สเปนเฮดับโทษเลี่ยน4-2!กาซียาสโชว์หนึบพาลิ่ว

สเปนเฮดับโทษเลี่ยน4-2!กาซียาสโชว์หนึบพาลิ่ว

ได้ทีมเข้ารอบรองฯ ยูโร 2008 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อ สเปน ดวลกับ อิตาลี จนถึงช่วงที่ต้องสัดสินด้วยการยิงจุดโทษ และเป็น อีเกร์ กาซียาส ประตูสเปนโชว์ฟอร์มหรูช่วยสเปน ลบอาถรรพ์ 22 มิถุนายน ได้สำเร็จเมื่อเจ้าตัวเซฟให้ทีม ชนะ 4-2 ผ่านเข้ารอบต่อไป


ฟุตบอลยูโร 2008

รอบ 8 ทีมสุดท้าย

(วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 2551)

สเปน - อิตาลี

(สเปนชนะจุดโทษ 4-2)


สนาม : แอร์นส์ท ฮัปเปิ้ล สตาดิโอน (เวียนนา, ออสเตรีย)


ทีมชาติสเปน ลงสนามพบ อิตาลี ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 รอบ 8 ทีมสุดท้ายที่แอร์นส์ท ฮัปเปิ้ล สตาดิโอน กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ถือเป็นคู่สุดท้ายของรอบนี้ หลังจาก เยอรมัน, ตุรกี และ รัสเซีย ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปแล้ว


หลุยส์ อราโกเนส โค้ชสเปนส่ง ดาบิด บีย่า ผู้นำดาวซัลโวยูโร 2008 และ เฟร์นานโด ตอร์เรส เป็นกองหน้าตัวหลัก ชาบี เอร์นานเดซ, อันเดรส อิเนียสต้า, ดาบิด ซิลบา เป็นคีย์แมนแดนกลาง ส่วน โรแบร์โต้ โดนาโดนี่ กุนซืออิตาลีส่ง อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ มิดฟิลด์วัย 23 ลงเล่นแทน อันเดรีย ปิโร์โล่ ที่ติดโทษแบน และ มัสซิโม อัมโบรซินี่ แทน เจนนาโร่ กัตตูโซ่ ที่ติดโดนแบนเช่นเดียวกัน


เกมนี้ กษัตริย์ ฆวน คาร์ลอส แห่งสเปน และพระราชินี โซเฟีย เสด็จทอดพระเนตรแมตช์ในสนาม เช่นเดียวกับ ซีเนดีน ซีดาน อดีตเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติฝรั่งเศส ชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 1998 และแชมป์ยูโร 2000 เข้ามาดูเกมในสนาม หลังจากเขามาเปิดคลินิกสอนบอลที่เวียนนา


ครึ่งแรก นาทีที่ 7 เซร์คิโอ รามอส แบ็กขวาสเปนทำฟาวล์ ลูก้า โทนี่ ทำให้ อิตาลี ได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย และก็เป็น ดานิเอเล่ เด รอสซี่ มิดฟิลด์ยิงฟรีคิกไปตรงตัว อีเกร์ กาซียาส นายทวารกัปตันทีมสเปน จากนั้นนาทีที่ 9 ดาบิด บีย่าทำชิ่งให้ ดาบิด ซิลบา ซัดไปแฉลบ ดานิเอเล่ เด รอสซี่ กองกลางอิตาลี ก่อนที่จานลุยจิ บุฟฟ่อน ผู้รักษาประตูกัปตันทีมเซฟได้สบาย


เกมผ่านมาถึงนาที 17 เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงสเปนพาบอลหนี คริสเตียน ปานุชชี่ เซนเตอร์ฮาล์ฟอัซซูร์รี่ ก่อนยิงข้ามคาน และนาทีต่อมา มัสซิโม อัมโบรซินี่ โยนบอลจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ซิโมเน่ แปร์ร็อตต้า โหม่งบอลลงพื้นไปเข้าซอง อีเกร์ กาซียาส นายทวาร


สเปนน่าได้ประตูนาที 24 ดานิเอเล่ เด รอสซี่ ทำฟาวล์ ดาบิด บีย่า ทำให้สเปน ได้ฟรีคิกระยะ 25 หลาจากฝั่งซ้าย ดาบิด บีย่า ซัดฟรีคิกบอลทะลุกำแพง และพุ่งไปตรงตัว จานลุยจิ บุฟฟ่อน


ทั้งสองทีมต่างมีจังหวะลุ้นทำประตู นาที 36 เป็นโอกาสของอิตาลี อันโตนิโอ คัสซาโน่ โยนบอลจากฝั่งซ้ายเข้ามาหน้าประตูให้ ลูก้า โทนี่ โหม่งไปโดน การ์ลอส มาร์เชน่า เซนเตอร์ฮาล์ฟสเปนสกัดออกเส้นหลัง และนาทีต่อมา ดาบิด ซิลบา ดาวเตะสเปนยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งขวา บอลถากเสาออกไปไม่กี่หลา


