10 อันดับเล่นยังไงให้ตกชั้น(ฟะ)










10 อันดับเล่นยังไงให้ตกชั้น(ฟะ)

หลายต่อหลายฤดูกาลที่มักจะมีทีมที่ได้รับการคาดหมายว่าจะทำผลงานได้ดี อย่างน้อยๆก็จบฤดูกาลในครึ่งบนของตาราง หรือแม้แต่อาจจะสอดแทรกขึ้นไปลุ้นพื้นที่ยุโรปได้เลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะด้วยเพราะชื่อชั้นของนักเตะที่น่าเกรงขาม หรือแม้แต่ฟอร์มการเล่นของเมื่อปีก่อนช่างโดดเด่นน่ารักน่าลุ้นเป็นอย่างยิ่ง ทางสกายสปอร์ตได้ลองรวบรวม 10 ทีมที่ดูแล้วท่าดีแต่ทีเหลว เหลวเป๋วขนาดตกชั้นไปอย่างไม่น่าเชื่อ ไปเช็คกันเลยว่ามีทีมอะไรบ้าง

1.ลีดส์ ยูไนเต็ด ตกชั้นปี 2004

สุดยอดตำนานการตกชั้นคลาสสิคแห่งยุคฟุตบอลยุคโมเดิร์น ลีดส์ได้ดิบได้ดีเข้าถึงรอบตัดเชือกแชมเปี้ยนสลีกเมื่อปี 2001 แต่กลับต้องมาตกชั้นอย่างเจ็บปวดในอีก 3 ปีให้หลัง สาเหตุหลักๆมาจากการที่บอร์ดบริหารกู้เงินมาซื้อตัวนักเตะในยุคลีดส์บินสูง เมื่อทีมไม่ประสบความสำเร็จตามที่ฝันไว้ ปีกที่พาลีดส์ร่อนไปที่สูงก็หักลง ยิ่งบินสูงตกลงมาก็เจ็บหนัก ด้วยตัวผู้เล่นที่ฝีเท้าไม่ขี้เหร่เลย ลีดส์กลับต้องพลาดท่าตกชั้นไปแบบช็อคสายตาคนดู และวินาทีนี้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาได้เลย

2.มิดเดิ้ลสโบรช์ ตกชั้นปี 1997

การตกชั้นสุดอื้อฉาวของโบโร่ เมื่อทีมตกชั้นจากการที่โดนหักคะแนน 3 แต้มแบบชวนปวดใจ หลังจากปีก่อนทีมโบโร่จบซีซั่นได้ในอันดับ 12 จนได้รับการคาดหมายว่าจะทำผลงานได้ดีในปีนี้ ทีมได้เข้าชิงลีกคัพและเอฟเอคัพ แต่กลับเกิดเรื่องงี่เง่าขึ้นเมื่อเกมสุดท้ายที่ทีมต้องเจอแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในสภาพที่มีผู้เล่นทีมชุดใหญ่บาดเจ็บอยู่ถึง 16 ราย ไบรอัน ร็อบสัน ผู้จัดการทีมโบโร่ในตอนนั้น ไม่รู้คิดยังไงจึงปฏิเสธที่จะส่งทีมลงเล่นในนัดนี้ ผลคือนอกจากจะโดนปรับให้แพ้แล้ว ยังโดนหักแต้มอีก 3 แต้ม จนทีมร่วงตกชั้นไปแบบสุดเฮงซวย

