อันนี้ต้องบอกว่าพี่ก็ทำเกินไป

ขอวิเคราะห์เรื่องการปฏิวัติและสถานการณ์ตอนนี้

....

จริงๆ นั่งคุยกับเพื่อนๆ ติดตามข่าวสาร และอ่านประวัติศาสตร์การปฏิวัติในประเทศไทยมาหลายวันแล้ว วันนี้เห็นว่าข่าวและกระแสการทำปฏิวัตินั้นก็ค่อนข้างรุนแรง เลยอยากเอาความรู้อันน้อยนิดที่ผมมีบวกกับความคิดของเพื่อนๆทั้งในกองทัพและเพื่อนๆรุ่นพี่ที่เชี่ยวชาญทางการเมืองและการทหารมาวิเคราะห์สถานการณ์การปฏิวัติและการเมืองในช่วงนี้ครับ

ว่าด้วยเรื่องการปฏิวัติ หัวข้อนี้ช่วงนี้มาแรงมากมาย จริงๆผมก็คุยกับเพื่อนๆในกองทัพและรุ่นพี่ที่นับถือกันมาหลายวันแล้วครับ ว่ามันเป็นไปได้มาน้อยแค่ไหน อันนี้ต้องขอบอกว่าเป้นการวิเคราะห์ของผมและเพื่อนๆนะครับ ซึ่งก็ค่อนข้างตรงกันว่าไม่น่าจะเกิดการปฏิวัติในช่วงนี้ แม้จะมีความพยายามจากหลากหลายฝ่ายที่ต้องการให้ทหารนำกำลังออกมายึดอำนาจจากรัฐบาล ส่วนสาเหตุนั้นคงต้องแยกเป็นข้อๆ ว่าทำใมจึงวิเคราะห์ว่าไม่น่าจะเกิดเหตุการปฏิวัติ

1. สถานการณ์การเมืองภายในไม่เอื้ออำนวยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นแรงกดดันที่มาจากผู้มีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญซึ่งผู้มีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญเหล่านั้น ผมเชื่อว่าเพื่อนๆในพันทิปคงจะทราบกันดีว่ามีใครบ้าง กลุ่มผู้มีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญนั้นก็เกิดความขัดแย้งกัน เพราะฝ่ายหนึ่งต้องการให้เกิดการปฏิวัติล้มล้างขั้วอำนาจของรัฐบาลเดิม ส่วนอีกฝ่ายก็ต้องการให้บ้างเมืองสงบเนื่องจากเหตุการณ์ปฏิวัติเมื่อ 19 กันยายน 2549 นั้นได้พิสูจน์แล้วว่าไม่มีผลดีอะไรขึ้นเลย เพราะทำแล้วแก้ปัญหาไม่ได้จนกลายเป็นเงื่อนปมปัญหาที่ไม่มีทางออกมาจนถึงปัจจุบันและยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ประเทศไทยไม่มีเอกภาพในทุกๆด้าน ทั้งสภาพทางสังคมที่แตกแยก สถาบันสำคัญของประเทศหมดความน่าเชื่อถือ ทหารเองก็แบ่งขั้วและไม่มีความเป็นเอกภาพในกองทัพ แบ่งฝ่ายกันชัดเจน ต่างฝ่ายต่างรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไร จึงทำให้สถานการณ์ทั้งจากผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญซึ่งขัดแย้งกันและปัญหาโดยรวมไม่เอื้อต่อการปฏิวัติ

