กาลูซูเปอร์ซับ!โขกตีเจ๊าผี1-1

กาลูซูเปอร์ซับ!โขกตีเจ๊าผี1-1

เชลซียังรักษาสถิติไม่แพ้ใครในบ้านต่อไปเป็นนัดที่ 85 หรือ 4 ปีกว่าเมื่อได้โซลามง กาลูตัวสำรองโขกตีเสมอก่อนหมดเวลาแค่ 10 นาทีหลังก่อนหน้านี้เจอปาร์คซัดขึ้นนำตั้งแต่ครี่งแรกทำให้ตำแหน่งจ่าฝูงสัปดาห์ตกเป็นของอาร์เซนอลไป

บรรยายเกมโดยนาฬิกาทราย

เชลซี 1-1 แมนฯยูไนเต็ด

สนาม :
สแตมฟอร์ด บริดจ์

ประตู : 0-1 ปาร์ก จี ซอง น.18,1-1 ซาโลมง กาลู น.80


หลังจากอุทธรณ์โทษแบนของเทอร์รี่ผ่าน ทำให้เชลซีมีผู้เล่นชุดที่สมบูรณ์เกือบที่สุดลงสนาม มีแลมพาร์ด,บัลลัค และเจทีนำทัพ ขาดก็เพียงแค่เดโก้เท่านั้นที่ได้รับบาดเจ็บตอนวอร์มพอดีอย่างโชคร้าย

ด้านผีแดงที่ไม่ชนะใครมาสามเกมติดต่อกัน ไม่มีวิดิชที่โดนใบแดงในเกมกับลิเวอร์พูล จึงใช้อีแวนส์ลงเป็น 11 ตัวแรกอีกนัด ในขณะที่แดนหน้า เบอร์บาตอฟหายเจ็บแล้ว ยืนเป็นตัวจริงคู่กับเวย์น รูนีย์

แค่ 9 นาทีแรกของเกมก็มีเสียวซะแล้ว จากจังหวะที่ปีเตอร์ เช็กออกมาเคลียร์บอลทะเล่อทะล่า ไปเข้าทางแบร์บาตอฟเปิดต่อให้รูนีย์ยิงตามน้ำทันที ซึ่งน้ำหนักของลูกนับว่าใช้ได้ แต่ทิศทางไม่ดีพอ เด้งถากเสาไปนิดเดียว

แต่อีกนาทีเดียวถัดจากนั้น เชลซีก็น่าจะได้ประตูขึ้นนำสุดๆ เมื่อโจ โคล ได้จังหวะหลุดเดี่ยว ตัวต่อตัวกับฟาน เดอ ซาร์แล้ว แต่ดันรีบยิงเกินไป ลูกเลยหลุดออกข้างแบบน่าเสียดาย

ลางร้ายของเชลซีเริ่มบังเกิดขึ้นนาทีที่ 13 เมื่อริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ได้รับบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ทำให้สโคลารี่ต้องส่งจอมเหวออย่างอเล็กซ์ ลงมาจับคู่กับกัปตันเจที

เกมรับของสิงห์บลูส์เริ่มป่วนทันที เมื่อขาดคาร์วัลโญ่ นาทีที่ 16 เบอร์บาตอฟดึงจังหวะ ก่อนแทงนิ่มๆให้เฟอร์ดินานด์ที่เติมขึ้นมาได้ซัดแบบไม่มีใครประกบเลย แต่ต้องขอบคุณปีเตอร์ เช็กที่เซฟด้วยขาออกหลังไปได้

อย่างไรก็ตามหายนะของเชลซีก็มาถึงในอีกสองนาทีถัดมา เมื่อโดนทีมเยือนออกนำ 1-0 จากการประสานงานอย่างสุดสวยของเอวร่า และรูนีย์ ก่อนที่จะไหลให้เบอร์บาตอฟได้ยิงเน้นๆ ซึ่งถึงเช็กจะเซฟได้ แต่ก็โดนตี๋ปาร์ก จี ซองเข้ามาซ้ำตุงตาข่ายอยู่ดี

เกมของแมนฯยูไนเต็ดดีกว่าได้ไม่นาน ก็เกิดเคราะห์ร้ายขึ้นกับทีมบ้าง เมื่อเอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ นายทวารตัวหลักบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว และเซอร์อเล็กซ์ ต้องรีบส่งคุซแซกลงมาเป็นการด่วน

นั่นทำให้เชลซีเริ่มให้การโจมตียิงไกลนอกเขตโทษเพิ่มมากขึ้น นาทีที่ 37 อเล็กซ์ อัดเต็มข้อกว่า 30 หลาลูกพุ่งแรงราวลูกปืนแต่คุซแซ็กยังปัดไว้ได้ดี และก่อนหมดครึ่งแรกเล็กน้อยบัลลัคได้ยิงไกลอีกดอก แต่ก็ไม่ผ่านมือคุซแซ็กเหมือนเดิม