3.แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกชั้นปี 1974

แฟนๆแมนฯยูฯคงไม่เชื่อแน่ๆว่าทีมของพวกเค้าเคยร่วงตกชั้นเมื่อ 34 ปีที่แล้ว แต่มันก็เคยเกิดขึ้นแล้ว เมื่อทีมปิศาจแดงจบซีซั่นที่อันดับ 21 แม้ทีมจะรอดการตกชั้นได้หวุดหวิดในปี 1973 แต่การที่ทีมต้องเสียผู้เล่นสามกำลังหลักไปทำให้การตกชั้นแบบสุดเศร้าเกิดขึ้นจริง ผู้เล่นที่ย้ายออกไปนั้นได้แก่ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน จอร์จ เบสต์ และ เดนิส ลอว์ ซึ่งคนหลังนี้ย้ายไปร่วมทีมคู่ปรับอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้แบบไม่มีค่าตัว ก่อนที่ลอว์จะกลับมายิงประตูชัยเฉือนชนะทีมเก่าได้ในนัดรองสุดท้าย ถีบแมนฯยูฯร่วงตกชั้นไปอย่างไม่มีทางเลือก

4.อิปสวิช ทาวน์ ตกชั้นปี 2002

หากจะหาคำนิยามที่ชัดเจนของทีมที่เล่นสุดตีนในปีแรกและแป้กในปีที่สอง ชื่อของอิปสวิชทาวน์จะต้องนำโด่งมาก่อนแน่นอน หลังจากได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเมื่อปีก่อน และเล่นด้วยฟอร์มสุดร้อนแรงและการยิงประตูเป็นกอบเป็นกำของกองหน้าอย่าง มาร์คัส สจ๊วต จนทีมเบียดลุ้นติดท็อปโฟร์ก่อนที่จะจบที่อันดับที่ 5 และจอร์จ เบอร์ลีย์ ผู้จัดการทีมม้าขาวได้รับตำแหน่งผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปี อิปสวิชได้ลงเตะยูฟ่าคัพ และด้วยขนาดทีมที่เล็กเกินไป การมีฟุตบอลให้ลงเตะหลายรายการก็ส่งผลเสีย ทีมตกรอบบอลถ้วยทุกอย่าง และจบนัดสุดท้ายของลีกด้วยการพ่ายลิเวอร์พูลไปคาบ้าน 0-5 ตกชั้นไปแบบไม่น่าเชื่อทั้งๆที่เพิ่งเลื่อนชั้นมาเล่นได้แค่ 2 ปี

5.แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ตกชั้นปี 1999

5 ปีหลังจากการได้แชมป์พรีเมียร์ลีก กุหลาบไฟได้พิสูจน์ให้เราเห็นกันแล้วว่า ไม่มีทีมไหนปลอดภัยจากการตกชั้น 100% แบล็คเบิร์นของรอย ฮอดจ์สัน เริ่มต้นซีซั่นด้วยความคาดหวังว่าจะทำผลงานได้ดี แต่การคว้านักเตะอย่าง เควิน เดวีส์ มาร่วมทีมด้วยค่าตัวถึง 7.5 ล้านปอนด์กลับไม่ช่วยอะไรทีม จนรอย ฮอดจ์สันถูกไล่ออกก่อนขึ้นปีใหม่ไม่กี่วัน และเป็นไบรอัน คิดด์อดีตมือขวาของเซอร์อเล็กซ์มารับช่วงต่อ คิดด์ให้สัมภาษณ์ว่ามีบรรยากาศบางอย่างไม่ปกติในห้องแต่งตัวนักเตะจนทำให้ทีมยิงประตูไม่ค่อยได้ แต่ไม่ว่าบรรยากาศที่ว่าจะคืออะไร คิดด์ก็ไม่สามารถจำกัดมันออกไปได้ทันเวลา แบล็คเบิร์นเปิดรังยันเสมอแมนฯยูฯในเกมสุดท้ายของซีซั่นแต่ก็ไม่เพียงพอ ทีมต้องตกชั้นไปโดยมีแต้มห่างโซนปลอดภัย 6 แต้ม และแน่นอนว่าเกมนั้นกุหลาบไฟยิงประตูไม่ได้