2. ในการทำปฏิวัติรัฐประหารนั้นทหารจำเป็นต้องคิดหลายรอบครับ และคิดหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขั้นตอนการปฏิบัติการ กลุ่มทหารที่อาจะต่อต้านการปฏิวัติหรีอทำปฏิวัติซ้อน กำลังทหารของฝ่ายตนเอง(อันนี้เด็กใครเด็กมันตามสายการบังคับบัญชา) สถานการณ์ของผู้ชุมนุมทั้งพันธมิตรที่กดดันให้เกิดการยึดอำนาจ และฝ่ายนปก.ซึ่งกดดันและต่อต้านการยึดอำนาจ ซึ่งแม้สื่อจะแสดงภาพข่าวเอื้อแก่พันธมิตรแต่กองทัพก็รู้ดีว่ากำลังคนที่สนับสนุนแต่ละฝ่ายมีมากน้อยแค่ไหน และมีการประเมินว่าหากไม่ปฏิวัติจะเป็นอย่างไร หากปฏิวัติจะเกิดอะไรขึ้น จึงทำให้ท่าทีของพล.อ. อนุพงษ์ ผบ.ทบ. แสดงออกมาในรูปแบบที่ต้องการความสมานฉันท์และไม่ปฏิวัติ เพราะคำนวนแล้วว่าหากปฏิวัติจะเป็นอย่างไร ในขณะที่ทหารกลุ่มคุมกำลังในกองทัพก็แบ่งเป็น2ขั้วคือมีทั้งที่ต้องการปฏิวัติและไม่ต้องการ จึงทำให้กองทัพอยู่ในสถานการณ์ที่ขยับตัวลำบากมาก จึงไม่น่าจะทำการปฏิวัติได้ เนื่องจากโอกาสล้มเหลวและถูกต่อต้านอย่างรุนแรงมีสูงกว่าการปล่อยในสถานการณ์เลยตามเลย

3. สถานการณ์ทางการเมืองภายนอกประเทศ กับประเทศเพื่อนบ้านนั้นเราทราบกันดีอย่างที่กองทัพทราบว่าเรามีปัญหาเรื่องดินแดนกับประเทศเพื่อนบ้านอยู่ หากเกิดการปฏิวัติขึ้นกำลังทหารของประเทศเพื่อนบ้านถือโอกาสเปิดศึกก็จะทำให้กำลังพลส่วนนึงต้องไปป้องกัน ซึ่งทำให้กำลังพลมีการเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก โอกาสที่จะถูกต่อต้านโดยประชาชนหรือมีกลุ่มทหารที่ไม่เห้นด้วยกับการปฏิวัติทำการปฏิวัติซ้อน จะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ในประเทศและแนวชายแดนได้ จึงทำให้กองทัพไม่กล้าเสี่ยง รวมไปถึงการเดินเกมส์ทางการทูตของรัฐบาล และอดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งอยู่ต่างประเทศมิได้นิ่งเฉยแต่มีการนำเสนอข้อมูลตนเองอย่างสม่ำเสมอ ต่างชาติรู้ดีว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในประเทศ ประกอบกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกที่ไม่สู้ดีหากเกิดการปฏิวัติต่างชาติย่อมต่อต้านและไม่ทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจด้วย อันจะทำให้ประเทศภายใต้การนำของคณะปฏิวัติไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ทางเศรษฐกิจได้ซึ่งจะนำปัญหาตามมาอีกมากมาย

3 ข้อข้างต้นนี้เป็นเหตุผลที่ผมและเพื่อนๆคิดว่าทำให้ผบ.ทบ.รวมทั้งทหารในกองทัพจำนวนมากไม่ต้องการปฏิวัติ การปฏิวัติจึงเกิดขึ้นได้ค่อนข้างยาก

ทั้งนี้ก็คงต้องดูกันต่อไปเรื่อยเพราะเหตุการณ์ทางการเมืองวันนี้มันได้เลยจุดแห่งการคาดการณ์ไปมากแล้ว อะไรหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทยตอนนี้เป้นสิ่งที่ในประวัติศาสตร์ไทยไม่เคยเกิดขึ้น จึงต้องดูไปว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป ที่วิเคราห์มานี่เป็นเพียงมุมมองที่ผมและเพื่อนๆในกองทัพคุยกันว่าไม่น่าเกิดเหตุการณ์การปฏิวัติ แต่ไม่ใช่ข้อยืนยันว่าจะไม่เกิด

ปล. ส่วนเหตุการณ์บ้านเมืองจะจบอย่างไร ผมกับเพื่อนๆคุยกันและคิดตรงกันว่า คงจบอย่างสงบยากมาก เพราะมันเลยเถิดไปมากแล้ว ซึ่งผมคิดว่าประชาชนไทยก็คงเข้าใจว่าทำใมเป็นเช่นนั้น แต่ทั้งนี้ไม่มีใครอยากเห็นความรุนแรงในประเทศ ตัวผมเองก็อยากให้มันจบในทิศทางที่ดีที่สุด สูญเสียน้อยที่สุด และเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง.....

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์