เข้าสู่ครึ่งหลังสโคลารี่ต้องส่งดร็อกบา ลงมาเพิ่มพลังในเกมรุกเป็นการด่วน และหอกไอวอรี โคสต์ก็ทำให้แนวรุกของเชลซีวูบวาบน่ากลัวขึ้นพอควรทีเดียว จนผีแดงตั้งตัวแทบไม่ติด

ซึ่งทำให้เฟอร์กี้ ต้องทิ้งไพ่ตายลงมา ซึ่งก็ได้แก่คริสติอาโน่ โรนัลโด้นั่นเอง โดยเปลี่ยนลงมาแทนพอล สโคลส์ที่วันนี้เล่นได้ไม่โดดเด่นเท่าไหร่ และแน่นอนว่า โรนัลโด้ต้องรับเสียงโห่จากแฟนๆเชลซีไปตามระเบียบ

โจ โคล พลาดโอกาสยิงตีเสมออย่างไม่น่าให้อภัย ในนาทีที่ 65 เมื่อหลุดกับดักล้ำหน้า ได้หลุดเดี่ยวอีกครั้ง แต่จังหวะยิงไม่เด็ดขาดพอ ไปยิงติดตัวคุซแซกออกหลังอย่างน่าเสียดายเหลือเกิน

เชลซีพยายามทำทุกทางเพื่อจะยิงประตูให้ได้ นาทีที่ 72 พวกเขาก็ชวดโอกาสอีกครั้ง เมื่อโจ โคลครอสบอล 50-50 ผ่านมือคุซแซ็กไปแล้ว แต่จังหวะเข้าชาร์จของอเนลก้า กลับเตะวืดไปซะอย่างนั้น

และแล้วในที่สุดความพยายามของสิงห์ไฮโซก็สัมฤทธิ์ผลจนได้ จากจังหวะฟรีคิกในนาทีที่ 80 เมื่อจอห์น โอบี มิเกล บอมบ์ฟรีคิกระยะ 30 หลาเข้ามา กาลูตัวสำรองโถมโหม่งเต็มๆเสียบหน้าต่างอย่างสวยงามสุดๆ สกอร์กลับมาเป็น 1-1 แล้ว

เชลซีน่าจะพลิกขึ้นนำด้วยซ้ำในอีก 2 นาทีจากนั้น เมื่อกาลูสบโอกาสยิงเหน่งๆประมาณจุดโทษ แต่บอลดันเหินข้ามคานออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ

ช่วงเวลาที่เหลือเชลซีบดยำใส่ยูไนเต็ดอย่างหนักแต่แนวรับทีมเยือนช่วยกันเคลียร์ชนิดใจระทึกก่อนยันเสมอแบ่งแต้มกันไปแบบสุดมัน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เชลซี :
ปีเตอร์ เช็ก 5,โจเซ่ โบซิงว่า 5,ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่(อเล็กซ์ น.13,8),จอห์น เทอร์รี่ 7,แอชลีย์ โคล 7,จอห์น โอบี มิเกล 7 ,โจ โคล 7,มิชาเอล บัลลัค 7(ซาโลมง กาลู น.75,8),แฟรงค์ แลมพาร์ด 6,ฟลอรองต์ มาลูด้า 5(ดิดิเยร์ ดร็อกบา น.46,6),นิโคลาส อเนลก้า 5

สำรองไม่ได้ลงสนาม : คาร์โล คูดิชินี่,เวย์น บริดจ์,ชูเลียโน่ เบลเลตติ,เปาโล แฟร์ไรร่า

ใบเหลือง : มิเกล

แมนฯยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ 5(โทมัส คุซแซ็ก น.32,6),แกรี่ เนวิลล์ 6 ,ริโอ เฟอร์ดินานด์ 7 ,จอนนี่ อีแวนส์ 6,พาทริซ เอวร่า 8 ,ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 7,โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ 6,พอล สโคลส์ 6 (คริสติอาโน่ โรนัลโด้ น.54,6 ),พาร์ก จี ซอง 8 *(จอห์น โอเช น.75,5),ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 5 ,เวย์น รูนีย์ 7

สำรองไม่ได้ลงสนาม :

ใบเหลือง : เนวิลล์,เฟอร์ดินานด์,สโคลส์,เบอร์บาตอฟ,รูนีย์,เอวร่า,โรนัลโด้

ผู้ตัดสิน : ไมค์ ไรลีย์



















































 

ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีจาก  lentee

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์