6.น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ตกชั้นปี 1993

ทีมเจ้าป่าเริ่มต้นซีซั่นด้วยเกมที่ได้รับการถ่ายทอดสดผ่านทีวีของสกายสปอร์ตเป็นครั้งแรก ซึ่งเจ้าป่าเฉือนชนะลิเวอร์พูลไปได้จนได้รับการคาดหมายว่าปีนี้มาโหดแน่นอน แต่ที่ไหนได้เล่นๆไปทีมกลับขายกองหน้าทีเด็ดประจำทีมอย่างเท็ดดี้ เชอร์ริ่งแฮมให้กับสเปอร์สไปซะยังงั้น รวมถึงการที่ผู้จัดการทีมผู้ล่วงลับ ไบรอัน คลัฟ ไม่สามารถหาตัวตายตัวแทน เดส วอล์คเกอร์ ที่ย้ายไปร่วมทีมซามพ์โดเรียได้ทันเวลา แต่ทีมก็ยังประกอบไปด้วยผู้เล่นชั้นดีอย่าง รอย คีน สจ๊วต เพียซ และ ไนเจล คลัฟ ซึ่งน่าจะดีพอที่จะสู้ในลีกสูงสุดไหว กลับกลายเป็นว่าด้วยสุขภาพที่ไม่สู้ดีนักของกุนซือระดับตำนานอย่าง ไบรอัน คลัฟ ทีมเจ้าป่าก็ไม่อาจทนแรงเสียดสีได้ ตกชั้นไปแบบสิ้นชื่อตำนานเจ้าป่า เหลือไว้เพียงเรื่องเล่าขานของทีมที่เคยยิ่งใหญ่ไว้ให้เราได้พูดถึงกันเท่านั้น

7.แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตกชั้นปี 1996

ทีมที่รวยที่สุดในลีกอังกฤษตอนนี้อย่างทีมเรือใบก็เคยตกชั้นมาแล้วเมื่อ 12 ปีก่อน เป็นการตกชั้นที่น่าตบกะโหลกที่สุด เพราะในเกมสุดท้ายที่ทีมพบลิเวอร์พูล ทีมเรือใบโดนนำไปก่อน 2-0 ก่อนจะจัดการทวงคืนได้ 2 ลูกรวดในระยะเวลาห่างกันเพียง 7 นาที มีข่าวแจ้งมาตอนนั้นว่าหาจบเกมสกอร์เท่านี้ ทีมจะมีแต้มหลุดมาอยู่ในโซนปลอดภัย1แต้ม จนโค้ชงัดแท็คติคถ่วงเวลามาใช้ แต่ที่ไหนได้ข่าวที่ว่านั่นมั่วเต็มที่ เพราะผลชนะเท่านั้นจะทำให้ทีมรอดตกชั้น 100% นักเตะก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวเตะส่งกันไปมาเพื่อถ่วงเวลา ก่อนจะมารู้ตัวว่าทีมตกชั้นเสียแล้วเพราะแต้มเท่ากับทีมหนีตกชั้นด้วยกัน แต่ประตูได้เสียแย่กว่า บ้าบอคอแตกสิ้นดี

8.เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ตกชั้นปี 2003

ทีมขุนค้อนบินสูงเมื่อซีซั่นก่อนซึ่งทีมจบที่อันดับ7ในลีก แต่พอซีซั่นรุ่งขึ้น ทีมร่วงพรวดเดียว 11 อันดับ กุนซือของทีมในขณะนั้นคือ เกล็น โรเดอร์ ซึ่งหมดเวลาไปค่อนซีซั่นกับการผ่าตัดสมองจนทีมอาการแย่พอๆกับผู้จัดการทีม คนที่เข้ามาแทนที่โรเดอร์ก็คือ เซอร์เทรเวอร์ บรู๊กกิ้ง แต่ก็ไม่ทันการณ์ ทีมต้องร่วงตกชั้นไปทั้งๆที่ทีมมีผู้เล่นชั้นดีมากมายเช่น เดวิด เจมส์, เจอร์เมน เดโฟ, โจ โคล, ไมเคิ่ล คาร์ริค, เฟร็ดเดอริค กานูเต้ รวมไปถึง เปาโล ดิคานิโอ

