโก้ ทริสตัน,ดาวิด ดิ มิเคเล่,เฟรด เซียร์

ใบเหลือง :คาร์ลตัน โคล น.40,เคร็ก เบลลามี่ น.45

ผู้ตัดสิน :ไมค์ ไรลี่ย์