ท้ายเกมครึ่งแรก ฟาบิโอ กรอสโซ่ แบ็กซ้ายอิตาลีทำฟาวล์ ดาบิด ซิลบา โดยนักเตะสเปนเรียกร้องลูกจุดโทษ แต่ เฮอร์เบิร์ต ฟานเดล ผู้ตัดสินชาวเยอรมันไม่เป่าให้ สเปน ได้ลูกจุดโทษแต่อย่างใดในนาที 41 จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 0-0


ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีโอกาสทำประตูกันเน้นๆแต่นาทีที่ 55 เฟร์นานโด ตอร์เรส กวดไล่ไปเอาบอลที่สุดเส้นทางขวาแล้วม้วนหนี คริสเตียน ปานุชชี่ ก่อนตบเข้ากลางที่มี ดาบิด บีย่า วิ่งขึ้นมา แต่ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ สกัดทิ้งได้ก่อนหวุดหวิด


ถัดมาอีก 3 นาที อิตาลี ชิงแก้เกมก่อน ซิโมเน่ แปร์ร็อตต้า ออกให้ เมาโร คาโมราเนซี่ ลงเล่นแทน และอีกไม่นาน เชส ฟาเบรกาส กับ ซานติ กาซอร์ล่า ก็ลงมาแทน อิเนียสต้า และ ชาบี เอร์นานเดซ ของสเปน


นาทีที่ 61 อัซูซูรี่ ได้โอกาสทองหลังจาก ดานิเอเล่ เด รอสซี่ หยอดขึ้นหน้า ลูก้า โทนี่ โขกบอลลอยให้ เมาโร คามาโรเนซี่ โขกชงกลับมาอีกที บอลโดนเคลียร์ออกไป คาโมราเนซี่ หวดซ้ำโดนเท้า อิเกร์ กาซิยาส สกัดด้วยเท้าซ้ายออกมาหวุดหวิด


นาทีที่ 74 อิตาลี ปรับแผนอีกครั้งด้วยการส่ง อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ลงมาแทน อันโตนิโอ คาสซ่าโน่


นาทีที่ 80 สเปนเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ มาร์กอส เซนน่า ได้ตะบันจากระยะเกือบ 25 หลาบอลพุ่งตรงกรอบ บุฟฟ่อน รับได้แต่บอลกระฉอกปลิ้นไหลไปชนเสาประดอนกลับมาเข้าซอง บุฟฟ่อน อีกครั้งแบบโชคช่วย


อย่างไรก็ตามเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ หมดเวลา 90 นาที เสมอกันไป 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษ


ช่วงต่อเวลาเพียง 2 นาที สเปนได้ลุ้นประตูก่อนเมื่อ ดาเนี่ยล กีซ่า ได้แปบอลหน้าเขตโทษแต่กองหลัง อิตาลี สกัดไว้ได้บอลกระดอนมาเข้าทาง ดาบิด ซิลบา วิ่งเข้ามายิงด้วยเท้าถนัดเต็มแรงบอลพุ่งเรียดถากเสาออกไปนิดเดียว


นาทีที่ 95 อิตาลีเกือบได้ประตูออกนำบ้างเมื่อตัวสำรองเปิดบอลจากด้านขวาเข้ากลางก่อนจะเป็น อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ จะโขกเต็มๆ บอลพุ่งจะเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่ อีเกร์ กาซียาส กลับพุ่งปัดข้ามคานออกไปได้หวุดหวิด


ก่อนหมดเวลาครึ่งแรกการต่อเวลา สเปน มาได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อได้เล่นลูกตั้งเตะจากการกราบซ้ายแต่เมื่อเปิดบอลเข้ามาอิตาลีสกัดบอลออกหลังผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลา 105 นาที ต้องลุ้นต่อในอีก 15 นาทีหลัง


เริ่มเกมช่วงต่อเวลาครึ่งหลังมาได้เพียง 2 นาที อัซซูรี่ เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนสุดท้ายเมื่อจัดการส่ง อเลสซานโด เดล ปิเอโร่ ลงแทน อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ เพื่อเพิ่มความสดให้กับทีม


นาทีที่ 110 ดาบิด ซิลบา จ่ายบอลทะลุช่องกองหลัง อิตาลี ให้ บีย่า หลุดเข้ากรอบเขตโทษด้านขวาแต่ก่อนจะยิงกลับโดน บุฟฟ่อน ออกมาบล็อกบอลออกหลังพลาดการได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย


นาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลา สเปน ได้ลุ้นประตูปิดท้ายเมื่อ ดาบิด บีย่า จ่ายบอลตัดกองหลังอิตาลีให้กับ ซานติ กาซอร์ล่า ที่เติมขึ้นมาทางกราบซ้ายก่อนเจาตัวจะเลี้ยงเข้าเขตโทษและซัดด้วยซ้ายเต็มแรงบอลพุ่งผ่านหน้าประตูถากเสาสองออกไป และผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขันต้องลุ้นกันต่อในการดวลลูกโทษตัดสินในที่สุด


ในการดวลจุดโทษ สเปน ยิงก่อนโดย ดาบิด บีย่า ยิงเสียบเสาขวามือประตูเข้าไป ก่อน ที่ ฟาบิโอ กรอสโซ่ จะมายิงมุมเดียวกันตามตีเสมอ คนที่สอง ซานติ กาซอร์ล่า วิ่งมายิงด้วยขวาทมเข้ามุมเดียวกับ บีย่า เข้าไป แต่ เด รอสซี่ กลับยิงไปมุมเดียวกันก่อนถูก กาซียาส ปัดออกไป


คนที่ 3 เซนน่า ยิงด้วยขวากลางประตูให้ สเปน นำ 3-1 ก่อนที่ คาโมราเนซี่ จะมายิงเสียบสามเหลี่ยมมุมซ้ายมือประตูให้ อิตาลี ไล่มาเป็น 2-3 ดาเนี่ยล กีซ่า คนที่ 4 ของ สเปน ยิงโดน บุฟฟ่อน เซฟไว้ได้ ก่อนที่ ดิ นาตาเล่ จะยิงไปโดน กาซียาส เซฟไว้ได้ และ เชส ฟาเบรกาส ยิงเป็นคนสุดท้าย ก่อนเจ้าตัวจะบรรจงแปบอลเสียบเสาเข้าประตูให้ สเปน ชนะ อิตาลี เด็ดขาด 4-2 เข้ารอบรองชนะเลิศพบกับ รัสเซีย เป็นการล้างตาต่อไป


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
สเปน : 1-อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) ; 15-เซร์คิโอ รามอส, 5-การ์เลส ปูโยล, 4-การ์ลอส มาร์เชน่า, 11-โจน กัปเดบีล่า ; 19-มาร์กอส เซนน่า ; 6-อันเดรส อิเนียสต้า, 8-ชาบี เอร์นานเดซ, 21-ดาบิด ซิลบา ; 7-ดาบิด บีย่า, 9-เฟร์นานโด ตอร์เรส
สำรอง : 13-อันเดรส ปาล็อป (ผู้รักษาประตู), 23-เปเป้ เรน่า (ผู้รักษาประตู), 2-ราอูล อัลบิโอล, 3-เฟร์นานโด นาบาร์โร่, 10-เชส ฟาเบรกาส, 12-ซานติ กาซอร์ล่า, 14-ชาบี อลอนโซ่, 16-เซร์คิโอ การ์เซีย, 17-ดาเนี่ยล กีซ่า, 18-อัลบาโร่ อาร์เบลัว, 20-ฆัวนิโต้ กูเตียร์เรซ, 22-รูเบน เด ลา เร้ด


อิตาลี : 1-จานลุยจิ บุฟฟ่อน (กัปตันทีม) ; 19-จานลูก้า ซามบร็อตต้า, 2-คริสเตียน ปานุชชี่, 4-จอร์โจ้ คิเอลลินี่, 3-ฟาบิโอ กรอสโซ่ ; 22-อัลแบร์โต้ อาควิลานี่, 10-ดานิเอเล่ เด รอสซี่, 13-มัสซิโม อัมโบรซินี่ ; 20-ซิโมเน่ แปร์ร็อตต้า ; 18-อันโตนิโอ คัสซาโน่, 9-ลูก้า โทนี่
สำรอง : 14-มาร์โก อเมเลีย (ผู้รักษาประตู), 17-มอร์แกน เด ซานซ์ติส (ผู้รักษาประตู), 5-กัมเบรินี่, 7-อเลสซานโด เดล ปิเอโร่, 11-อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่, 12-มาร์โก บอร์ริเอลโล่, 15-ฟาบิโอ กวายาเรลล่า, 16-เมาโร คาโมราเนซี่, 23-มาร์โก มาเตรัซซี่


ผู้ตัดสิน : เฮอร์เบิร์ต ฟานเดล (เยอรมัน)
ผู้กำกับเส้น : คาร์สเท่น คาดัค (เยอรมัน), โฟลเกอร์ เวเซล (เยอรมัน)
ผู้ตัดสินที่ 4 : ฟร้องค์ เดอ บลีกแกร์ (เบลเยี่ยม)































เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์