9.แอตเลติโก มาดริด ตกชั้นปี 2000

สุดยอดการตกชั้นสุดช็อคของวงการฟุตบอลสเปน เมื่อแชมป์ 9 สมัยอย่างทีมตราหมีร่วงตกชั้นอย่างเหลือเชื่อ ทีมเริ่มต้นซีซั่นอย่างแปลกๆเมื่อกุนซือคนเก่าอย่าง เคลาดิโอ รานิเอรี่ โดนไล่ออก และเป็น ราโดเมียร์ อันทิช เข้ามาคุมทีมอีกครั้งเป็นหนที่ 3 ในรอบ 5 ปี แม้จะดูไปได้สวยกับการที่ทีมเข้าชิงชนะเลิศบอลถ้วยรายการโคป้า เดล เรย์ รวมถึงการที่กองหน้าของทีมอย่างจิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ ยิงไปคนเดียว 24 ประตูจาก 34 นัดที่ลงเตะ แต่ทีมก็ยังมีผลงานสุดห่วยในลีก ตกชั้นไปแบบที่คนทั้งโลกไม่อยากเชื่อสายตา

10.เลสเตอร์ ซิตี้ ตกชั้นปี 2008

หลังจากร่วงตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกพร้อมลีดส์ ยูไนเต็ดเมื่อปี 2004 พอ 4 ปีให้หลังเลสเตอร์ทำสถิติได้แต้มน้อยที่สุดตั้งแต่ทีมก่อตั้งมา จนทีมต้องร่วงไปเล่นลีกวันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร กุนซือ เอียน ฮอลโลเวย์ เข้ามาคุมทีมเลสเตอร์ในเดือนพฤศจิกายน 2007 และนับเป็นกุนซือของทีมจิ้งจอกคนแรกในรอบ 50 ปีที่ทำทีมคว้าชัยชนะได้ในนัดประเดิมสนาม แต่เขาคือกุนซือรายที่ 4 ของทีมจิ้งจอกในรอบ 9 เดือน! ด้วยการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมบ่อยขนาดนี้ จิ้งจอกก็หงอยอ่อนแรงเป็นจิ้งจกจนร่วงตกชั้นไปด้วยแต้มสุดห่วย ทั้งๆที่ทีมเพิ่งย้ายสนามเหย้าไปเล่นที่วอล์คเกอร์โบลว์เมื่อปี 2002 ซึ่งจุคนดูได้ถึง 32,500 ที่นั่ง อย่าแปลกใจหากสนามสุดสวยสนามนี้จะมีเก้าอี้ว่างมากกว่าจำนวนแฟนบอลที่เข้าชมทีมในปีนี้

การร่วงตกชั้นสุดช็อคของหลายต่อหลายทีมช่วยยืนยันสิ่งหนึ่งกับเราได้ดีว่า ไม่มีทีมไหนคือใครจะคงอยู่ค้ำฟ้าได้ตลอดไป ฟุตบอลมีวงจรของมัน มีขึ้นก็มีลง มีเกิดก็มีแตกดับ เหมือนชีวิตเราเอง ไม่มีใครโชคดีตลอดไป และไม่มีใครโชคร้ายตลอดกาล แฟนบอลหลายต่อหลายคนก็ได้แต่เฝ้าฝันถึงวันที่ทีมรักที่ร่วงตกชั้นไปจะกลับมาโลดแล่นบินสูงได้อีกครั้ง คงมีซักวันที่เป็นวันของเรา ขอเอาใจช่วยทุกทีมที่กำลังเจอเรื่องร้ายๆอยู่ครับ!

*ข้อมูลจาก skysport












src=http://sport.teenee.com/sport/img5/m61919.gif

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์